Serie 1 Ep.3 :โจ้คนดีย์ ขอรับผิดคนเดียว สิ่งที่ทำไปไม่ถูกต้อง ไม่ตั้งใจให้ตาย ถึงได้มีปั๊มหัวใจ ใช้น้ำสาด ใช้ถุงคลุมหัวถึง ๖ ชั้น แค่ไม่ต้องการให้เห็นหน้า ดูท่า ผบ.ตร.ซึ้งใจ โจ้งั้น โจ้งี้ มีทนายไว้วางใจอยู่ด้วยมั้ย ไม่เต็มใจไม่ต้องตอบได้นะ
นั่นเป็นอีกฉากหนึ่งที่ทางสำนักตำรวจแห่งชาติจัดให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ซึ่งต้องหาฆ่านายจิระพงษ์ ธนะพัฒน์ ผู้ค้ายาเสพติด ได้โฟนอินตอบคำถามนักข่าว โดยมีฉากแทรกลดบรรยากาศตึงเครียด ตำรวจสาวหน้าคมถือโทรศัพท์จ่อไมค์
กลายเป็น ‘ซีน’ หนึ่งซึ่งผู้ชมวิจารณ์กันขรม บ้างว่าเนี่ยสะท้อนสังคมไม่เท่าเทียม ทั้ง ‘ชายเป็นใหญ่’ และระบบอาวุโสมากเกินไป แต่หนังสือ ‘ผู้จัดการออนไลน์’ รีบคว้าเอาไปเล่น “เปิดว้าปน้องไวกิ้ง ว่า “สวย เก่ง ดีกรีไม่ธรรมดา พูดสามภาษา”
ส่วน อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล @AmaratJeab ส.ส.ก้าวไกล กลับเม้นต์ภาพผู้กำกับโจ้ให้การหน้าจอกับคณะนายตำรวจ รวมทั้ง พล.ต.อ. สุชาติ ธีรสวัสดิ์ ฝ่ายบุ๋น และพล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ฝ่ายบู๊ ตรงที่ผู้ต้องหาสวม “กุญแจมือรุ่นไหน” นะ ช่างหลวมบาง
โดยฝ่ายบู๊ท่าทางโอบเอื้ออารีดี ขณะที่ฝ่ายบุ๋นออกอาการปกป้องอย่างนอกหน้า ตัดบทไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวซักไซร้เซ้าซี้ ด้วยน้ำเสียงอหังการ กรณีคลิปที่ชั้นผู้น้อยเอาออกมาเผย “ขู่นักข่าวว่าถ้าถามเยอะคือไม่ส่งฟ้อง ไม่ต้องดำเนินคดี” (จากทวี้ต ‘ตำรวจเหี้ยไอเปรต@mmmynnnn’)
อีกฉากดราม่า จากการเล่าเหตุการณ์ของ พ.ต.อ.เอกลักษณ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.๖ ว่า ผกก.โจ้ ติดต่อขอเข้ามามอบตัวเอง แถมรายละเอียดเล็กน้อยทำนองว่าตนเกลี้ยกล่อมให้เข้ามามอบตัว ‘อย่างลูกผู้ชาย’
จากนั้นมีคนมาส่งด้วยรถเบ๊นซ์สีขาว พอถามว่าใครเป็นคนขับ ทะเบียนรถเลขอะไร กลับไม่ทราบ ส่งลงหน้า สภ.แสนสุขแล้วก็ขับไป ตนไม่ทันได้ดู และทำไมไปมอบตัวที่ชลบุรีก็ไม่รู้สิ หลังจากที่มีข่าวไปลาว ไปพม่า ไปเขมร มั่วไปหมด #โจ้เองก็ลำบาก
สรุปท่วงทำนองตามท้องเรื่อง ซึ่ง ตั้งแต่วันจับกุมสองหนุ่มสาวคู่ค้ายา ๔ สิงหา โดยไม่ทำบันทึกการจับกุมตามธรรมเนียมปฏิบัติอันควร จึงไม่มีคลิปการสอบสวนผู้ต้องหา มีแต่คลิปใช้ถุงพล้าสติกคลุมหัวนายจิระพงษ์ถึงตายในวันต่อมา
จตุรงค์ สุขเอียด นักข่าวหัวเห็ด (คำของ Sa-nguan Khumrungroj) แจกแจงความไม่สมเหตุผลของภาพที่ สตช.ยัดเยียดให้สาธารณชนรับฟัง เช่น “พบรถขนผู้ตายไปโรงพยาบาล เป็นรถสวมทะเบียน...ทำไมต้องกลัวว่าคนร้ายจะเห็นหน้าพวกตนแล้วจำได้
