วันศุกร์, เมษายน 09, 2564

ความเชื่อ VS ความจริงเรื่องวัคซีนโควิดในประเทศไทย




ปอดและไอซียูง่ายนิดเดียว
3h ·

ความเชื่อ Vs ความจริงเรื่องวัคซีนโควิดในประเทศไทย
ประเทศไทยยังมีความเชื่อกันอยู่มากว่าตอนนี้วัคซีนป้องกันโควิด 19 ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความปลอดภัยมากกว่าของ AstraZeneca ไม่สามารถมีมาให้คนไทยฉีดได้ เนื่องจากช่วงเวลานี้กำลังการผลิตวัคซีนมีน้อยกว่าความต้องการ เป็นตลาดของผู้ขาย ถึงอย.เราอนุมัติให้ใช้ได้เราก็ไม่มีของให้ซื้ออยู่ดี (แต่ความเป็นจริงในปัจจุบันอย.ไทยยังไม่อนุมัติให้ใช้วัคซีนของ Pfizer, Moderna, J&J เลย ทั้งที่มีข้อมูลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพดีกว่าของ AstraZeneca ก็ตาม)
ถ้าเราดูมาตราฐานของ อย. USA(US-FDA) ที่ในปัจจุบัน อนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโควิด 19 ให้กับสามบริษัท คือ Pfizer, Moderna และ J&J เท่านั้น ยังไม่ได้อนุมัติให้กับบริษัท AstraZeneca หรือของ Sinovac เลย ส่วนในประเทศอังกฤษที่เป็นเจ้าของวัคซีน AstraZeneca เอง ก็ยังแนะนำเมื่อวานนี้ว่าในคนอายุน้อยกว่า 30 ปีให้รับวัคซีนของ Pfizer หรือ Moderna แทน
แต่ในขณะที่ในวันนี้ประเทศไทยเรายังไม่อนุญาตให้ใช้วัคซีนของ Pfizer, Modernaหรือ J&J เลย
ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง USA หรือยุโรปว่าทาง อย.เขาอนุมัติ และจัดซื้อวัคซีน Pfizer ให้กับคนในประเทศเขาไปเรียบร้อยกันตั้งนานแล้ว
ลองมาดูข้อมูลความเป็นจริงเรื่องวัคซีนโควิดของประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนของเราอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ดูบ้างว่าอย.เขาอนุมัติวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงและจัดหามาให้ประชาชนของเขากันได้เมื่อไหร่ อย่างไรกันแน่
ประเทศสิงคโปร์ได้รับวัคซีน Pfizer ตั้งแต่เดือนธค.63 และอนุมัติให้ใช้วัคซีน Moderna ตั้งแต่ 3กพ.64 โดยเริ่มฉีดวัคซีนของ Pfizer ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ตั้งแต่วันที่ 30ธค.63
ประเทศมาเลเซียได้รับวัคซีน Pfizer และเริ่มฉีดวัคซีน Pfizer ตั้งแต่เดือน กพ.64
แต่ประเทศไทยเรายังไม่อนุมัติให้ใช้วัคซีน Pfizer เลยด้วยซ้ำไป!!!
การให้คำอธิบายว่าทางอย.ไทย ไม่ได้ปิดกั้นหรือกีดกันการขอขึ้นทะเบียนวัคซีนของบริษัทอื่นๆ มันทำให้รู้สึกว่ามันเป็นภาระหน้าที่ของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่จะต้องกระเสือกกระสนมาขออนุญาตจากอย.ไทย ทั้งๆที่ก็ชอบอธิบายว่าตอนนี้กำลังการผลิตวัคซีนมีน้อยเป็นตลาดของผู้ขาย ก็แล้วทำไมทางฝ่ายรัฐของประเทศเราไม่ว่าจะเป็นอย.ไทย หรือกระทรวงสาธารณสุข จะไม่ถือว่าการขึ้นทะเบียนและจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงมันควรจะเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของทางรัฐที่ต้องทำให้กับประชาชนไม่ใช่หรือ ถ้ารัฐบาลของประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์เขาสามารถอนุมัติให้ขึ้นทะเบียนและจัดหาวัคซีนของ Pfizer มาฉีดให้ประชาชนของเขาได้ แล้วทำไม่ประเทศไทยเราถึงไม่มีความสามารถแบบเขาบ้างนะครับ


