วันอาทิตย์, สิงหาคม 29, 2564

#ม็อบ28สิงหา หากเรายังสู้อยู่ เรายังไม่แพ้


 


ทะลุฟ้า - thalufah
8h ·

เราคงปฏิเสธได้ยากว่าโครงสร้างอำนาจทางการเมืองในปัจจุบันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิธีคิดของคนในสังคม
เช่นนี้แล้วก็เลี่ยงได้ยากที่จะพูดว่าในประเทศที่มีแนวคิดชายเป็นใหญ่ที่เข้มข้นอย่างเมืองไทยจะไม่มีผลของความคิดดังกล่าวสอดแทรกอยู่ในอำนาจทางการเมืองซึ่งในวันนี้กลุ่ม เฟมินิสต์ปลดแอก ได้ขึ้นสังเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อเอาชนะทรราชปิตาธิปไตยด้วย
กิจกรรมดังกล่าวแน่นอนว่าไม่ใช่กิจกรรมที่ทำเอาสนุกเท่านั้นแต่ยังต้องการสอดแทรกความหมายบางอย่างด้วย นั่นคือการต่อสู้ของขบวนการเฟมินิสต์ในประเทศไทยนั่นเอง
ประวัติศาสตร์โลกสอนให้เรารู้ว่าขบวนการเฟมินิสต์เป็นขบวนการที่ต่อสู้คู่ขนานกันมากับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเสมอ เพราะในตอนแรกนั้นคนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งมีแต่ผู้ชายเท่านั้นขบวนการดังกล่าวทำให้เราไม่ลืมว่าการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยนั้นเป็นการต่อสู้เพื่อโอบอุ้มทุกคนในสังคมไว้โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พวกเขาทำให้เราเห็นว่าแม้ในรายละเอียดเล็กน้อยที่สุดที่เราอาจหลงลืมไปก็อาจหมายถึงการกดขี่ได้โดยไม่รู้ตัว
ในวันนี้เราพบว่าวิธีคิดแบบชายเป็นใหญ่ได้ทำให้รัฐบาลสามารถผ่านกฎหมายขึ้นภาษีผ้าอนามัยแบบสอดโดยมองว่าผ้าอนามัยแบบดังกล่าวเป็นของฟุ่มเฟือยเป็นเครื่องสำอางที่ไม่มีความจำเป็น
เรามีการปฏิบัติต่อผู้หญิงในกระบวนการยุติธรรมในคดีล่วงละเมิดทางเพศราวกับว่าพวกเธอเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตจิตใจ การถามค้าน การให้เล่าเรื่องที่อาจเรียกได้ว่ายิ่งเป็นการซ้ำเติมสภาพจิตใจที่บอบช้ำจากการถูกล่วงละเมิดอีกครั้งต่อหน้าบุคคลที่สาม สี่ และห้า
เช่นนี้แล้วเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าปิตาธิปไตยนี้เองที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับประชาธิปไตยมาตลอด และในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยย่อมต้องการที่จะโอบรับความหลากหลาย ให้มนุษย์ได้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และได้รับการปฏิบัติอย่างให้เกียรติอย่างเสมอหน้ากัน
ดังนั้นแล้วการเคลื่อนไหวของขบวนการเฟมินิสต์ที่ได้ต่อสู้คู่ขนานกันมากับการเรียกร้องประชาธิปไตยมาตลอดนี้ถูกแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนอีกครั้งในงานที่เราจัดร่วมกัน
บนสังเวียนเดียวกัน และเพื่อสู้กับศัตรูคนเดียวกัน
ขอขอบคุณสหายของเรา

#ทะลุฟ้า #thalufah #ม็อบ28สิงหา #ไล่ล่าทรราช


ทะลุฟ้า - thalufah
8h ·

การจัดงานครั้งนี้ไม่ใช่จัดไปเพื่อความสนุกอย่างเดียวเท่านั้น แต่การต่อยมวยที่จัดขึ้นในวันนี้ยังต้องการแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ของประชาชนที่จะไม่ยอมลดราวาศอกต่อทรราชอย่างเด็ดขาดด้วยเช่นกัน
ราวกับการเมืองไทยในช่วงปี 2557 ที่ฝ่ายเผด็จการโดยพลเอกประยุทธ์ได้เริ่มชกใต้เข็มขัดราษฎรด้วยการทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ ฉีกกติกาประเทศโดยอ้างว่าทำไปเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และแม้ว่าคำอ้างดังกล่าวจะฟังดูไม่สมจริงเท่าไหร่เหมือนอย่างที่ผู้กำกับโจ้อ้างว่าต้องการถอดกล้องวงจรปิดไปซ่อมก็ตาม แต่น่าสนใจว่าทหารมักอ้างความสงบสุขมาเพื่อเอาอำนาจไปทำลายชาติอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามฝ่ายราษฎรผู้ไม่เคยยอมแพ้ก็ได้ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้งในช่วงการรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันซึ่งเป็นฉบับที่เผด็จการ คสช ไม่ยอมให้ใครรณรงค์ไม่รับร่าง รวมถึงมีการใช้”พลังวิเศษ”มาแอบลักหลับแก้รัฐธรรมนูญบางมาตราหลังจากที่ประชาชนได้ลงประชามติไปแล้ว แต่เป็นที่น่าเศร้าที่ผลจากการรณรงค์ดังกล่าวทำให้มีประชาชน 203 คนถูกจับเพียงเพราะการออกมาเชิญชวนให้คนอื่น ๆ โหวตไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับโจรนี้เท่านั้น
ระหว่างปีที่ผ่านมาประชาชนต้องขึ้นชกซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้ง ๆ ที่ฝ่ายเผด็จการก็ชกใต้เข็มขัด กัดคอ กัดแขน เล่นสกปรกมาโดยตลอด
“ผู้เข้าร่วมชุมนุมต้องโดนจับวันละเกือบครึ่งร้อยเพียงเพราะต้องการให้ประยุทธ์ลาออก”
“แกนนำต้องถูกขังลืมเพียงเพราะพวกเขาต้องการที่จะตรวจสอบทุกสถาบันการเมืองที่กินเงินจากภาษีประชาชน”
“ประชาชนต้องการวัคซีนที่มีคุณภาพแต่รัฐบาลกลับนำเข้ามาแต่ sinovac “
หรือแม้กระทั่งเมื่อปีที่แล้วที่ประชาชนรวบรวมรายชื่อกันนับแสนรายชื่อเพื่อเสนอร่างยื่นแก้รัฐธรรมนูญก็ถูกปัดตกโดยรัฐสภาที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นฐานอำนาจของรัฐบาลโจรเท่านั้น
จากสังเวียนมวยระหว่างราษฎรกับทรราชในครั้งนี้นั้นเราคงจะคาดเดาผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ได้ว่าฝ่ายรัฐบาลจะเล่นนอกเกมส์กับเราแบบไหน เราคงไม่อาจให้สัญญาได้ว่ากรรมการจะตัดสินไปตามกติกา แต่สิ่งเดียวที่เราสัญญากับพี่น้องประชาชนได้ก็คือเราจะสู้ไม่ถอย
“หากประชาชนไม่ทิ้งเราแล้วจะให้เราทิ้งประชาชนได้อย่างไร”

Credit Photos : ihafta_go
#ทะลุฟ้า #thalufah #ม็อบ28สิงหา #ไล่ล่าทรราช