เป็นถึง “อดีตรองประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ และ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” เดี๋ยวนี้เป็นไง ไปลองนั่งรถไฟคุนมิง-เวียงจันทร์หรือยัง มีหน้าออกมากระหวัดลิ้น แหงนหน้าถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า หล่นลงกบาลตัวเอง
เมื่อครั้งเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ความเห็นจ้อยไม่หนีทั่นประธาน คุณปู่ผู้ยอมรับ “ฉันร่างตามที่รัฏฐาธิปัตย์เค้าสั่ง” อะ “ประเด็นการพิจารณา...นายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธานกรรมการคนที่หนึ่งกล่าวว่า” หากนายกฯ ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อน รธน.๖๐ ใช้บังคับ
ใน “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ละก็ “ควรนับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว รวมเข้ากับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง...” ตาม รธน.๖๐ ด้วย แนวเดียวกับที่ มีชัย ฤชุพันธุ์ ว่าไว้ ให้ใช้บทเฉพาะกาล ม.๒๖๔ ควบ ม.๒๖๓
“โดยอนุโลม” ก็คือนับตั้งแต่วันที่ประยุทธ์ จันทร์อะไรนั่น ได้รับการใช้สรรพนามนำหน้าว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะได้มาด้วยการเอารถถังขู่แย่งเขามา หรือใช้พวกดูด พวกติดตั้ง ยกหางให้ แต่วันนี้ไข่อะไรนะบอกที่พูดตรงเผงเลยว่า (ไม่ใช่ในทำนอง)
“วาระการดำรงตำแหน่งต้องนับเมื่อครั้ง คสช.ด้วยนั้น เขาอธิบายว่าเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวซึ่งอยู่ระหว่างแลกเปลี่ยนกัน ‘ไม่ใช่มติ’ ของที่ประชุมแต่อย่างใด” ก็ใครเขาพูดเรื่องมติกันเล่า มันเป็นเรื่องมีปากสักแต่ว่าพ่น แล้วกระหวัดกลับต่างหาก
ถึงตอนนี้ชักจะหน้าสิ่ว ศาลรัดทำนวยเองก็เกิดอาการกล้าๆ กลัวๆ ขึ้นมาสิ แหมคุณพี่ไข่นกกระทา ไม่น่าพูดขวางลำ จะทำให้เรือจมน่ะสิ
(https://www.facebook.com/insidethailand/videos/479432127328685)
