หน้ากากอนามัยไปไหน?
หรือจะมีใคร “รวย” จากการกักตุน
•
•
หลังวิกฤตโคโรนาไวรัส 2019 เรื้อรังลากยาวมา 1 เดือนเศษ สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงก็คือ หน้ากากอนามัย ยังทั้งหายากและหาไม่ได้ หรือใครหาได้ ก็มีราคาแพงเกินจริงไปมาก
•
บางที่ หน้ากากเขียวธรรมดา ชิ้นละ 35-70 บาท ไม่ต้องพูดถึงหน้ากากชนิด N95 ขายปลีกชิ้นหนึ่งเหยียบร้อย
•
ไม่ใช่เฉพาะคนทั่วไปเท่านั้นที่หาหน้ากากไม่ได้ แต่บุคลากรทางการแพทย์ หมอ พยาบาล ก็ต้องใช้อย่างจำกัดจำเขี่ยบางที่ต้องลงชื่อ “เบิก” หน้ากากใช้ได้เวรละ 1 ชิ้น บางที่ จำกัดให้ผู้มีความจำเป็นเท่านั้นที่จะเอาหน้ากากอนามัยไปใช้ได้
•
และภาวะวิกฤตที่ไทย ยังรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดเข้ามา ก็ทำให้โรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลรัฐ ต้อง “เสริมกำลัง” หนาแน่นขึ้น แต่สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งอย่างหน้ากากอนามัย กลับไม่เพียงพอ หลายครั้งแพทย์ พยาบาล ต้องออกไปหาซื้อกัน “ใต้ดิน” เอาเอง
•
สาเหตุสำคัญก็คือ แม้แต่กระทรวงสาธารณสุข ผู้ที่ต้องรับผิดชอบจัดหาหน้ากากอนามัยนั้น ก็ “สู้ราคา” จากยี่ปั๊วทั้งหลายไม่ไหว เหตุเพราะมี “ไอ้โม่ง” บางคนไปกว้านซื้อล็อตใหญ่จากโรงงานกันหมดแล้ว
•
อันที่จริง หาติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น จะพบว่ามีความแปลกประหลาดอยู่หลายประการ ไล่เรียงเป็นลำดับขั้น เริ่มตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั้นยืนยันตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. ว่าหน้ากากอนามัยนั้นไม่ขาดแคลน และข่าวที่ว่า “ขาด” นั้น อาจเป็นข่าวปลอม
•
พร้อมกับเสนอแนะให้คนที่คิดว่าหน้ากากขาดตลาดนั้น ไปหาซื้อที่โรงงานแทน...
•
กระทั่งรับรู้ว่าหน้ากากขาดจริง จึงพยายามใช้กลไกของกระทรวงพาณิชย์เข้ามาจัดการ ด้วยการให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม 1 ปี ไม่ให้กักตุน ไม่ให้โก่งราคา
•
แต่ก็กลายเป็นว่า หลังจากนั้นไม่นาน เกิด “วิวาทะ” ว่า หน้ากากอนามัยที่กระทรวงพาณิชย์ขายชิ้นละ 2.50 บาท หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น แพงกว่าที่องค์การเภสัชกรรมขายชิ้นละ 1 บาท ไปไกล โดยเฉพาะหากซื้อในปริมาณมากๆ...
•
ฝ่ายรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล คนของประชาธิปัตย์ที่คุมกระทรวงพาณิชย์นั้น ยืนยันว่าที่แพงกว่า เพราะของกระทรวงพาณิชย์เป็นของใหม่ ส่วนขององค์การเภสัชฯ เป็นของค้างสต็อก
•
จนกระทรวงสาธารณสุข ที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทยนั้น ต้องออกมาตอกกลับว่าของที่องค์การเภสัชฯ ขาย เป็นของใหม่ และเป็นการขายในราคา “เท่าทุน” หลังจากนั้น กระทรวงพาณิชย์ก็เงียบไปทันที พร้อม ๆ กับความพยายามทั้งแจก ทั้งขาย ก็ชะงักงันเช่นกัน เพราะคน เริ่มจะลืมเลือนไป..
•
แต่ถามว่าปัญหาหายไปไหม คำตอบก็คือไม่ ประชาชนยังเข้าถึงหน้ากากอย่างยากลำบาก ร้านค้าขององค์การเภสัชกรรม มีคนไปต่อคิวรอตั้งแต่ตี 5 - 6 โมงเช้าทุกวัน และแม้องค์การเภสัชกรรมจะเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงสาธารณสุข หน้ากากอนามัย ที่จัดส่งไปยังบุคลากรทั้ง รพ.สต. ทั้งโรงพยาบาลน้อยใหญ่ ก็ยังขาดอยู่วันยันค่ำ
•
ในทางกลับกัน กลับมีการเสนอขายหน้ากากล็อตใหญ่ พันชิ้น หมื่นชิ้น กันเอิกเกริก ทั้งในเฟซบุค ทั้งในลาซาด้า ชอปปี้ และใน “ตลาดมืด”
•
แต่จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีพาณิชย์ ก็ยังยืนยันว่าหน้ากากไม่ขาด กำลังการผลิตยังปกติ และมีเหลือเฟือในสต็อก...
