แล้วนี่ ‘สมีฟรีด้อม’ วัดอ้อมน้อยเอาด้วย กัดบ้าง หาว่า “เอาเปรียบผู้คนมากเกินไป” ในเรื่อง “ทรัพย์สินที่ได้มาขณะเป็นภิกษุ” ควรตกเป็นของ “ผู้ที่ลาสิกขา” หรือไม่ ท้าวความถึงประเพณีก่อพระทราย ว่าเป็นการขนทรายเข้าวัด ‘ใช้หนี้’
“คงต้องเตือนทิดสึกใหม่ให้ได้รับรู้ว่า ข้าวทุกเม็ด อาหารทุกก้อน น้ำทุกหยด เงินทุกบาท ของชาวบ้านที่เขายอมเสียสละให้ ล้วนมีดอกผลที่ผู้ใช้ผู้บริโภคต้องชดใช้ ไม่ว่าจะอยู่ใน ‘สภาพ’ ใด...ไม่รู้ว่าทิดมหาจะเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมหรือไม่”
จะว่าไปมันไม่ใช่กฏแห่งกรรมมากเท่า คนที่เตือนเกิด ‘ตาร้อน’ เองหรือเปล่า คงจะหลงลืมเรื่องของตนที่ไปตบเอาค่าป่วยการจากโรงแรมในแขวงวังทองหลางแล้วมั้ง อันนั้นละจะมีเจ้ากรรมนายเวรมาตามล้างภายภาคหน้าแน่ๆ กว่า
เรื่องอย่างนี้ต้องฟังคนที่เขามีหลักการดีกว่าตนหลายๆ ขุม สุรพศ ทวีศักดิ์ แจกแจงไว้ก่อนหน้านี้สองสามวัน “สึกแล้วนำเงินทำบุญมาใช้ผิดหรือไม่ ในทางกฎหมายไม่ผิด เพราะไม่มีกฎหมายระบุว่าผิด และไม่ควรมี...แต่ ในทางศีลธรรม สามัญสำนึก” อาจมี
ปัญหาอยู่ที่ในแต่ละกรณีเป็นรายๆ ไป “ควรทำหรือไม่ ถ้ายืนยันว่าเหมาะสม ควรทำ เช่นนั้นพระดังๆ พระยศใหญ่ๆ มีคนศรัทธาทำบุญเยอะจนมีเงินเป็นสิบเป็นร้อยล้าน” ล่ะว่าไง พระดังๆ อย่าง ‘ยันตระ’ หรือพระรวยๆ อย่าง ‘หลวงตามหาบัว’ มีเรื่องให้ถกกันได้เป็นวันๆ
แต่เรื่องของ ‘ทิดมหา’ จากวัดสร้อยทองนี่เขามุ่งทางด้านบันเทิง เมื่อยังครองสมณเพศก็หมายให้คนรุ่นใหม่ รุ่นเด็กหันมาสนใจพุทธศาสนามากขึ้น แม้จะไม่ถึงแก่นได้แต่กระพี้ก็ยังดีกว่าไม่มาเอาเสียเลย ตอนนี้เป็นฆราวาสได้ทั้งงานและเงิน จะอกแตกตายกันหรือ
ที่ ‘ผู้จัดกวน’ เที่ยวส่องทิดสวมนาฬิกาแอ็ปเปิ้ล “ราคาคงจะเกินหมื่น ส่วนเสื้อยืดเป็นของแบรนด์ PALM ANGELS CROCODILE PRINT T-SHIRT FOREST GREEN สนนราคาสูงถึง ๕ พันกว่าบาท” พอเขาแจ้งที่มาของเสื้อ (สีเขียว ภาพจรเข้สกรีนบนหน้าอก) ตัวนั้น
“เขาให้กูฟรีไอ้…สะตวง กูแลกเสื้อกับนิกกี้ อิจฉาหรอ ไอ้ฉิบ...” ก็คือ ทิดแลกเสื้อกับ ณ ฉัตร จันทพันธ์ พร้อมลงรูปให้เห็น ควรแล้วที่เติมด้วยคำถามว่า “นอกจากหญ้า ได้กินอาหารเสริมอย่างอื่นเพื่อบำรุงสมองบ้างไหม”
พอสึกปุ๊บทิดก็ออกทีวีให้สัมภาษณ์ปั๊บ รายการ ‘กรรชัย’ ว่าไปถึง “สำนักงานพุทธ...ทุกวันนี้ส่งจดหมายอย่างเดียว...เอาแต่ร้องสอบพระ ใช่หน้าที่มันเหรอ” พอผู้สัมภาษณ์ถามกลับ “ทำไมไม่พูดแต่แรก” ทิดตอบกระตุ้นเรตติ้งได้อีก
“ถ้าคุยตอนเป็นพระ มันก็ส่งจดหมายมาอีก” จนพระผู้ใหญ่บางองค์กระโจนเข้าไปร่วมวงศ์ไพบูลย์ ติ เตือน ตอด กระตุกอดีต พส.คนดังด้วยเหมือนกัน ตามสไตล์นุ่มนิ่ม เบาๆ ดีที่ทิดไม่ได้ตอกกลับ ไม่เหมือนกับนักตีเรตติ้งอีกราย
“ผู้บริหาร ที่ปรึกษาที่นู่นที่นี่ที่นั่น ผู้เชี่ยวชาญ นักวิเคราะห์ คุณทนาย อาจารย์ อธิบดี ผู้มีทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิทั้งหลายในประเทศนี้ ขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ทุกท่านที่ตักเตือน” พร้อมกับประนมมือไหว้ย่อเสียจนหัวหลุดจอ
“พิมรี่พายน้อมรับและจะแก้ไขทุกข้อบกพร่อง แต่อยากจะถามผุ้ใหญ่ทุกท่านหน่อยว่า ตอนที่พวกท่านๆ อายุเท่าหนู ทำไมปล่อยให้ประเทศเป็นอย่างนี้ได้ล่ะคะ พิมรี่พายอายุแค่ ๓๐ เองค่ะ ท่านเกิดมาก่อนตั้งสิบปี ๑๒ ปี ๓๐ ปี ได้แค่วิเคราะห์พิมรี่พายเท่านั้นเอง”
คนรุ่นนี้ ๒๐-๓๐ (มากหรือน้อยกว่า ๕ ปี) เต็มไปด้วยความคิดว่องไว ความสามารถรอบด้าน และความตระหนักแน่นในหลักการ กลับถูกพวกผู้ใหญ่ หรือแท้จริงคือผู้สูงอายุเห็นแก่ตัว คอยแต่จะเหนี่ยวรั้ง ฉุดยึดไม่ให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าได้เร็วเท่าที่ควร
บ้านเมืองจึงได้ก้าวไม่ทันพัฒนาการของโลกในเกือบจะทุกมิติอยู่ขณะนี้
(https://twitter.com/DasieFlowerx/status/1467116015335383040, https://www.sentangsedtee.com/today-news/article_198133, https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_6766502 และ https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6766600)
