ที่มา FB Thailand Dictatorwatch
ฉลองครบ1ปี กปปส.-ม็อบลุงกำนัน
ทั้งหมดนี้ไม่ได้รับโทษ แต่ได้ปูนบำเหน็จจากเผด็จการที่เขาเรียกหา ได้เป็น รมต. สปช. . สนช. และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
สองมาตรฐานประเทศไทย
(โปรดอ่าน "บางกอกโพสต์เผย “สุเทพ” คุยกับ “ประยุทธ์” ตั้งแต่ปี 2553 มุ่งเป้าล้มระบอบทักษิณ" : http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000070734 )
บางกอกโพสต์เผย “สุเทพ” คุยกับ “ประยุทธ์” ตั้งแต่ปี 2553 มุ่งเป้าล้มระบอบทักษิณ
วันนี้ (23 มิ.ย.) หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์บางกอกโพสต์ได้เผยแพร่ข่าว การออกมาเปิดเผยถึงเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือ กปปส. ที่เชื่อมโยงกับความเคลื่อนไหวของการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ของกองทัพ ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุหัวข้อข่าวว่า “สุเทพคุยลับกับประยุทธ์ตั้งแต่ปี 2553 เป้าหมายคือระบอบทักษิณ (Suthep in talks with Prayuth ‘since 2010’ Thaksin regime target in secret talks)”
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญและมีนัยยะทางการเมืองอย่างยิ่ง ทางทีมข่าว ASTVผู้จัดการ จึงขอถอดความในข่าวดังกล่าวจากภาษาอังกฤษ เป็นภาษาไทยดังนี้
***************
สุเทพคุยกับประยุทธ์ “ตั้งแต่ 2553”
การเจรจาลับมุ่งเป้าระบอบทักษิณ
รายงานโดย เนาวรัตน์ สำราญสุข
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือ กปปส. ได้เปิดเผยถึงเบื้องหลังการให้คำแนะนำต่อผู้นำการรัฐประหารถึงวิธีในการกำจัดระบอบทักษิณ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553
นายสุเทพ ยอมรับเป็นครั้งแรกว่าเขาได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำการรัฐประหาร เกี่ยวกับยุทธวิธีในการกำจัดอิทธิพลของ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคพวก ตั้งแต่เหตุความรุนแรงทางการเมืองในปี 2553 โดยนายสุเทพยอมเปิดปากในงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อระดมทุนที่แปซิฟิก คลับ ในกรุงเทพฯ
เขากล่าว โดยอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีส่วนแข็งขันในการวางแผนที่จะโค่นล้ม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงช่วงเวลาก่อนหน้าที่จะนำไปสู่การรัฐประหาร ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วย
ผู้นำการเคลื่อนไหวมวลชนกล่าวต่อหน้ากลุ่มผู้สนับสนุนกลุ่ม กปปส. กว่า 100 คน ในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ใช้ชื่อว่า “กินข้าวกับลุงกำนัน” ถึงแรงขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจของกองทัพ
เขาเปิดเผยด้วยว่า เขาคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ และทีมงานผ่านแอปพลิเคชันสนทนา ไลน์
“ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศกฎอัยการศึก พล.อ.ประยุทธ์ บอกกับผมว่า ‘คุณสุเทพ คุณกับมวลมหาประชาชน กปปส. เหนื่อยมามากแล้ว จากนี้เป็นหน้าที่ของกองทัพบกในการเข้ามาดูแลแทนเอง’ ” นายสุเทพกล่าว
เขาบอกด้วยว่า เขาได้ปรึกษาหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่เหตุความไม่สงบทางการเมืองในปี 2553 ในการจัดการ “ระบอบทักษิณ” และจับมือร่วมกันปฏิรูปประเทศ ต่อสู้กับการคอร์รัปชัน และดำเนินการสลายสีเสื้อทางการเมืองที่แบ่งแยกคนไทย
“เราใช้เงินไปกว่า 1,400 ล้านบาท ในการเคลื่อนไหวช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยในเงินจำนวนนี้ 400 ล้านบาทมาจากครอบครัวและพันธมิตรของแกนนำ ส่วนอีก 1,000 ล้านบาท นั้นมาจากเงินบริจาคสดๆ ของผู้สนับสนุนของเรา” แกนนำ กปปส. เผย
ก่อนหน้านี้ นายสุเทพ ได้เลื่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อระดมทุนเพื่อช่วยเหลือมวลชน กปปส. ที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล เนื่องจากเขาไม่ต้องการที่จะทำให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รู้สึกลำบากใจ เพราะยังอยู่ในช่วงของการประกาศกฎอัยการศึก
อย่างไรก็ตาม เวลานี้กลุ่มของนายสุเทพได้ตั้งมูลนิธิขึ้นเพื่อผลักดันให้เกิดการปฏิรูป โดยผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงเพื่อระดมทุนดังกล่าวต้องบริจาคเงินเพื่อเป็นเงินทุนตั้งต้นให้กับมูลนิธิ
นายสุเทพ กล่าวว่า กปปส. จะจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำทุกวันเสาร์ โดยเขาจะใช้แปซิฟิก คลับ เพื่อเป็นสถานที่ทำงานของมูลนิธิ พร้อมลั่นวาจาด้วยว่าเขาจะไม่กลับไปเล่นการเมืองอีก
