วันศุกร์, ธันวาคม 19, 2557

จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทยฯ โต้ “ประยุทธ์” ไม่กลับไทย จนกว่าประชาชนจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่เชื่อกระบวนการยุติธรรม ยุคเผด็จการทหาร


กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในประเทศไทยว่า ให้คนไทยที่หนีภัยการเมืองอยู่ในต่างประเทศ กลับมามอบตัวสู้คดีและจะให้ความยุติธรรม นั้น นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ซึ่งลี้ภัยการเมืองอยู่ในต่างประเทศ กล่าวว่า ตนออกจากบ้านเกิด พลัดพรากครอบครัว เพื่อมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย เพราะเห็นว่า ทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่ยอมรับระบบเผด็จการทหารและได้ออกมาเพื่อฟ้องชาวโลก

“ผมออกมานอกประเทศเพราะไม่ยอมรับการทำรัฐประหาร เป็นสิ่งถูกต้อง มีเหตุผลตามหลักประชาธิปไตย ด้วยความตั้งใจ ที่จะออกมาเพื่อต่อสู้กับระบบเผด็จการทหาร โดยฟ้องนานาชาติให้ทราบว่า ประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย กดขี่ข่มเหง ข่มขู่ประชาชน ให้เกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใด ๆ มีการเรียกตัวประชาชนไปปรับทัศนคติ ข่มขู่ให้สยบยอม บ้านเมืองไม่ได้สงบสุข” นายจารุพงศ์กล่าว

นายจารุพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ตนต้องการให้ต่างชาติที่เป็นประชาธิปไตย กดดัน ไม่คบค้าสมาคมกับรัฐบาลเผด็จการทหาร จนต้องยอมลงจากอำนาจ เพราะเสรีไทยฯ ต้องการสร้างระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจสูงสุดต้องเป็นของคนไทยทุกคน โดยคนไทยทุกคนต้องช่วยกันออกมาขัดขืน ต่อต้านการปกครองระบบเผด็จการทหารพร้อมกัน และร่วมกันสร้างแรงกดดันให้นานาอารยะประเทศ ไม่ยอมรับการปกครองระบบเผด็จการทหาร

“อย่าคาดหวังกับผม และคณะเสรีไทยฯว่า การต่อสู้จะได้รับชัยชนะในเร็ววัน ตราบเท่าที่คนไทยทุกคนยังไม่ตาสว่าง ยังไม่ขัดขืนต่อสู้กับอำนาจเผด็จการทหาร ผมยอมรับว่า ยังมีคนไทยจำนวนมากมายหลายกลุ่ม ที่ลุกขึ้นต่อสู้อยู่เวลานี้ ผมจึงเรียกร้องให้ทุกกลุ่มจับมือประสานกันเป็นพลังขับเคลื่อนให้ประชาชนคนไทยทั้งชาติ ต่อสู้กับเผด็จการทหารนี้ให้ได้รับชัยชนะโดยเร็ว เราต้องสามัคคีกันร่วมกันอย่าคิดตำหนิกัน อย่ามัวแต่จับผิดพวกเดียวกัน ขอให้มองไปที่เผด็จการทหาร อย่าตกเป็นเครื่องมือหรือแนวร่วมเผด็จการทหาร ทำให้เราแตกแยกความสามัคคีกัน หนทางต่อสู้ยังยาวไกล มาร่วมมือกันดีกว่ากัดกัน” นายจารุพงศ์กล่าว

เลขาธิการองค์การเสรีไทยฯ กล่าวว่า ขอให้คนไทยทุกคนรู้ว่าเวลานี้ กลุ่มทหารเผด็จการได้ปล้นอำนาจจากประชาชนไป และยังกดขี่ ข่มขู่ให้ประชาชนต้องสยบยอม ขณะที่คณะทหารจะเสวยสุข อยู่บนหัวประชาชนร่ำรวยเหมือนทหารยุคจอมพล สกฤษ์ ธนะรัตน์ จอมพลถนอม กิตติขจร และจอมพลประภาส จารุเสถียร ที่เมื่อเผด็จการเหล่านี้ตายไป ทำให้ลูกเมียแย่งชิงสมบัติฟ้องร้องกันวุ่นวาย ทำให้ สังคมได้รับรู้ว่าร่ำรวยมีเงินเป็นพัน ๆ ล้าน ขณะที่มีชีวิตอยู่ ปากบอกว่าไม่โกง ดังนั้นจงเชื่อเถิดว่า ระบบเผด็จการทหาร ที่ว่าทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยนั้นไม่เป็นความจริง ระบบเผด็จการทหาร กำลังนำพาประเทศไปสู่ความยากจน อดอยาก ไร้อนาคต ไร้ความสุข ไร้ความหวังที่สดใส

“ขอให้คนไทยทุกคน จงลุกขึ้นต่อสู้ ร่วมมือกัน เพื่อให้อำนาจเป็นของพวกเราทุกคน เพื่อคนไทยทุกคนจะได้มีความสุขความเจริญ เป็นประชาธิปไตยที่ทุกคนได้รับโอกาสเท่าเทียมกัน ได้รับความยุติธรรม ไม่ต้องหวาดกลัวการกดขี่ของทหารอีกต่อไป จงสู้เพื่อตัวท่านเอง เพื่ออนาคตของลูกหลานท่าน เป็นหน้าที่ของทุกท่าน ที่ต้องรวมพลังช่วยกันขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ความเจริญก้าวหน้าต่อไป โปรดร่วมมือกับองค์การเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย” นายจารุพงศ์กล่าว.