วันนี้ขอพักเรื่องผัวๆ เมียๆ ไว้ก่อน เขาจะง้องอนกันอย่างไร ต้องถือว่าเป็นเทคนิคในการหาคะแนนเสียงของเขา น่าสนใจยิ่งกว่าตรงที่ ‘ไอลอว์’ เอาต้นตอปัญหาที่ทำให้การเมืองหล่นลงไปในปลักโคลนขณะนี้มาวิเคราะห์ ‘รธน.๖๐’
ได้ความว่า อัปลักษณ์ที่สุดของการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อให้เผด็จการอยู่นานๆ ก็คือ ‘ตัดสั้น’ สิทธิพลเมืองในกระบวนยุติธรรม “รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ เขียนเรื่องสิทธิในกระบวนการยุติธรรมไว้เพียงมาตราเดียว คือ มาตรา ๒๙” นอกนั้นยกไปให้ไว้กับ “หน้าที่ของรัฐ”
ถึงอย่างนั้นในรัฐธรรมนูญมีเนื้อหาเกี่ยวกับสิทธิชนิดนี้เพียง ๑๖ บรรทัด ไอลอว์บอกว่าก็ดีอยู่หรอกที่กำหนดให้รัฐจัดทำและจัดการโดยประชาชนไม่ต้องร้องขอ เสียแต่ว่า หลายๆ ประเด็นที่เคยเป็น ‘สิทธิ’ ของประชาชน ถูกย้ายไปไว้ในกำมือรัฐ
“เมื่อย้ายไปเป็น ‘หน้าที่ของรัฐ’ ก็ส่งผลให้รัฐกลายเป็นตัวผู้เล่นหลัก และประชาชนมีบทบาทเพียงเป็นผู้ ‘รอรับ’ บริการที่รัฐจัดสรรให้” เท่านั้น “หลักการที่เคยเป็นสิทธิของประชาชน...ถูกเปลี่ยนไป” เช่น “การเข้าถึงกระบวนยุติธรรมที่สะดวกรวดเร็ว”
สำคัญที่สุดคือการที่ประชาชนได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมาย ที่เคยมีอยู่ในรัฐธรรมนูญ ๔๐ และ ๕๐ ให้ทุกคนได้รับเหมือนกันหมด แต่พอมาถึงฉบับ “มีชัยตามใจ คสช.” กำหนดให้ความช่วยเหลือเฉพาะ ‘ผู้ยากไร้’ และ/หรือผู้ด้อยโอกาส
ดูเผินๆ ก็ดีอยู่นะ กำหนดว่ารัฐต้องทำหน้าที่ดูแล แล้วมันก็มี ‘แต่’ จนได้ ว่าไปแล้วรัฐธรรมนูญฉบับนี้ซ่อนเงื่อนซ่อนปมไว้มากมาย เพราะกำหนดด้วยว่าการอำนวยของรัฐ ไม่ได้ ‘free for all’ เหมือนหลักกฎหมายทั่วไปในสากล
แต่ “ยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า “รัฐจะจัดให้ (เฉพาะในส่วน) ‘ที่จำเป็นและเหมาะสม’ ด้วย” นั่นแหละมันเปิดช่องให้ตีความว่า ‘ควรมิควร’ ให้คนนี้ไม่ให้คนนี้ ได้ไง