วันอาทิตย์, เมษายน 18, 2564

David Streckfuss : ผมเป็นอาชญากรเหรอ ? ผมผิดอะไรนักหนา ทำไมผมต้องถูกไล่ออกจากอีสาน บ้านของผม



The Isaander 
22h · Khon Kaen, Thailand ·

David Streckfuss : ผมเป็นอาชญากรเหรอ ? ผมผิดอะไรนักหนา ทำไมผมต้องถูกไล่ออกจากอีสาน บ้านของผม
---
“มีคนในมหาวิทยาลัยขอนแก่นบอกกับผมว่า ตำรวจมาคุยกับอธิการบดีให้ยกเลิกการรับรองวีซ่าทำงานให้กับผม อธิการบดีเลยบอกตำรวจว่า ให้ไปคุยกับคณบดีที่รับรองวีซ่าให้ผม ผมไม่รู้รายละเอียดว่าเขาคุยอะไรกัน แต่สุดท้ายผมก็ถูกยกเลิกวีซ่า
“สิ่งที่เกิดขึ้นกับผม ณ ขณะนี้ ถือเป็นเพียงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต เหตุการณ์ที่ผู้มีอำนาจพยายามกดดันชีวิตคนคนหนึ่ง ผมเป็นแค่คนคนเดียว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ผู้มีอำนาจพยายามปิดพื้นที่สาธารณะของคนไทย รวมถึงฝรั่งด้วย สิ่งที่ผมถูกกระทำ ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมเป็นอาชญากร เพราะถูกปฏิบัติเยี่ยงอาชญากร ผมเป็นอาชญากรเหรอ? ผมเป็นแค่คนซื่อสัตย์ธรรมดาทั่วๆไป สิ่งที่ผมโดนมันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมผิดอะไรนักหนา ทำไมผมต้องถูกทำโทษ ทำไมต้องถูกไล่ออกไปนอกประเทศ
“สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมเรียกได้ว่าเป็นการรังแก ไม่ต่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับอาจารย์ที่พยายามไปประกันตัวให้กับนักศึกษาที่ถูกฟ้องในคดี ม. 112 ซึ่งรัฐบาลพยายามไม่ให้อาจารย์ใช้ตำแหน่งไปประกันตัวให้นักศึกษา รัฐบาลคงเห็นว่า เขาต้องทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้ แต่ผมเองมีสถานะทางกฎหมายแตกต่างจากอาจารย์เหล่านั้น
“ที่ผ่านมาผมศึกษาเรื่อง ม. 112 ทำงานวิจัย เขียนบทความ และเขียนหนังสือ ซึ่งทั้งหมดเป็นความสนใจส่วนตัวของผม ผมทำโดยไม่ได้หวังตำแหน่งทางวิชาการ ผมไม่ใช่อาจารย์สอนหนังสือ ผมแค่ทำไปเพราะคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์เท่านั้นเอง
“คนชอบพูดว่า ถ้าไม่มีความสุข ถ้าทุกข์มากก็ออกไปจากประเทศไทยซะ ไปอยู่ที่อื่นซะ ผมคิดว่า วิธีแบบนี้ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา และผมออกไปนอกประเทศ ปัญหาต่างๆก็ไม่ได้ถูกแก้ ประเทศไทยยังต้องเผชิญหน้ากับความหลากหลายทางความคิดเหมือนเดิม