“เกิดเหตุตาย ๕ สิงหาคม มอบตัว ๒๖ สิงหาคม ไปทำอะไรกับใครมา...ส่งตัวไปดำเนินคดีที่นครสวรรค์แทนส่วนกลาง ในปีกของภาค ๖ ใครจะเป็นเจ้าของคดี อัยการ...บอกไม่ทุจริตมาเลย ทำไมมีรถหรู ๓๐ คัน บางคันรถสำแดงเท็จอยู่ระหว่างดำเนินคดี หรือถือแทนใคร”
ถึงอย่างนั้นก็ยังแซมด้วยบท ‘แอนติ-ไคลแม็กซ์’ พระสงฆ์จากนครสวรรค์รูปหนึ่งเดินทางจากนครสวรรค์ไปส่วนกลาง ต้องการให้กำลังใจ ผกก.โจ้ บอกว่าเรื่องรวยไม่เกี่ยวกัน นี่เป็นการทำงานแล้วมือหนักไปหน่อย กลัวจะเครียดจนคิดฆ่าตัวตาย
หักมุมอีกที ถึงตำรวจชุดที่เอาคลิปมาเปิดเผย “อยากเตือน...เตรียมเข้าการคุ้มครองพยานไว้ได้เลย ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแน่นอน ถ้าลูกพี่ใหญ่มาทรงนี้ #การเช็คบิลจะเกิดขึ้นแน่ !” อย่างที่ Atukkit Sawangsuk แซะว่า “จบนะ อย่าสืบสาวต่อ...เดี๋ยวมันจะบานไปใหญ่”
พล็อตชักเข้ม จากที่ MGR Infographics ชี้ไว้ “จากการสืบสวนพบว่า คนร้ายที่ค้ายาเสพติดเป็นลูกทหารอากาศ ชุดสืบฯ เข้าสอบประเด็นเงิน ๕ ล้านยัดปิดคดี” ต่อพันจ่าอากาศเอก จักรกฤษ พ่อของนายจิระพงศ์ ผู้ตาย
“มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนมีหลักฐานพร้อมจะแจ้งข้อหาพ่อของนายจิระพงศ์ ในข้อหาให้การอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ในเร็ววันนี้” โอย ละครชุดนี้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเสียจริง ทั้งที่ทางวิชาการ ในเมื่อประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิกในอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน
เรื่องอย่างคดี ผกก.โจ้นี่ไม่ควรจะเกิด แต่ตลอดเวลา ๑๔ ปีที่ผ่านมานับแต่ไทยลงนามสนธิสัญญา ปี ๒๕๕๐ “แทบไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อการปฏิบัติตามพันธะกรณีแต่อย่างใด” รศ.ปกป้อง ศรีสนิท ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายอาญา นิติฯ มธ.ชี้
ว่าจนกระทั่งบัดนี้ไทยยังไม่มีกฎหมายปกป้องการซ้อมทรมาน มาใช้บังคับให้เป็นไปตามสนธิสัญญา แม้จะเข้าสู่วาระการประชุมของสภาแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มพิจารณาได้เมื่อไหร่ สมัยประชุมนี้จะปิดในวันที่ ๑๘ กันยา ยังมีวาระสามของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรออยู่
(https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2833656273593913, https://www.facebook.com/theactive.net/posts/4490630040968321, https://www.facebook.com/Coco.Infographics/posts/1678132475714989, https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2907491 และ https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2834199750206232)