ปอดและไอซียูง่ายนิดเดียว
Yesterday at 10:07 AM ·

Update on AstraZeneca vaccine from EMA(European Medical Agency)
ตอนนี้ช่อง BBC กำลังถ่ายทอดสดการแถลงข่าวของ EMA เรื่อง วัคซีนป้องกัน Covid 19 ของ AstraZeneca โดยสรุปใจความสำคัญดังนี้
1. การฉีดวัคซีนนับว่ามีประโยชน์มากกว่าการไม่ฉีด เนื่องจากวัคซีนจะช่วยลดความรุนแรงของโรค ลดอัตราการนอนรพ. การเข้าไอซียู และการเสียชีวิตได้
2. ผลเสียของการฉีดวัคซีนในเรื่องของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันนั้น จากการ review ของ EMA พบว่ามีความสัมพันธ์กันจริง และน่าจะเกิดจากปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีต่อวัคซีน ซึ่งจะถูกใส่ในข้อมูลของวัคซีนว่าเป็น possible side effect ที่พบได้น้อยมาก (very rare; อุบัติการณ์อยู่ที่ประมาณ 1 ในแสน ถึง 1 ในล้าน)
3. เนื่องจากโรค Covid 19 มักจะมีอาการไม่รุนแรงในเด็กและคนหนุ่มสาว ดังนั้นในประเทศอังกฤษ (UK) จะให้ผู้ที่อายุน้อยกว่า 30 ปี รับวัคซีนป้องกัน Covid ของบริษัท Moderna และ Pfizer แทนของ AstraZeneca เพื่อลดปัญหาการเกิดลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีน AstraZeneca
ปล. ข้อมูลล่าสุดในประเทศทางยุโรปมีมาตราการณ์การใช้วัคซีนของ AstraZeneca ดังนี้
1. เยอรมัน ไม่ให้ใช้ในคนอายุน้อยกว่า 60 ปี
2. ฝรั่งเศส ให้ใช้ในคนอายุ 55 ปี ขึ้นไป
3. อังกฤษ ไม่ให้ใช้ในคนอายุน้อยกว่า 30 ปี(ให้ใช้ของ Moderna, Pfizer แทนตามประกาศวันนี้)
ปล. 2 เห็นมีบาง comment ที่ share ไปให้ความเห็นว่าอยากเลือกฉีดของ Sinovac มากกว่าของ AstraZeneca เลยขออนุญาตแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับวัคซีน Sinovac ของจีนดังนี้นะครับ
2.1 จนถึงในปัจจุบันยังไม่มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาถึงประสิทธิภาพของวัคซีน Sinovac ที่เป็นการศึกษาในระยะที่สามลงในวารสารทางการแพทย์ที่มีการทบทวนตรวจสอบ (peer review) เลยแม้แต่ฉบับเดียว มีแต่การตีพิมพ์การศึกษาในระยะที่สองที่แสดงให้เห็นว่าฉีดแล้วตรวจเลือดพบการสร้างภูมิต้านทานได้เท่านั้น
2.2 เมื่อไม่มีการตีพิมพ์การศึกษาในระยะที่สาม ก็ย่อมขาดการเก็บข้อมูลเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีนไปโดยปริยาย ทำให้ไม่มีข้อมูลในส่วนนี้ให้เราได้พิจารณาเปรียบเทียบซึ่งจะต่างกับวัคซีนอื่นๆที่มีข้อมูลมากกว่ามากเช่นของ Moderna, Pfizer, J&J
2.3 ดังนั้นถ้าเรากังวลใจกับวัคซีนของ AstraZeneca แล้วหนีไปใช้ของ Sinovac แทนก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีหรือไม่ ทางเลือกที่ดีกว่าคือเราน่าจะมีวัคซีนของ Pfizer, Moderna, J&J มาให้คนไทยได้มีโอกาสเลือกใช้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่านะครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและดู VDO clip ได้ตาม Link นะครับ
https://www.bbc.com/news/live/uk-56659036...
.....