“ผมศึกษาเรื่อง ม. 112 ผมเห็นว่า ม. 112 เริ่มถูกใช้อย่างกว้างขวางในปี 2548 ถูกใช้อย่างไม่เลือกหน้า คนส่วนมากที่โดนเป็นเพียงปุถุชนธรรมดา ที่ไม่ได้มีบทบาทการเคลื่อนไหวอะไรมากนัก เพียงแค่เขาพยายามที่จะทำให้ประเทศไทยมีความเท่าเทียมมากขึ้น พอโดนคดี ม.112 ชีวิตของพวกเขาต้องไปอยู่ในคุก ต้องเข้าคุกเพียงเพราะต้องการทำให้สังคมเท่าเทียม การไปอยู่ในคุกทำลายชีวิตเขาโดยสิ้นเชิง กฎหมายที่มีโทษหนักเช่นนี้ทำลายทรัพยากรมนุษย์ ทำลายบุคลากรของประเทศโดยไม่จำเป็น มีแต่จะทำให้สถานการณ์ในประเทศแย่ลง ไม่มีทางทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
“ฝ่ายเสื้อเหลืองก็เคยโดน ม. 112 แต่ส่วนมากยกฟ้อง ผมคิดว่าน่าจะมีวิธีอื่นนอกจากการเอาคนไปติดคุก มีวิธีอื่นที่จะช่วยรักษาความเคารพ ศรัทธาเอาไว้ ผมเองก็รู้สึกเบื่อที่จะต้องพูดเรื่อง ม. 112 แล้ว เพราะมันควรจะถูกแก้ไขตั้งนานแล้ว ผมเหมือนถูกลากมานาน ผมเหมือนถูกลากให้คุยเรื่องนี้มาหลายปี เพราะปัญหามันไม่ถูกแก้ไขซะที ถ้าเขาเบื่อที่ผมพูด ก็ควรจะรีบแก้ไข ม. 112 ซะ ผมจะได้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก เพราะผมก็เบื่อเหมือนกัน
“ทางออกของสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในประเทศไทย ผมคิดว่าควรมีการจัดเวทีในพื้นที่ต่างๆ เอาคนที่มีความรู้ พูดเก่งๆ มาเสวนา แลกเปลี่ยน ถกเถียงกัน โดยมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่แสดงความก้าวร้าว ไม่มีการข่มขู่กัน วิธีนี้มันอาจจะใช้เวลานาน แต่น่าจะเป็นวิธีที่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ โดยที่ไม่ต้องทำลายอีกฝ่าย
“อีสานเป็นบ้านของผม ผมตั้งใจจะใช้ชีวิตที่นี่ ลูกของผมเกิดที่นี่ ลูกของผมก็รู้สึกว่า อีสานเป็นบ้านของเขาด้วย ผมไม่มีบ้านที่สหรัฐอเมริกา เวลาที่ผมไปสหรัฐอเมริกา ผมไม่ได้บอกใครว่าผมกลับบ้าน ผมจะบอกว่าผมไปเยี่ยมญาติ เพราะบ้านผมอยู่ที่นี่ สำหรับผม ยังไงก็จะหาทางอยู่ที่อีสานต่อ เพราะมันคือบ้าน ถึงผมจะชอบหน้าหนาว ชอบหิมะที่สหรัฐฯ และผมไม่ชอบอากาศร้อนๆของประเทศไทย แต่อากาศไม่ใช่ปัจจัยในการตัดสินใจของผม
“ตอนนี้ ลูกของผมสองคนอยู่กับแม่ของเขาที่สหรัฐอเมริกา และไม่มีแนวโน้มที่จะกลับมา เพราะเขารู้สึกอึดอัดเหมือนกับผม ที่รู้สึกอึดอัดตั้งแต่หลังมีรัฐประหาร(2557) ลูกของผมเขารู้สึกว่า ประเทศไทยคับแคบ
“สำหรับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ผมเชื่อว่าประเทศไทยจะหลุดพ้นก็ต่อเมื่อ ผู้มีอำนาจซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ พร้อมที่จะคิดได้แล้วว่า ประเทศไทยมีความหลากหลาย แล้วเปิดโอกาสให้คนในท้องถิ่นได้ใช้จินตนาการของตัวเอง คนกรุงเทพฯเปิดรับจินตนาการใหม่ ยอมรับในความหลากหลายทางความคิดและความฝัน เมื่อนั้นประเทศไทยก็จะเปลี่ยน แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับกรุงเทพฯ คนกรุงเทพฯไม่ยอมถอย และพยายามแช่แข็งประเทศไว้ตลอดเวลา มันเลยเปลี่ยนยังไม่ได้