มูลนิธิดังกล่าวก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บ และครอบครัวของผู้เสียชีวิตระหว่างการชุมนุม รวมถึงการผลักดันข้อเสนอของ กปปส. ให้ไปถึงกองทัพ
“นับจากนี้เป็นต้นไป เราจะทำงานเหมือนกับองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) ที่จะนำเสนองานวิจัย และเราจะไม่มีความเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองใดๆ” นายสุเทพระบุ
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมากองทัพรับทราบถึงเป้าหมายของ กปปส. ในการที่กลุ่มออกมาเคลื่อนไหวเพื่อกดดันให้ข้าราชการ และทหารเข้ามาร่วมกับ กลุ่ม กปปส.
ทั้งนี้ กองทัพได้นำข้อเสนอหลายประการของ กปปส. ไปดำเนินการ เช่น มาตรการในการช่วยเหลือชาวนา โดยนายสุเทพยังได้เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนให้หนุนกองทัพอีกด้วย
Source: Bangkok Post
People’s Democratic Reform Committee leader Suthep Thaugsuban has been advising the junta chief on how to unseat the Thaksin regime since 2010, Mr Suthep revealed at the weekend.
People’s Democratic Reform Committee leader Suthep Thaugsuban has been advising the junta chief on how to unseat the Thaksin regime since 2010, Mr Suthep revealed at the weekend.
Published: 23/06/2014 at 07:15 AM
Writer: Nauvarat Suksamran
He admitted for the first time he had discussed with the coup-maker Prayuth Chan-ocha strategies to root out the influence of former prime minister Thaksin Shinawatra and his allies since the 2010 political violence.
Mr Suthep broke his silence at a fund-raising dinner on Saturday night at the Pacific Club in Bangkok.
His remarks suggest Gen Prayuth has been actively plotting to bring down former prime minister Yingluck Shinwatra, including the period leading up to the coup when she was defence minister.
The protest leader spoke to almost 100 PDRC supporters at the dinner under the theme “Have dinner with Kamman Suthep” about the motives behind the military’s power seizure.
He said he chats regularly to Gen Prayuth and his team via the Line chat app.
“Before martial law was declared, Gen Prayuth told me ‘Khun Suthep and your masses of PDRC supporters are too exhausted. It’s now the duty of the army to take over the task’, ” Mr Suthep said.
He had consulted Gen Prayuth since the 2010 political unrest on how to root out the so-called Thaksin regime and join hands to reform the country, fight corruption and dissolve colour-coded politics that divided Thais.
“We spent almost 1.4 billion baht on our movement over the past six months. Of the money, 400 million came from the families and allies of protest leaders. Another 1 billion baht was from cash donations from our supporters, the PDRC leader said.
Mr Suthep earlier postponed the fund-raising dinner to help PDRC demonstrators injured during the rallies against the government as he did not want to put the NCPO in a difficult situation due to the declaration of martial law.
The group had now set up a foundation to push for national reforms. Participants in the fund-raising dinner donated money to a foundation start-up fund.
Mr Suthep said the PDRC would hold dinners every Saturday and he would use the Pacific Club as the foundation’s office. He vowed not to return to politics.
The foundation would help injured demonstrators and the families of dead victims, and also put forward PDRC proposals to the military.
“From now on, we will function like a non-governmental organisation that will carry out research. We will have no links with any political party,” Mr Suthep said.
Over the past months, the military was aware of the PDRC’s objectives as the group stepped up pressure on civil servants and soldiers to join the movement, he said.
The military had adopted several PDRC proposals such as measures to help farmers. He called on his supporters to back the military.
ooo
