ทหารยื่นคำขาดห้าม”เดินก้าวแลก” ชาวบ้านร่วม 200 จัดกิจกรรมสะท้อนปัญหาถูกจับ
ที่มา คนชายข่าว คนชายขอบ
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2557 เวลาประมาณ 09 .00 น. ที่วัดสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ชาวบ้านจากเครือข่ายต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากแผนแม่บทป่าไม้ และกลุ่มเกษตรกรที่ประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนที่ดินทำกิน นักวิชาการ นักศึกษา จาก 8 จังหวัดภาคเหนือแและภาคีเครือข่ายภาคประชาชน เช่น สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.)จำนวนประมาณ 200 คนได้รวมตัวกันเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ก่อนออกเดินรณรงค์เพื่อการปฏิรูปที่ดินและทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืนภายใต้กิจกรรมชื่อว่า “เดิน ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย”
ทั้งนี้เดิมทีกิจกรรมต่างๆจะจัดขึ้นที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีการจัดงานครบรอบ 70 ปีครูบาศรีวิชัย ประกอบกับความไม่มั่นใจในสถานการณ์ซึ่งเต็มไปด้วยกองกำลังของภาครัฐ ทำให้ทางแกนนำสกน.เปลี่ยนการจัดงานมายังวัดสวนดอก อย่างไรก็ตามแกนนำชาวบ้านกลุ่มหนึ่งยังคงเดินทางไปสักการะครูบาวิชัยเพื่อขอพรให้กิจกรรมดำเนินไปด้วยดี โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจคอยดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด
นายดิเรก กองเงิน ตัวแทนภาคประชาชน กล่าวว่า ปี 2557 นี้ ครบรอบ 40 ปี แห่งการก่อตั้ง “สหพันธ์ชาวนาชาวไร่แห่งประเทศไทย” เครือข่ายเกษตร ชาวนา ชาวไร่ ขอน้อมรำลึก สดุดีและสืบสานประวัติศาสตร์การต่อสู้ของประชาชนและเหล่าผู้นำที่ล่วงลับ และนับตั้งแต่ คสช. ออกคำสั่งที่ 64/2557 และแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนการเคลื่อนไหว ซึ่งนอกจากปัญหาที่ดินของเกษตรจะไม่ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ในทางกลับกันคำสั่งและแผนแม่บทดังกล่าว ยังก่อให้เกิดผลกระทบกับเกษตรกรและผู้ยากจนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น สกน.จึงจัดกิจกรรม “ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย” ขึ้น โดยมีเป้าหมาย “หยุด 1+4” คือ หยุดแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติกฎหมาย 4 ฉบับ เพื่อการปฏิรูปที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติภาษที่ดินอัตราก้าวหน้า, ร่างพระราชบัญญัติธนาคารที่ดิน, ร่างพระราชบัญญัติสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากร ในรูปแบบโฉนดชุมชน และร่างพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม
นายดิเรก กล่าวต่อว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งที่ 64/2557 เรื่องการปราบปรามการหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยมอบหมายให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กอ.รมน. ดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้บุกรุกป่า โดย คสช. มีเจตนารมณ์ที่จะปราบปรามนายทุน ผู้มีอิทธิพลและขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ มีคำสั่งที่ 66/2557 ซึ่งเน้นย้ำว่าการดำเนินการต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมนั้นๆ ก่อนคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลังคำสั่งประกาศใช้กลับพบว่าได้มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติการโดยไม่แยกแยะว่าเป็นนายทุน ผู้มีอิทธิพล หรือประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งได้อาศัยอยู่ในพื้นที่มาก่อน ตลอดจนได้มีเจ้าหน้าที่บางส่วนอ้างคำสั่งดังกล่าวไปข่มขู่คุกคาม ทำให้เกิดความวิตกกังวลและหวาดกลัว จนไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข
“อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 มีการประกาศใช้แผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายคือการเพิ่มพื้นที่ป่าให้อุดมสมบูรณ์ให้ได้ 40% ของพื้นที่ประเทศโดยใช้คำว่าการทวงคืนผืนป่าซึ่งเป็นที่ดินและที่อยู่อาศัยของคนจน ” นายดิเรก
“อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 มีการประกาศใช้แผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายคือการเพิ่มพื้นที่ป่าให้อุดมสมบูรณ์ให้ได้ 40% ของพื้นที่ประเทศโดยใช้คำว่าการทวงคืนผืนป่าซึ่งเป็นที่ดินและที่อยู่อาศัยของคนจน ” นายดิเรก
ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีกรรมประมาณเวลา 10.10 น.ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจำนวนมากได้กระจายตัวที่วัดสวนดอก พร้อมทั้งยื่นคำขาดต่อแกนนำให้ยุติการเดินเท้าก้าวแลก หากยังเดินหน้าต่อแกนนำจะต้องไปรายงานตัวในค่ายทหาร ทั้งนี้เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้เชิญแกนนำคือ นายประยงค์ ดอกลำไย และพวกอีก 2 คนไปเจรจาอีกครั้งเพื่อขอให้ยุติกิจกรรม
ooo
ทหารสกัดชาวบ้านชูปฏิรูปที่ดินห้ามเดินเข้ากรุง-จับทันทีที่ก้าวเท้ารณรงค์
ที่มา ประชาไท
Sun, 2014-11-09 15:31
ชาวบ้านหลายเครือข่ายเริ่ม "เดิน ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย" จากเชียงใหม่มุ่งเข้า กทม. ชูปฏิรูปที่ดิน-ล้มแผนแม่บทป่าไม้ที่ขัดขวางคนอยู่กับป่า ทหาร มทบ.33 สกัดตั้งแต่หน้าวัดสวนดอกระบุขัดกฎอัยการศึก พร้อมจับชาวบ้าน 4 คนรวม "ประภาส ปิ่นตบแต่ง" หลังก้าวเท้าจากวัดไม่ถึง 50 เมตร ก่อนยอมปล่อยตัว ล่าสุดขอเจรจาให้ 'ม.ล.ปนัดดา-พล.อ.ดาวพงศ์' มาพูดคุย
9 พ.ย. 2557 - เฟซบุ๊คเพจ "พลิกฟื้นผืนดินไทย" รายงานว่า ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ได้ห้ามไม่ให้สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และกลุ่มประชาสังคมต่างๆ ทำกิจกรรม "เดิน ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย" โดยระบุว่าขัดต่อกฎอัยการศึก และช่วงบ่ายทหารได้การจับกุมผู้พยายามเดินรณรงค์ ก่อนมีการเจรจาให้ปล่อยตัว
นาทีจับกุม "ประภาส ปิ่นตบแต่ง" และชาวบ้าน 4 คน ที่เดินรณรงค์ "เดิน ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย" จากเชียงใหม่เข้ากรุงเทพมหานคร (ที่มาของภาพ: เพจพลิกฟื้นผืนดินไทย) |
สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนืออ่านคำประกาศเจตนารมณ์ "เดิน ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย" ที่วัดสวนดอก ก่อนเริ่มการเดินรณรงค์ (ที่มาของภาพ: เพจพลิกฟื้นผืนดินไทย) |
สำหรับการรณรงค์ดังกล่าววางแผนที่จะเดินเท้าจาก จ.เชียงใหม่ มุ่งสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อรณรงค์ให้มีการปฏิรูปที่ดิน ให้ยกเลิกคำสั่ง คสช. 64/2557 และ แผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เนื่องจากภายใต้แผนแม่บทดังกล่าวได้ส่งผลกระทบกับเกษตรและผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่ทำกิน หรือมีกรณีพิพาทที่ดินกับรัฐ โดยเฉพาะการกวาดจับชาวบ้านซึ่งที่ดินถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ
ทั้งนี้ในช่วงเช้ากลุ่มดังกล่าวได้ไปสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ปากทางขึ้นดอยสุเทพ อย่างไรก็ตามเนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีการจัดงาน 70 ปีครูบาศรีวิชัย และมีเจ้าหน้าที่ทหารมาวางกำลัง ผู้เดินรณรงค์จึงมาได้รวมกันอยู่ภายในวัดสวนดอก ถ.สุเทพ แต่เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด มทบ.33 ก็ตามมาควบคุมสถานการณ์
