วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 12, 2564

เมื่อหมดความชอบธรรม รัฐจึงเหลือแต่กระบอง แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และในที่สุด กระสุนจริง



พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
9h ·

แนวทางของฝ่ายรัฐในวันนี้คือการเดินสองขา
ด้านหนึ่งใส่คดีและคุมขังแกนนำด้วยทุกข้อหาที่นึกได้ทับถมเข้าไป อีกด้านหนึ่งจากที่เคยปล่อยให้มวลชนชุมนุมมีกิจกรรมจนยุติแล้วค่อยสลายกลุ่มที่รั้งข้างหลัง เปลี่ยนมาใช้กำลังรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม ไม่ให้มวลชนระดมกันมาทันและรวมตัวกันติดจนเป็นก้อนใหญ่ ยิ่งกว่านั้น ให้จนท.เพิ่มระดับความโหดเหี้ยมกระหาย ตั้งแต่กระบอง ฉีดน้ำเคมี แก๊สน้ำตา ช็อตไฟฟ้า ไปจนถึงกระสุนยาง (ขั้นต่อไปคือ ... ?) เพื่อให้มวลชนกลุ่มใหญ่หวาดกลัวไม่ออกมาร่วม เหลือแต่กลุ่มเล็กๆ ที่พร้อมเผชิญหน้ากับจนท.ซึ่งง่ายต่อการสลายและจับกุม
หวังผลให้แกนนำหมดสิ้นบทบาทอยู่ในเรือนจำ ขณะที่การชุมนุมข้างนอกก็ฝ่อลงเรื่อย ๆ จนสลายไป
แต่น่าจะคาดผิด รากเหง้าของปัญหาเชิงระบอบยังคงอยู่ ความรุนแรงจากฝ่ายรัฐมีแต่จะทำให้ผู้คนยิ่งโกรธแค้น ผลด้านกลับคือจำนวนคนที่เผชิญหน้ากับจนท.จะมีมากขึ้น การปะทะกันจะยิ่งบานปลายและรุนแรงต่อไปโดยที่แม้แต่ผู้จัดชุมนุมก็ควบคุมไม่ได้
นี่ก็เป็นประสบการณ์ที่เคยเกิดในตปท.ทุกที่ที่รัฐใช้ความรุนแรงกับปชช. ผลมีสองอย่าง (ส่วนใหญ่) บานปลายเป็นจลาจลและรัฐรักษาอำนาจไว้ด้วยการฆ่าหมู่ปชช.ครั้งใหญ่ และ (ส่วนน้อย) การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหรือกระทั่งเปลี่ยนระบอบ
'Vive la révolution!'

Somchai Sabaidee
ประเด็นหนึ่งคือ ความชอบธรรมของรัฐนั้นต่ำมากๆ จากความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในการจัดการวัคซีน

พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
Somchai Sabaidee ความชอบธรรมของรัฐที่สูญสิ้น จึงเหลือแต่กระบอง แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และกระสุนจริง

Ekchart Pullarp
คนรุ่นใหม่เขาไม่ยอมเหมือนคนรุ่นที่ผ่านมา
เขาต้องการอนาคตและประชาธิปไตยที่เขาเห็นในต่างประเทศ
วันหนึ่งเขาจะเติบโตและแข็งแรงมีพลัง เขาจะตามเช็คบิลกับคนที่ทำกับพวกเขาถ้าคนพวกนี้ยังมีชีวิตอยู่...อันนี้ฟันธงได้เลย

อ่านความเห็นอื่นที่
https://www.facebook.com/pichitlk/posts/4277789795622139

https://www.facebook.com/wakeupthailand/videos/290850979475870

Atukkit Sawangsuk
7h ·

ม็อบ New Normal อยู่เหนือการควบคุม
:
ม็อบ 3 ครั้งหลัง พวกเคร่งทฤษฎีเคร่งจัดตั้ง อาจตำหนิว่า ม็อบคุมกันไม่ได้ จะเสียหายภาพลักษณ์ กระทบทั้งขบวน
แต่ความเป็นจริงมันก็สะท้อนความโกรธความเหลืออดของประชาชน โดยไม่ต้องมีแกนนำ ไม่ต้องฟังใคร
อย่างที่พูด ให้ อ.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ มานำม็อบ ตำรวจมันก็ไล่ยิง
เมื่อถูกสลาย ชุมนุมโดยสงบไม่ได้ แกนนำถูกจับ ม็อบก็ต้องสู้ฟรีสไตล์
อย่างน่ายกย่องจิตใจ
:
REDEM ชัดเจนไม่มีแกนนำ
แนวร่วมธรรมศาสตร์ ทะลุฟ้า ยุติการชุมนุมแล้วก็ยังมีปะทะที่ดินแดง
เพราะความโกรธแค้นที่ถูกกระทำล้วนๆ
จำนวนหนึ่งก็เป็นเด็กอาชีวะ ตามมาสมทบทีหลัง
เบิ้ลรถเครื่องใส่ตำรวจ จุดพลุ ระเบิดปิงปอง เผาสิ่งของรมควันตำรวจที่ขึ้นไปอยู่บนสะพาน ฯลฯ
ด้วยความโกรธจากวันก่อนที่เพื่อนมาม็อบแล้วโดนรุมตีรุมกระทืบ
และอาจจะด้วยพื้นฐานเกลียดตำรวจ เกลียดการใช้อำนาจ เบ่ง กร่าง ข่มขู่ ยัดข้อหา
ที่ตำรวจมักจะทำกับคนที่ด้อยกว่า อยู่ประจำ
:
ว่าที่จริง 14 ตุลา พฤษภา 35 ก็เป็นแบบนี้แหละ
การใช้กำลังรุนแรงกับม็อบปะทุความโกรธแค้น เกิดการตอบโต้อย่างกว้างขวาง
ประชาชนพับเพียบให้ทหารกระทืบซะเมื่อไหร่
สถานการณ์ไม่มีใครคุมอยู่ กลายเป็นจลาจล ลุกลาม
ปี 35 ก็มีเครือข่ายแมงไซค์ “ไอ้แหลม”
แต่ยุคนั้นยังมีการช่วงชิงอำนาจในชนชั้นปกครอง
ยุคนี้ต่างกัน เจ้าของหมาคุมเบ็ดเสร็จไม่กระดิก
:
การตอบโต้เมื่อถูกกระทำจึงเป็นส่วนหนึ่งของการไล่ประยุทธ์ พอๆกับคาร์ม็อบคาร์ปาร์ค
ถ้าเกิดทุกวันเป็น New Normal ก็อยากรู้ว่ามันจะอยู่อย่างไร
ประกาศม็อบ-คฝ.บุกจับ-ประกาศยุติ-ฟรีสไตล์
(จุลเจิมยัวะ)
ไม่ได้ยุ แค่ยกย่องนับถือความกล้า
(ใครโดนจับให้ติดต่อศูนย์ทนาย เดี๋ยวช่วยกันลงขันเงินประกัน)