วันพุธ, เมษายน 14, 2564

ติดเชื้อเพิ่มเกินวันละ ๑,๓๐๐ ‘อนุทิน’ ยังเล่นบทการเมืองเก๋า "ใช้วาทะตบตีกับ ส.ส.วิโรจน์"


อนุทิน ไม่ยอมจบ ชอบเล่นบทนักการเมืองเก๋า มากกว่าบทหมอ (คงเพราะไม่ถนัดบทหลัง) ไม่งั้นได้เก็บความชอบจากประกาศ สธ.เรื่องกัญชา-กัญชง (ซึ่งคงถนัดกว่า) กลับมาพังด้วยโควิด เรื่องที่ไม่รู้จริงแล้วอวดเก่ง แถมดันอ้างอิง หมอบริกร

เวลานี้เกิดวิชาชีพแขนงใหม่ สไตล์บริกร-บริการรัฐบาลสืบทอดอำนาจ นอกจากนิติบริกรกับรัฐศาสตร์บริการแล้ว เดี๋ยวนี้ปรากฏแพทย์บริกร พวกบิดเบี้ยวจรรยาอาชีพ แทนที่จะบอกความจริงตามแก่นแก่ชาวบ้านทั้งหลาย กลับปรุงแต่งดัดแปลงให้ถูกใจนาย

จากโพสต์ของประชากรไซเบอร์รายหนึ่ง Santi Kijwattanapaibul อ้างถึง ความเดิมตอนที่แล้ว’ “จากหมอคนดี มี professionalism และ medical ethics เต็มหัวใจ เริ่มเจอไปเจอมา...มีชื่อเป็นประธานกรรมการบริหาร Lab แห่งหนึ่งซึ่งตัวเองเคยไปโฆษณาใน Facebook ส่วนตัว”

เขาว่าหมอคนนี้ตอนนั้น “ยังทำงานเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลของแผ่นดินอยู่” ตอนนี้ “พบว่า Lab ดังกล่าวนั้น ได้ทูลเกล้าถวายรถตรวจโควิด ซึ่งก็มีการรับถวายและออกมาเป็น รถตรวจโควิดพระราชทาน ในการออกไปตรวจโควิดตามพื้นที่ต่าง ๆ”

น่าชื่นชมเนอะ ถ้าไม่มีติดปลายนวมกลับมาเป็น “ค่าใช้จ่ายที่สามารถเบิกจ่ายหัวละ ๒,๓๐๐ บาท ซึ่งไม่รู้ต้นทุนเท่าไรจริง ๆ ผมเลยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงกล้าทำอะไรโดยไม่กลัวใคร เพราะมี back ดีอย่างงี้นี่เอง”


บ่องตง ไม่รู้ว่าหมอคนนั้นคนไหน หมอยงหรือหมอโอภาสหรือไม่ อุตส่าห์ไปถามอากู๋ก็รู้แต่เพียงว่า บริษัทเอกชนในงานการแพทย์สามรายร่วมกันตั้งเป็น Cartel สมาคมผู้ค้า เรียกตัวเองว่า TCRT แปลจากชื่ออังกฤษได้ว่า ทีมตอบสนองบรรษัทประเทศไทย

“เพื่อช่วยเหลือสังคมในสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙” ได้แก่บริษัท แอท-ยีนส์ จำกัด, ดีเอ็นเอ บริษัท พัลซ์ ไซเอนซ์ จำกัด และบริษัท ทิงค์เน็ต จำกัด เมื่อกรกฎาคม ๒๕๖๓ “ได้ขอพระราชทานน้อมเกล้าถวายรถตรวจโควิด-๑๙ ชีวนิรภัย เป็นรถรุ่นต้นแบบ”

จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ “พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้นำรถรุ่นต้นแบบไปพัฒนาต่อยอดมาเป็นรถเก็บตัวอย่าง ชีวนิรภัยพระราชทานจำนวนรวม ๑๓ คัน” ล่าสุดนี่ใช้ไปตรวจย่านทองหล่อหลังจากเกิดเหตุระบาดคลัสเตอร์ที่นั่น