และเมื่อมารวมกันที่วัดสวนดอก ประภาส ปิ่นตบแต่ง นักวิชาการรัฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวปาฐกถาหัวข้อ "30 ปี แห่งความล้มเหลวการปฏิรูปที่ดินไทย จากนั้นในช่วงเที่ยงมีการเจรจาระหว่างทหารกับผู้จัดการเดินรณรงค์ โดย พ.อ.จิราวัฒน์ จุฬากุล เสนาธิการ มทบ.33 เจรจาขอให้กลุ่มเดินรณรงค์ดังกล่าวยุติกิจกรรม
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายดิเรก กองเงิน นำอาสาสมัครชุดแรกรวม 5 คน เดินเท้าออกจากวัดสวนดอก แต่ทหารสกัดตั้งแต่ประตูวัดสวนดอก ต่อมาอีก 10 นาที ประภาส ปิ่นตบแต่ง และอาสาสมัครรวม 4 คน เดินเท้าออกจากวัดสวนดอกเช่นกัน และถูกทหารจับกุมทันที
ทั้งนี้ในเวลา 13.30 น. มีการปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุม และมีการเจรจาระหว่างทหารกับกลุ่มเดินรณรงค์ภายในวัดสวนดอก และมีข้อเสนอให้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ดาวพงศ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาเจรจาที่เชียงใหม่ เพื่อทบทวนยกเลิกแผนบทป่าไม้ ที่ส่งผลกระทบทำให้คนไม่สามารถอยู่ร่วมกับป่า
ทั้งนี้ในแถลงการณ์ของสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือระบุด้วยว่า "กว่า 53 ปีของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายการบริหารประเทศที่เต็มด้วยการเอื้อประโยชน์ให้แก่นักการเมือง ชนชั้นนำ ผู้มีอำนาจรัฐ ได้สร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคม และความไม่เป็นธรรมในจัดสรรทรัพยากรให้ประชาชนทั้งแผ่นดิน โดยเฉพาะนโยบายการจัดการที่ดินที่ผู้มีอำนาจส่วนน้อยสามารถเข้าถึงการถือครองที่ดินอย่างเสรี กีดกันคนยากจนคนส่วนใหญ่ของชาติไม่สามารถเข้าถึงการครองที่ดินได้ กลายเป็นผู้ไม่มีความมั่นคงที่ดิน คนจน ผู้ยากไร้ ไม่มีที่ทำกินเพียงพอ"
"ภายใต้การบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เข้ามาคุมอำนาจการปกครองนับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ให้กลับสู่สภาวะปกติสุข ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทุกฝ่ายนั้น เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายการพัฒนาของรัฐ รวมทั้ง สกน.ได้ยื่นหนังสือเพื่อให้คณะ คสช. และรัฐบาล ผู้มีอำนาจรัฐในปัจจุบัน เร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนมาอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับ แต่การแก้ปัญหาไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ขณะเดียวกัน แผนแม่บทป่าไม้ของ คสช.ได้สร้างความเดือดร้อนทุกข์ยากให้คนที่อยู่ในเขตป่าในพื้นที่ภาคเหนือจนไม่สามารถดำรงชีพอย่างปกติสุขได้ สกน.ในนามของผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายการจัดการที่ดินของรัฐ เราขอประกาศเดินเท้าทางไกลรณรงค์ “ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย” เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลในปัจจุบัน เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชนในพื้นที่ ทบทวนแผนแม่บทป่าไม้ ออกกฎหมายปฎิรูปที่ดินเพื่อคนจน 4 ฉบับโดยเร็ว" ตอนหนึ่งของแถลงการณ์ สกน. ระบุ
สำหรับกิจกรรม “ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย” สกน. ยังมีเป้าหมาย “หยุด 1+4” ได้แก่ หยุดแผนแม่บทป่าไม้ฯ และสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติกฎหมาย 4 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า ร่าง พ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน ร่าง พ.ร.บ.สิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรในรูปแบบโฉนดชุมชน และร่าง พ.ร.บ.กองทุนยุติธรรม
ทั้งนี้ในช่วงเช้ากลุ่มดังกล่าวได้ไปสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ปากทางขึ้นดอยสุเทพ อย่างไรก็ตามเนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีการจัดงาน 70 ปีครูบาศรีวิชัย และมีเจ้าหน้าที่ทหารมาวางกำลัง ผู้เดินรณรงค์จึงมาได้รวมกันอยู่ภายในวัดสวนดอก ถ.สุเทพ แต่เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด มทบ.33 ก็ตามมาควบคุมสถานการณ์