Keerati Pongsuwan
8h ·

ทำไมรัฐจึงไม่อยากให้เอกชนนำเข้าวัคซีนมาบ้าง (ความคิดเห็นส่วนตัว)
ตัดเรื่องของเหตุผลที่ว่า "การแพทย์บ้านเรายังไม่รับรอง จึงยังไม่อยากให้นำเข้ามาเอง" และคำว่า "สงครามแย่งวัคซีนในระดับโลก" ออกไปก่อนนะครับ แล้วอ่านต่อไปข้างล่าง ..
เหตุผลง่ายมาก .. เพราะถ้ารัฐเปิดช่องทางให้เอกชนนำวัคซีนเข้ามาได้เองจริงๆ คนก็จะไม่อยากฉีดยี่ห้อที่รัฐนำเข้ามานั่นแหละ
เพราะเอกชนเขารู้ ว่าถ้ายี่ห้อไหนดี .. ยังไงคนก็ยอมจ่าย ดีกว่าไปเสี่ยงกับวัคซีนของรัฐ
ซึ่งเหตุการณ์นี้ มันจะเป็นการตอกย้ำว่ารัฐนั้น "ไร้ความน่าเชื่อถือ" และ "ไม่มีใครไว้วางใจรัฐ" อีกต่อไป
รัฐจึงมีข้อเสนอให้แค่ไม่กี่ยี่ห้อ .. บีบให้ประชาชนใช้แค่นี้ ถ้าประชาชนไม่ยอมฉีดเอง ก็ไปรับผิดชอบชีวิตเอาเองละกัน ... รัฐไม่เกี่ยว
นอกจากนี้ .. ถ้าเอกชนนำวัคซีนเข้ามาเองแล้ว .. ก็จะมี "บุคลากรของรัฐ" บางส่วน ที่จะไม่ได้ "เงินส่วนตัว"
เพราะว่า เอกชนจะไม่มีทางไปทำธุรกรรมผ่านรัฐฯแน่นอน เอกชนเขาจะไปดีลกับ บ. ที่ผลิตวัคซีนโดยตรงเอง ทำให้ผู้มีอำนาจของรัฐบางกลุ่มนั้น .. "ขาดรายได้"
หรือหากจะสรุปให้สั้นที่สุดก็คือ มันเป็นเรื่อง "ผลประโยชน์" ของคนไม่กี่กลุ่มคน โดยมีคนที่รับเคราะห์ (ซวย) เป็นประชาชนอย่างเราๆนี่แหละ
นอกจากนี้ .. การคงอยู่ของไวรัส (ซึ่งไม่รู้ว่าจงใจ หรือไม่จงใจก็ตามแต่) ยังสามารถนำมาใช้เป็นเหตุผลในการงัด พรก.ฉุกเฉิน มาใช้เพื่อจัดการกับ "ม็อบ" ได้ด้วยไปในตัว .. ได้ประโยชน์สองเด้ง
และก็รวมไปถึงการเจ๊งของสารพัดธุรกิจที่โดนผลกระทบของโควิด .. จนเป็นช่องทางให้พวกนายทุนเงินหนามากว้านซื้อของดีราคาถูกได้ในช่วงนี้อีกด้วย .. ซึ่งเราก็ไม่รู้อีกอยู่ดีว่ามันมีการวางแผนกันระหว่างคนบางกลุ่มเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่กันอยู่รึเปล่า
ประชาชนการ์ดไม่ตกมานานแล้ว .. แต่สถาณการณ์ก็มักจะกลับมาเสื่อมอีกอยู่เสมอ โดยเหล่า "อภิสิทธิ์ชน" ทั้งหลาย ที่ทำได้กระทั่งไม่ต้องแจ้งข้อมูลไทม์ไลน์ใดๆ และก็ปล่อยให้ประชาชนตาดำๆไปลุ้นกันเอาเอง ว่าจะไปแจ๊คพ็อตเจอเองที่ไหน
สุดท้ายนี้ก็ .. ดูแลสุขภาพกันให้ดีๆละกันนะครับ
อยู่กันให้นานๆ ทำตัวให้แข็งแรง และรอวันที่พวกโกงกินเขาล้มหายตายจากกันไปเองครับ ..
#สุขภาพสมบูรณ์
#alovelyreader