The Reporters
15h ·
INVESTIGATIVE:เปิดผลสรุปคณะกรรมการชุด"ธรรมนัส" ระบุ โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เป็นแผนพัฒนาที่ไม่ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิต และ "ศอบต."ไม่ทำตาม มติครม. แนะต้องรอบคอบเพราะมีความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่
มีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 27 เมษายน 2564 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในขณะนั้น ในฐานะ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินโครงการเมืองต้นแบบ"สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ไปสู่ต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา ถึง เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือ ศอบต. ระบุว่า
ตามหนังสือที่อ้างถึง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ "สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา "เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต" ได้สรุปการดำเนินงานเสนอต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ กพต. ดังนี้
1.สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. แจ้งว่า โครงการเมืองต้นแบบ "สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ดำเนินการใน 3 พื้นที่ คือ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา ในระยะแรกไม่มีแนวคิดที่จะขยายผลโครงการไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา
2.โครงการเมืองต้นแบบ "สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา "เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต" มีมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
2.1.มติ ครม.เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 เห็นชอบในหลักการขยายโครงการเมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา ตามที่ ศอบต.เสนอ โดยให้ ศอบต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้องง ตามกฏหมายและมติ ครม.อย่างเคร่งครัด โดย พล.อ.ประวิตร มีข้อสั่งการให้ ศอบต.ต้องหารือ กับ สภาพัฒน์หรือ สศช.ในทุกขั้นตอนเพื่อปรับขยายโครงการณ์ฯ นอกจากนี้ สศช.ยังได้ให้ความเห็นว่า ศอบต.ต้องประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อจัดทำรายงานการศึกษาความเป็นไปได้และรายละเอียดการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ชัดเจนให้เหมาะสมกับการพัฒนาอุตสาหกรรม
2.2 มิติครม.เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 รับทราบมติ กพต.ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2562 ตามที่ศอบต.เสนอ โดยให้ ศอบต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปให้ถูกต้องเป็นไปตามกฏหมาย และส่งแผนโครงการให้ สศช.พิจารณาให้เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
2.3.มติครม.เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2563 รับทราบผลสรุปการประชุม กพต.เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2563 ตามที่ ศอบต.เสนอ โดยมีสาระสำคัญประการหนึ่งว่า มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา ดำเนินการปรับปรุงการใช้ประโยชน์ในที่ดินในส่วนพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับแผนเร่งด่วนการลงทุนของภาคเอกชนจำนวน 3 ตำบล ได้แก่ ต.นาทับ ต.สะกอม ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา
3.จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการฯ สรุปได้ดังนี้
3.1.กระทรวงอุตสาหกรรมมีหนังสือแจ้งยืนยันว่า ไม่ได้รับการประสานงานจาก ศอบต.ตามความเห็นของ สศช.ตามมติครม.เมื่อ 7 พ.ค.63
3.2.สศช.มีหนังสือถึงสำนักงานสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งว่า สศช.ไม่เคยได้รับเรื่อ
งการขอให้พิจารณาความเหมาะสมของแผนงานเร่งด่วนการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.จะนะ จ.สงขลา
3.3.ผู้แทน สศช.แจ้งว่าไม่เคยได้ร่วมจัดทำโครงการเมืองต้นแบบ "สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา แต่อย่างใด
3.4.ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมืองยืนยันว่าได้รับเอกสารรายงานผลการศึกษาและแผนผังจาก ศอบต.โดยตรง และแจ้งให้ทราบมติครม. ทั้งนี้ผู้แทนศอบต.ชี้แจงว่าเอกสารรายงานผลการศึกษาและแผนผังที่ส่งให้กรมโยธาธิการและผังเมืองไปพิจารณาประกอบการปรับผังเมืองนั้นเป็นเอกสารที่ภาคเอกชนเป็นผู้จัดทำ
3.5.คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีประเด็นความขัดแย้งในพื้นที่ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ รัดกุม ให้มีความชัดเจนและเป็นธรรม เช่น
3.5.1.ข้อร้องเรียนมีการครบอครองสิทธิในที่ดินทับซ้อนที่ดินราษฎรครอบครองอยู่อาศัยและทำกินในปัจจุบัน
3.5.2.การจัดทำแผนพัฒนาพื้นที่ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิต อัตลักษณ์ชุมชน วิถีชีวิตความเป้นอยู่ แผนยุทธศาสตร์จังหวัด แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศ ตามมติครม.21 ม.ค.63
3.5.3.การมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งพบว่าการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่ผ่านมาไม่ครอบคลุ่มกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากการดำเนินงาน
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ จึงสรุปได้ว่า
ประเด็นแรก ศอบต.ไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมติครม.เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2562 ,วันที่ 21 ม.ค.2563 และ วันที่ 18 ส.ค.2563 และการที่ ศอบต.ส่งเรื่องให้กรมโยธาธิการและผังมือง ดำเนินการปรับปรุงการใช้ประโยชน์ที่ดินในส่วนพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับแผนเร่งด่วนการลงทุนของภาคเอกชนใน 3 ตำบลของ อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นการดำเนินการของ ศอบต.เพียงลำพัง โดยมิได้ดำเนินการร่วมกับ สศช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ประเด็นที่สอง พบว่ามีปัญหาความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่อ.จะนะ จ.สงขลา เกี่ยวกับการขยายผลโครงการนี้ ซึ่งหากภาครัฐดำเนินการไม่รอบคอบเหมาะสม ย่อมส่งผลกระทบกระเทือนความสามัคคีและความสงบสุขของประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบและบัญชาให้ ศอบต.ปฏิบัติตามมติครม.อย่างเคร่งครัด ตามข้อสังเกตของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และ พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธาน กพต.ก็ได้สั่งการให้ ศอบต.ทำตามกฏหมายและมติ ครม.ให้หารือ กับ สศช. กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื้นๆ เพื่อลดความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่ และสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินงานของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม หลังร.อ.ธรรมนัส ถูกปลดจากตำแหน่ง ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.64 พล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่งตั้งประธานคระกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคนใหม่ โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนากยรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงพลังงาน เป็นประธานคนใหม่
ในขณะที่เอกชนเจ้าของโครงการ ยังคงเดินหน้าเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 13-23 ธ.ค.64 ประกอบด้วย 4 โครงการ ทั้งท่าเทียบเรือคอนเทนเนอร์ และท่าเทียบเรือน้ำลึกทีพีไอสงขลา EHIA ท่าเทียบเรือก๊าซธรรมชาติเหลวและนำ้มันสำเร็จรูปทีพีไอสงขลา EHIA โรงไฟฟ้าทีพีไอสงขลา EIA และสวนอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา ระยะที่ 1 EIA
ซึ่งการเดินหน้ารับฟังความคิดเห็นนี่เอง ที่ทำให้ เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ออกมาทวงสัญญา เพราะสวนทางกับ Mou ที่รัฐบาลทำไว้ และจะครบกำหนด 1 ปี ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #SaveChana