ทะลุวัง - ThaluWang
14h ·
หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่ไม่ได้กระทบแค่ชาวนา นั่นคือปัญหา “การผูกขาดที่ดิน” ที่ชนชั้นศักดินาเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนที่ผูกขาดที่ดินเสียเองด้วย
.
ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เหล่าขุนนางศักดินารวมถึงสถาบันกษัตริย์ มีรายได้หลักมาจากการให้ประชาชนเช่าที่ดินเพื่อทำมาหากินและทำนา ซึ่งที่ดินทั้งหมดได้จากการผูกขาด โดยชาวนาก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบ จนถึงปัจจุบัน สถาบันฯก็ยังคงหารายได้จากการปล่อยเช่าที่ดินเพื่อทำอสังหาริมทรัพย์อยู่ และนอกจากนั้น หลังจากการเปลี่ยนแปลงพรบ.ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงกลายเป็นว่า ชื่อเจ้าของที่ดินกลายเป็นชื่อของคนคนเดียว ทำให้รายได้ส่วนใหญ่ไปตกที่คนคนเดียว
.
ไม่ใช่เพียงแค่ชาวนาที่ถูกเวนคืนที่ดินทำกิน แต่ตอนนี้ยังมีผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกเวนคืนที่ดินไปสร้างเขตพระราชฐานเป็นจำนวนมาก แม้แต่บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินี้เอง ก็ยังมีรายชื่อของการถูกเวนคืนที่ดินเช่นกัน
.
และเดิมทีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นหน่วยงานของรัฐ ที่ดินส่วนพระมหากษัตริย์จึงจัดเป็นสมบัติสาธารณะ แต่หลังจากการเปลี่ยนแปลงพรบ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2561 จึงทำให้ที่ดินกลายเป็นของกษัตริย์โดยปริยาย จึงอยากตั้งคำถามว่า หากที่ดินตรงนั้นเป็นบ้านของคุณ แล้วคุณถูกไล่ที่
"คุณยินดียก บ้าน ของคุณให้กับ ราชวงศ์ หรือไม่"
.
15.00 น. เป็นต้นไป ที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
#ทะลุวัง #ThaluWang
#ทำโพลไม่เท่ากับล้มล้าง
ทะลุวัง - ThaluWang
Yesterday at 5:31 AM ·
ขบวนเสด็จ ม็อบชาวนา ปัญหาหนี้สิน และการผูกขาดที่ดินโดยกลุ่มทุน-ศักดินา
ในวันที่กระดูกสันหลังของชาติกำลังจะล้มละลายจากหนี้สิน และที่ดินของพวกเขากำลังจะถูกยึด จนต้องจากบ้านทิ้งนามานอนข้างถนน เพื่อรอคำตอบจากรัฐบาลที่สัญญาว่าจะแก้ปัญหานี้ให้ ทว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ม็อบชาวนาถูกสั่งย้ายที่ชุมนุมเร่งด่วนเพียงเพราะ "รกหูรกตา" ขบวนเสด็จฯ ทำให้เห็นชัดเจนว่าชนชั้นศักดินาไม่แยแสความเดือดร้อนของชาวนา ซ้ำยังเป็นหนึ่งในตัวปัญหาของชาวนาเองด้วย
.
ปัญหาของชาวนานั้นมีมานานและมีหลายปัญหา แต่หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดและไม่ได้กระทบแค่ชาวนา นั่นคือปัญหา “การผูกขาดที่ดิน” ที่ชนชั้นศักดินาเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนที่ผูกขาดที่ดินเสียเองด้วย
เมื่อปีที่ผ่านมา กลุ่มเกษตรกรคนจนปลดแอก ได้เปิดเผยตัวเลขการถือครองที่ดินมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
อันดับที่ 1 “ตระกูลสิริวัฒนาภักดี” ถือครองที่ดิน 630,000 ไร่
อันดับที่ 2 “ตระกูลเจียรวานนท์” ถือครองที่ดินไม่ต่ำกว่า 200,000 ไร่
อันดับที่ 3 “บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน)” ถือครองที่ดิน 44,400 ไร่
อันดับที่ 4 “สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” ถือครองที่ดิน 30,000 ไร่ และอันดับที่ 5 “บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)” ถือครองที่ดิน 17,000 ไร่
ในขณะที่ประชาชนร้อยละ 76 ของประเทศ คือประมาณ 50 ล้านคน ไม่สามารถเข้าถึงที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ได้เลยแม้เพียงงานเดียว
อีกหนึ่งตัวอย่างความเดือดร้อนที่ประชาชนผู้จงรักภักดีได้รับ จากการผูกขาดที่ดินโดยกลุ่มทุน-ศักดินา คือกรณีชาวตลาดเฉลิมลาภยื่นถวายฎีกาฯ ที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม จากกรณีที่สำนักงานทรัพย์สินฯ เวนคืนที่ดินตลาดเฉลิมลาภ โดยได้ทำการเปิดประมูลที่ดินทำกินของกลุ่มผู้ค้ารายย่อยให้กับกลุ่มทุนใหญ่เจ้าของศูนย์การค้าแพลทินัม โดยที่ไม่เคยแจ้งหรือสอบถาม และให้สิทธิ์กลุ่มผู้ค้าเฉลิมลาภได้ทราบก่อน ทำให้กลุ่มผู้ค้านับ 1,000 ราย ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีที่ดินทำกินเลี้ยงชีพ และขาดที่อยู่อาศัย
ในปัจจุบัน พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ทั้งฉบับ พ.ศ. 2560 และ 2561 ได้ควบรวม ‘ทรัพย์สินส่วนพระองค์’, ‘ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์’, และ ‘ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน’ ให้กลายเป็น “ ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ” ที่บริหารจัดการตาม “ พระราชอัธยาศัย ” ในพระปรมาภิไธยของรัชกาลที่ 10
นั่นหมายความว่าการเวนคืนที่ดินของสนง.ทรัพสินพระมหากษัตริย์หลังจากนี้ที่จะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน เท่ากับกษัตริย์กำลังกดขี่และสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนโดยตรงด้วยน้ำมือของกษัตริย์เอง เพียงเพราะความกระหายจะขยายพระราชอำนาจและไม่ยอมรับข้อเสนอปฏิรูปสถาบันฯ
.
พรุ่งนี้ 15.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
#ทะลุวัง #ThaluWang
#ทำโพลไม่เท่ากับล้มล้าง #ม็อบชาวนา
ทะลุวัง - ThaluWang
Yesterday at 4:30 AM ·
เพียงแค่ล้มศักดินา ไม่ได้หมายความว่า
จะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง
#ทะลุวัง #ThaluWang