หมอยงนั้น ชื่อสมยาเต็มว่า หมอ กปปส.ตัวยงนั่นเรื่องของเค้า แต่ที่ออกมาบอกว่าวัคซีนซิโนแว็คสามารถป้องกันไวรัสได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ออกจะเก่งมากจนคนธรรมดาเราๆ อ่านข่าวนิวยอร์คไทมส์ตามไม่ทัน ส่วนหมออีกคนขี้หลงขี้ลืม

นพ.โอภาศ การย์กวินพงศ์ อิบดีกรมควบคุมโรค “ขอความร่วมมือช่วงสงกรานต์” นี่น่ะ เน้นเฉพาะ “กลุ่มนักศึกษา ให้งดกิจกรรมและการเดินทาง เพื่อลดการแพร่และติดเชื้อในครอบครัว” พอดีมีหมออีกคนฟังไม่เข้าหู บอก “เลอะเทอะแล้วครับ

กลุ่มเที่ยวสถานบันเทิง กลุ่มเจ้าของผับ กลุ่มนักการเมืองที่ปิดไทม์ไลน์ กลุ่มพวกบ่อนการพนัน สนามมวย” อะไรงี้ “ไม่พูดถึงสักคำเนอะ” หมออั้ม อิราวัต อารีกิจ เติมด้วยแฮ้สแท็ก #ลดความเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาลง #แล้วเพิ่มความเป็นหมอข้าไปหน่อยครับ”

นั่นเรื่องความงี่เง่าของข้าราชการประเภทใช้แรงงานสมอง (จะมีเซลน้อยหรือมากกว่าสี่หมื่นแปดพันของนายหรือเปล่า น่าจะไม่เป็นผลกระทบกับผลงานใดๆ) แต่ยังมีความเขลาของข้าราชการประเภทใช้กำลังวังชาและอาวุธ (เป็นเครื่องทุ่นแรง)

ตามข่าวที่ sirote klampaiboon @sirotek เล่าแจ้ง “ทหารพราน ๓๖ ระดมกำลังฉีดโควิดในพื้นที่ป่า 5 แห่งแถบอุทยานบริเวณพื้นที่แม่แต๊ะหลวง, ห้วยสบแงะ, ห้วยอูมปะ, สาละวินท่าตาฝั่ง และพื้นที่ฝั่งน้ำสาละวิน อ้างทำเพราะคนเมียนมาเพิ่งเดินทางออกจากพื้นที่”

จึงไม่วายมีคอมเม้นต์จากชาวบ้านทวิตภพ ขอให้หยุดเถิด เสียดายงบประมาณไม่พอ มันสะท้อนองค์ความรู้หน่วยงานรัฐ และยังสะท้อนไปยังรัฐบาลด้วย” เพราะการพ่นยาฆ่าเชื้อตามพื้นถนนโล่งแจ้งแดดจ้า มันฆ่าเชื้อยามากกว่าฆ่าเชื้อไวรัส


ฉะนั้นการที่ อนุทิน ชาญวีรกูล ‘picked a fight’ ใช้วาทะตบตีกับ ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ซึ่งเขียนทวิตเตอร์ “โคตรพี้ค” เมื่อคนที่ตามด่าตนติดโควิดเข้าเอง จึงถูกอนุทินเสียบให้ว่าเป็นการ “สมน้ำหน้าประชาชนที่เขาติดเชื้อ” ตานี้วิโรจน์ก็สวนกลับสิ

ท่านเอาแต่ใช้อคติมาแต่งเรื่องดิสเครดิตผม โดยไม่ได้ฉุกคิดเลยว่า ผมกำลังสะท้อนว่าการบริหารความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีนที่ล้มเหลว...ฉีดวัคซีนล่าช้า...ประเทศไทยเราหารัฐมนตรีสาธารณสุขที่ดีกว่านี้ ไม่ได้จริงๆ แล้วหรือ”

ขณะที่วันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นต่อไปไม่มีใครยั้ง อีก ๑,๓๓๕ ราย ก็อกสั่นขวัญแขวนกันไปทั่วสิ

(https://www.matichon.co.th/politics/news_2672473, https://www.techtalkthai.com/thinknet-tcrt-covid-19/ และ https://today.line.me/th/v2/article/O3KeDm http://www.atgenes.com/blog/main/view/63)