•
วิชัย โภจนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อ 28 ก.พ. ที่ผ่านมาว่าหน้ากากอนามัยมีในสต็อกกว่า 30 ล้านชิ้น กำลังการผลิตจากโรงงาน ยังเป็นไปตามปกติ และกรม ไม่ได้อนุญาตให้ส่งออกหน้ากากไปต่างประเทศแล้ว
•
น่าสนใจก็ตรงที่ ทั้งการกักตุน การโก่งราคา ปละภาวะสินค้าขาดแคลน เกิดขึ้นภายใต้ประกาศของกระทรวงพาณิชย์ให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม หากกักตุน และขายเกินราคา มีบทลงโทษทางกฎหมายร้ายแรง
•
นั่นแปลอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากกฎหมายที่รัฐบาลถือนั้น “ไร้น้ำยา” ของจริง เพราะไม่อย่างนั้น บุคลากรทางการแพทย์ คงไม่ต้องทำงานหน้างานแบบเสี่ยงๆ แบบนี้
•
สิ่งที่น่าตั้งข้อสังเกตก็คือตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา มีกระบวนการ “จัดซื้อ” หน้ากากล็อตใหญ่จากโรงงานของ “พ่อค้าคนกลาง” ผู้ใกล้ชิดกับรัฐบาล หรือใกล้ชิดกับพรรคการเมืองพรรคไหนหรือไม่ หน้ากากถึงได้ขาดแคลน จนราคาแพงขึ้นมหาโหดขนาดนี้ โดยที่ไม่มีใครทำอะไรได้
•
แล้ว 1 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางความหวาดวิตกกับวิกฤตโควิด-19 ที่จะขึ้นเป็นเฟส 3 ในอีกไม่นานนี้ มีใครบางคน“ร่ำรวย” จากการกักตุนหน้ากาก หรือจัดการ “ส่งออก” หน้ากาก ไปยังประเทศที่มีคำสั่งซื้อล็อตใหญ่หรือไม่? ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคำถามที่น่าคิด
•
ต้องไม่ลืมว่า ช่วงวิกฤต “น้ำมันปาล์ม” ขาดตลาด เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ก็มี “นักการเมือง” ร่ำรวยจากการตักตวงในภาวะวิกฤตแบบนี้เหมือนกัน และก็คลับคล้ายคลับคลาเช่นกันว่า จะเป็นพรรคการเมืองที่คุ้นๆ หน้า ยังบริหารงานเป็นรัฐบาลอยู่ตอนนี้ด้วย
•
ล่าสุด อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ออกมาบอกว่า กระทรวงสาธารณสุข ไม่มีหน้าที่ “จัดหา” หน้ากากอนามัยให้ประชาชนทั่วไป หากขาดแคลน หาซื้อยากลำบาก ก็ขอให้ติดต่อกระทรวงพาณิชย์
•
แต่ที่กระทรวงสาธารณสุขต้องทำหน้าที่ “แจก” หน้ากากวันละแสนชิ้นนั้น เป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ของประชาชนที่ “หน้ากาก” ขาดตลาด
•
เป็นการยอมรับตรง ๆ ว่าปัญหาขาดหน้ากากนั้นมีอยู่จริง และไม่ได้จัดการได้สวยหรูอย่างที่กระทรวงพาณิชย์พยายามชี้เแจง..
•
คำถามก็คือ ในเมื่อโรงงานยังคงผลิตหน้ากากตามปกติ หน้ากาก เป็นสินค้าควบคุม ห้ามกักตุน ห้ามโก่งราคา และห้ามส่งออก แล้วสุดท้าย หน้ากากที่หมุนเวียนในระบบนั้นหายไปไหน?
•
แม้กระทั่งสมาคมโรงพยาบาลเอกชนยังต้องเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหานี่โดยด่วน เพราะไม่สามารถจัดซื้อหน้ากากอนามัยด้วย ด้วยเหตุผลที่ผู้ผลิตบอกว่า ผลิตได้เท่าไหร่ต้องส่งให้กรมการค้าภายใน หากโรงพยาบาลเอกชนต้องการให้ติดต่อกรมการค้าภายในเอง เมื่อติดต่อ ได้รับคำตอบว่าต้องเข้าคิว ขณะที่ภาวะการขาดแคลนหน้ากากอนามัยอยู่ในขั้นวิกฤต
•
หากรัฐบาลไม่สามารถตรวจสอบเส้นทางได้ ก็แปลว่ามีคนใกล้ๆ ตัว ที่รวยจากการกักตุน และนำไปขายในล็อตใหญ่เอากำไรส่วนต่างเข้ากระเป๋า
•
สะท้อนให้เห็นว่าในวิกฤตครั้งนี้ นอกจากมีประชาชน มีบุคลากรทางการแพทย์ เดือดร้อนจากการขาดแคลนหน้ากากแล้ว
ยังมีบางคน “ร่ำรวย” จากวิกฤต และอยู่เหนือกฎหมาย จนใครเข้าไปยุ่มย่ามไม่ได้เช่นกัน...
#หน้ากากอนามัย #กรมการค้าภายใน #โรงพยาบาลเอกชน #COVID19 #กระทรวงสาธารณสุข
Gossipสาสุข
https://www.facebook.com/gossipsasook/photos/a.347034632506292/642764642933288/?type=3&theater
...
ภาพนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่อง แต่น่าจะได้รับรางวัล