“ผมเชื่อว่าเมื่อประชาชนเรียกร้องมากพอประเทศไทยก็จะเปลี่ยน แต่หลายครั้งที่ผ่านมา คนกรุงเทพฯหรือผู้มีอำนาจก็ไม่เคยเปลี่ยนวิธีคิด ความหวังเรื่องการเปลี่ยนแปลงเลยน้อย สำหรับตัวผมเอง ผมยังมีความหวังนะ ถึงแม้จะต้องสู้อีกนานแค่ไหนก็ตาม ผมอยู่เฉยๆไม่ได้ ผมจะทิ้งหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ไปได้ยังไง ถ้าเห็นว่าความอยุติธรรมยังเกิดขึ้นข้างๆเรา ผมเลยต้องสู้เพื่อความเป็นมนุษย์ของคนไทย และคนอีสาน รวมถึงมนุษย์ทั่วๆไป”
“แนวทางแก้ปัญหาของผมคือ ขอวีซ่าแต่งงาน ถ้าขอไม่ได้ก็คงต้องไปอยู่สหรัฐฯ ไปฉีดวัคซีนโควิด ลูกผมบอกให้ผมไปสหรัฐฯ ไปฉีดวัคซีนก่อน แล้วค่อยหาวิธีใหม่ หรือถ้าจะมีสถาบันอื่นในประเทศไทยอยากจ้างผม ผมก็อยากลองดู ถ้าใครใจดี ผมก็ขอบคุณ และสำนึกในความกรุณานั้น แต่ผมไม่อยากทำงานที่อื่นนอกอีสาน ผมอยากอยู่อีสาน เพราะที่นี่คือบ้านของผม”
---
David Streckfuss เจ้าของหนังสือ Truth on Trial in Thailand ที่เล่าเรื่องของคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ม. 112 ในประเทศไทย อดีตผู้อำนวยการ Council on International Educational Exchange (CIEE) ม.ขอนแก่น และผู้ก่อตั้ง The Isaan Record สำนักข่าวที่ชื่อเหมือนค่ายเพลง
---
หลังทราบเรื่อง ดิ อีสานเด้อ ได้โทรศัพท์ไปหา พันตำรวจเอกปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เพื่อขอคำชี้แจงเรื่องนี้แล้วแต่โทรศัพท์ปิดเครื่อง
---
ขอบคุณภาพประกอบ The Isaan Record
---
#ขอนแก่น #เดวิดสเตร็คฟัสส์ #TheIsaander #Isaan #Isaannews #อีสานเด้อ #อีสาน #ข่าวอีสาน #ดิอีสานเด้อ #ม็อบ30มีนา #ศักดินาจงพินาศประชาราษฎร์จงเจริญ #ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ #davidstreckfuss
---
ติดตาม The Isaander ได้ในหลายช่องทางดังนี้
---
เว็บไซต์ www.theisaander.com
เฟซบุ๊คแฟนเพจ https://www.facebook.com/theisaander
อินสตาแกรม www.instagram.com/theisaander
ทวิตเตอร์ twitter.com/TIsaander
.....
สุชาติ สวัสดิ์ศรี
12h ·

ไอ้เจ๊ก(ลิ้ม)บ้านั่นบอกว่าเป็น "ซีไอเอ"
อเมริกาส่งมาเพื่อล้มล้างสถาบัน เหตุเพราะเขียนหนังสือวิจารณ์เรื่อง ม.112 "กฎหมายหมิ่นพระบรมราชานุภาพ" อยู่เมืองไทยมากว่า 30 ปี มีเมียมีลูกเป็นคนไทย อีสานเป็นบ้านของเขา จู่ๆกระทรวงต่างประเทศไม่ต่อ "วีซ่า" ให้ และให้ออกจากเมืองไทยทันที ว่ากันตรงไปตรงมา ผู้บริหารหลายคนในมหาวิทยาลัยขอนแก่นนั้นยังเต็มไปด้วย "สลิ่ม" ไม่แตกต่างจากมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง
ทำตัว New Low มากขึ้นเรื่อยๆทุกวัน
แล้วจะอยู่กับอารยะนานาประเทศในโลกสมัยใหม่ได้อย่างไร