วันเสาร์, ธันวาคม 11, 2564
บทสนทนาอันมีรสชาดในร้านไก่ทอดชื่อ … “ไก่ทอด IMF” เปรียบเทียบเศรษฐกิจของนายกคนที่อยู่มาแล้วกว่า 7 ปี กับสมัย กู้ IMF
เกิน 8 บรรทัด
13h ·
ถ้าใครผ่านไปตรงหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตอนเช้าๆ
จะเห็นร้านไก่ทอดชื่อ … “ไก่ทอด IMF”
แล้วอาจจะนึกสงสัยว่า เพราะพิษเศรษฐกิจ IMF
ทำให้ต้องมาขายไก่ทอด
เหมือน ศิริวัฒน์ แซนด์วิช รึเปล่า
…
..
.
“#ใช่ตามชื่อนะแหล่ะ”
คือสิ่งที่ “ป้าแก้ว” กับ “ลุงเปี๊ยก” บอกกับผม
ว่าเค้าทั้งคู่ได้รับผลกระทบจากยุคต้มยำกุ้ง หรือ IMF
จนต้องลากกระเป๋าคนละใบ
กลับจากกรุงเทพ มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ เมื่อปี 2540
เพราะบริษัทที่ทั้งคู่ทำงานอยู่เลิกจ้าง
..
.
“#รัฐบาลยืมเงินเรายืมชื่อ”
ลุงเปี๊ยกบอกว่าเห็นรัฐบาลยืมเงิน IMF
เราเลยยืมชื่อ IMF มาใช้เปิดร้านบ้าง
แต่ไม่ได้ยืมเงินใครนะ
ก็ค่อยๆเริ่มจากเล็กๆ ไปก่อน
โดยจุดแรกที่เริ่มขายนั้น
เป็นฝั่งตรงข้าม เยื้องๆ กับปัจจุบันนี้
สมัย 25 ปีก่อน ที่เริ่มขายตอนแรกนั้น
แถวนี้ยังเป็นป่าอยู่เลย… ป้าแก้วเล่า
และจริงๆ ชื่อนี้ ก็ยังเป็นเหมือนเครื่องเตือนความจำ
ให้รู้จักดูแลตัวเอง เก็บเงิน เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้
…
..
.
“#คาถาสำคัญ”
ป้าแก้วเล่าต่อว่า…
ที่มาขายไก่ทอด เพราะตอนนั้นไม่รู้จะทำอะไร
ก็เลยลองดู… แต่กว่าจะโปรอย่างทุกวันนี้
ตอนเริ่มต้นก็ติดขัด ขลุกขลักไปทุกอย่าง
แต่อาศัย…
ดิ้นรน สู้ไม่ถอย ดูและเรียนรู้จากคนอื่น
คนที่เขาขายมาก่อนว่าทำไมขายดี
คนที่แก่ อายุเยอะกว่าเราทำไมยังมีแรงทำได้
ไปลองซื้อเขามากิน มาแกะสูตร …ลองทำดู
หรือไม่ก็ถามลูกค้า ว่าชอบไม่ชอบอะไร เค็ม มันไปไหม
ที่สำคัญ …ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
จะมาวันนี้ไม่อยากทำ …ขอหยุดไม่ได้
ต้องทำทุกวัน เหมือนทั้งคู่ที่เดือนนึง หยุด 25 วันเดียว
เพราะเขาให้หยุด เพื่อทำความสะอาดถนน
..
แล้วไม่เหนื่อยเหรอ…ผมถาม
ป้าชิน ไม่เหนื่อย ไม่รู้จะทำอะไร สนุกด้วย
พูดเสร็จป้าก็หันไปขายไก่ให้ลูกค้า
ก่อนชมลูกค้าคนนั้นว่า
“อย่างนี้เขาเรียกใช้เงินเป็น
ใช้ครบร้อยพอดี ไม่ต้องทอน”
..
.
“#ปรับปรุงให้เยอะปรับราคาให้น้อย”
เมื่อขายของเสร็จ ผมก็ชวนป้าแก้วคุยต่อว่า
ถ้างั้นตั้งแต่ขายมาปรับปรุงหรือพัฒนาสูตรมากี่ครั้ง
“โห…เยอะลูก”
ลุงเปี๊ยกที่ทอดไก่อยู่ก็หันมาสนับสนุน
อารมณ์ประมาณนับไม่ถ้วน กูทอดมาไม่รู้กี่สูตร
..
แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับผมคือ
แม้จะปรับปรุงสูตรอยู่ตลอด
แต่ราคาที่ไม่ค่อยปรับเท่าไหร่
เพราะสมัยก่อนขาย 3 ปีก 10 บาท
แต่ปัจจุบัน ขายปีกละ 5 บาทเท่านั้น
ซึ่งลุงเปี๊ยกบอกว่า เพราะพอปรับราคาที
ก็จะมีผลทำให้ลูกค้าหายไปบางส่วน
ยอดขายลดไปซักพักถึงกลับมา
.
ขณะที่ป้าแก้วบอกว่าอีกเหตุผลหนึ่ง
คือคิดถึงตอนตัวเองไม่มี อยากกินก็ไม่ได้กินกับเขา
ตอนทำงานในกรุงเทพ หรือตอน IMF นั่นแหล่ะ
ทำให้บางทีมีเด็กนักศึกษามาซื้อ
ถามป้าว่า 10 บาท กินอะไรได้บ้าง
ก็จะมีข้าวเหนียว น่องไก่ และก็คีบหมูแถมๆไป
น้องเขาก็ได้กินของที่อยากกิน
ซึ่งบางทีเรียนจบแล้ว เขาก็ยังแวะกลับมากิน
..
.
“#ปัจจุบันอาจวิกฤตกว่าอดีต”
เมื่อให้เปรียบเทียบปัจจุบัน กับ IMF
ป้าแก้ว และ ลุงเปี๊ยกตอบอย่างไม่ลังเลว่า
ปัจจุบันน่าเป็นห่วงกว่ามากๆ
เพราะไม่ใช่คนมีเงินน้อย ค้าขายไม่ดี
แต่แม่ค้าก็มากขึ้น เพราะคนไม่มีงานทำ
กระทบคนหลากหลาย เป็นวงกว้าง
และต่อเนื่องยาวนานกว่า
..
.
ที่สำคัญนายก หรือผู้นำประเทศไม่เก่งเท่าไหร่
เพราะป้าแก้วเริ่มรู้สึกถึงยอดขายที่น้อยลง
ตั้งแต่หนึ่งปีหลังจากประยุทธ์ ปฏิวัติเข้ามา
และไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น
“พอเราขายของไม่ดี ก็นึกถึงทักษิณทุกครั้ง
เพราะหลังจาก IMF มาไม่ไม่กี่ปีก็ดีมากเลย
แถมมีตอนนึงเกือบไม่มีไก่ทอด IMF แล้วนะ
เพราะไข้หวัดนก ไม่มีใครกินไก่เลย
ป้าก็ต้องไปเอาอย่างอื่น เอาปลาไข่มาขาย
แกก็ตัดการได้ แก้ปัญหาเก่ง
ทำเศรษฐกิจดี ไม่ว่าเจออะไร
แต่นายกคนนี้ อยู่มา 7 ปี ก็มีแต่แย่ลง แย่ลง”
..
ก่อนที่ลุงเปี๊ยก จะเสริมว่า..
“ก็ดูอย่างที่อุดรสิ มีคนว่า หน่อย
แทนที่จะปรับตัว ก็จะไปจับเขา
แล้วจะพัฒนาได้ยังไง”
..
.
ผมฟังแล้วก็ได้แต่คิดว่า …เออ.. ก็จริงเนาะ
ถ้าแม่ค้า พ่อค้าไก่ทอด เล็กๆ ร้านนึง
ยังรู้จักรับฟังลูกค้า ปรับปรุง และพัฒนาตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วน
นายกที่คุกคาม จับประชาชนที่ไม่ถูกใจ วิจารณ์ ตำหนิ ไปซะหมด
ผู้นำแบบนี้จะพาประเทศ ไปทางไหนนะ
…
..
.
ส่วนเรื่องรสชาติอร่อยไหม
อันนี้ผมคงบอกไม่ได้ เพราะไม่ใช่นักชิมอาหาร
แต่สำหรับผม
รสชาติมันอยู่ในบทสนทนาแล้วครับ