และเมื่อมารวมกันที่วัดสวนดอก ประภาส ปิ่นตบแต่ง นักวิชาการรัฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวปาฐกถาหัวข้อ "30 ปี แห่งความล้มเหลวการปฏิรูปที่ดินไทย จากนั้นในช่วงเที่ยงมีการเจรจาระหว่างทหารกับผู้จัดการเดินรณรงค์ โดย พ.อ.จิราวัฒน์ จุฬากุล เสนาธิการ มทบ.33 เจรจาขอให้กลุ่มเดินรณรงค์ดังกล่าวยุติกิจกรรม
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายดิเรก กองเงิน นำอาสาสมัครชุดแรกรวม 5 คน เดินเท้าออกจากวัดสวนดอก แต่ทหารสกัดตั้งแต่ประตูวัดสวนดอก ต่อมาอีก 10 นาที ประภาส ปิ่นตบแต่ง และอาสาสมัครรวม 4 คน เดินเท้าออกจากวัดสวนดอกเช่นกัน และถูกทหารจับกุมทันที
ทั้งนี้ในเวลา 13.30 น. มีการปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุม และมีการเจรจาระหว่างทหารกับกลุ่มเดินรณรงค์ภายในวัดสวนดอก และมีข้อเสนอให้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ดาวพงศ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาเจรจาที่เชียงใหม่ เพื่อทบทวนยกเลิกแผนบทป่าไม้ ที่ส่งผลกระทบทำให้คนไม่สามารถอยู่ร่วมกับป่า
ทั้งนี้ในแถลงการณ์ของสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือระบุด้วยว่า "กว่า 53 ปีของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายการบริหารประเทศที่เต็มด้วยการเอื้อประโยชน์ให้แก่นักการเมือง ชนชั้นนำ ผู้มีอำนาจรัฐ ได้สร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคม และความไม่เป็นธรรมในจัดสรรทรัพยากรให้ประชาชนทั้งแผ่นดิน โดยเฉพาะนโยบายการจัดการที่ดินที่ผู้มีอำนาจส่วนน้อยสามารถเข้าถึงการถือครองที่ดินอย่างเสรี กีดกันคนยากจนคนส่วนใหญ่ของชาติไม่สามารถเข้าถึงการครองที่ดินได้ กลายเป็นผู้ไม่มีความมั่นคงที่ดิน คนจน ผู้ยากไร้ ไม่มีที่ทำกินเพียงพอ"
"ภายใต้การบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เข้ามาคุมอำนาจการปกครองนับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ให้กลับสู่สภาวะปกติสุข ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทุกฝ่ายนั้น เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายการพัฒนาของรัฐ รวมทั้ง สกน.ได้ยื่นหนังสือเพื่อให้คณะ คสช. และรัฐบาล ผู้มีอำนาจรัฐในปัจจุบัน เร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนมาอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับ แต่การแก้ปัญหาไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ขณะเดียวกัน แผนแม่บทป่าไม้ของ คสช.ได้สร้างความเดือดร้อนทุกข์ยากให้คนที่อยู่ในเขตป่าในพื้นที่ภาคเหนือจนไม่สามารถดำรงชีพอย่างปกติสุขได้ สกน.ในนามของผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายการจัดการที่ดินของรัฐ เราขอประกาศเดินเท้าทางไกลรณรงค์ “ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย” เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลในปัจจุบัน เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชนในพื้นที่ ทบทวนแผนแม่บทป่าไม้ ออกกฎหมายปฎิรูปที่ดินเพื่อคนจน 4 ฉบับโดยเร็ว" ตอนหนึ่งของแถลงการณ์ สกน. ระบุ
สำหรับกิจกรรม “ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย” สกน. ยังมีเป้าหมาย “หยุด 1+4” ได้แก่ หยุดแผนแม่บทป่าไม้ฯ และสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติกฎหมาย 4 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า ร่าง พ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน ร่าง พ.ร.บ.สิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรในรูปแบบโฉนดชุมชน และร่าง พ.ร.บ.กองทุนยุติธรรม