ถ้าตู่ยังไปต่อ นร. นศ. ก็ไม่หยุดยั้ง
การชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรม ต่อต้านเผด็จการ และเชิดชูประชาธิปไตย ของนักเรียน-นักศึกษา
ดำเนินติดต่อกันมาเป็นเวลาเกือบอาทิตย์แล้ว
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่
เฉพาะวานนี้ (๒๘ กุมภา) วันเดียว ‘ไทยรัฐ’ รายงานว่ามีการจัด ‘แฟล้สม็อบ’
ถึง ๙ แห่ง ทั้งศึกษานารี สตรีนนท์ หอวัง ราชภัฏฯ เทคโนฯ ม.พะเยา
ชัยภูมิ และลำปาง ก่อนหน้านี้มีนัดชุมนุมกระจายไปทั่ว นครปฐม จันทบุรี และศรีราชา
โดยวันนี้มีนัด (ซ้อม) ชุมนุมใหญ่ เชิญทุกมหา’ลัย โรงเรียน และประชาชนทั่วไปร่วม ชลธิชา แจ้งเร็ว นักกิจกรรมตั้งแต่ปี
๕๗-๖๑ ชวนทุกคน #คืนสู่เหย้าไม่เอาไอโอ (ชา) ๕ โมงเป็นต้นไปที่หน้าหอประชุมใหญ่เกษตรศาสตร์
บางเขน
ขณะที่ทางการทั้งสถานศึกษาและตำรวจขยายขอบข่ายวิธีการสกัดกั้น
นอกจากมีนายตำรวจเข้าไป ‘Harass’ ก้าวล่วงนักศึกษากลางสถานที่ชุมนุม
ด้วยการเรียกขอเก็บบัตรประจำตัว แล้วมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบตามถ่ายภาพ
และขู่ว่า
จะส่งรูปให้อาจารย์หักคะแนนความประพฤติบ้าง
หรือที่จันทบุรีมีการเปรียบเทียบปรับนักศึกษาถึงสองหมื่นบาท อ้างว่าขออนุญาตช้าไป ไม่ถึง
๒๔ ชั่วโมงที่กำหนด กระทั่งแถลงขู่ว่าจะดำเนินคดีต่อผู้ปกครอง หากนักเรียนนักศึกษาใช้ข้อความประท้วงหมิ่นเหม่ต่อสถาบันกษัตริย์ก็มี
การนี้ สุณัย ผาสุข แห่งฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์
ออกมาโต้แย้งว่าตำรวจ “ลุแก่อำนาจกล่าวหาเด็กหมิ่นสถาบันฯ”
ในเมื่อข้อความบนป้ายที่นักเรียนรายหนึ่งเขียนชู เอามาจากข้อสอบโอเน็ตสำหรับชั้น
ม.๖ ที่ออกโดย สทศ.เอง
ข้อ
๓๕.ถามว่าใครคือผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศ ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
คำตอบที่ถูกต้องจากตัวเลือก ๔ อย่างคือ กษัตริย์ ประชาชน รัฐบาล และรัฐสภา ซึ่งเฉลยว่าคือ
‘ประชาชน’
หลังซ้อมใหญ่วันนี้แล้ว น่าจะมีของจริงชนิดรวมดาวกระจายตามมาไม่ช้า
เมื่อสถานการณ์การเมืองซาลงไป สถานการณ์เศรษฐกิจที่จอดรอขบวนฯ อยู่ก็จะทะลักออกมา
โดยมี ธปท. ย้ำเตือนว่า “เศรษฐกิจไทยจะดิ่งลึกสุดในไตรมาส ๑/๒๕๖๓”
ทั้งนี้เนื่องจาก “โดยเฉพาะตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเดือน
ก.พ.เบื้องต้นหายไปแล้วกว่า ๔๕% จากจำนวนนักท่องเที่ยวรวม
และผลกระทบให้ภาคการส่งออกชะลอตัว” นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส
ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาคเพิ่งแถลง
“หากไม่รวมการส่งออกทองคำ จะขยายตัว -๑.๓%” (แปลภาษาแบ๊งค์ชาติมาเป็นภาษาไทยพื้นบ้านได้ว่า ‘ติดลบ’ อะ) “การลงทุนภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อน
การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนหดตัวต่อเนื่อง” เช่นกัน
“จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศขยายตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อนที่
๒.๕% อย่างไรก็ดี
จำนวนนักท่องเที่ยวจีนหดตัว” เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของไวรัส COVID-19 รุนแรงขึ้นในประเทศจีน ทางการจีนประกาศระงับการท่องเที่ยวต่างประเทศ
ความห่วงกังวลของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น
ได้รับการคอนเฟิร์มจากภาคเอกชน เช่น “เครือโรงแรมเซ็นทาราของกลุ่มเซ็นทรัลลดต้นทุน
ให้พนักงานลาหยุดมีนาคมโดยไม่จ่ายเงินเดือน” เช่นเดียวกับ “บางกอกแอร์เวย์ส
ลดเงินเดือนผู้บริหาระดับสูงทุกตำแหน่งลง ๕๐%
ประกาศล่วงหน้าไม่ขึ้นเงินเดือนปีนี้ ให้ลา ๑ เดือนไม่รับเงินเดือน ตัดลดสวัสดิการ
เหตุไวรัสโควิด-๑๙ กระทบหนัก” (จากทวี้ต Den Bancha
Chumchaivate @bancha333)
แท้จริงนั่นการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เริ่มสั่นสะเทือนเศรษฐกิจโลก
เห็นได้ชัดจากตลาดหุ้นในสหรัฐและเอเซียตกฮวบ ในอเมริกาตกต่อเนื่องมา ๖ วันแล้ว
เป็นดั่งผีซ้ำดั้มพลอยสำหรับไทย นับแต่การค้าขายระดับรากหญ้าทรุดหนักมาหลายปี
คราวนี้ ‘ผู้บริหาระดับสูง’
ได้สัมผัสพิษกันบ้างแล้ว ต่อให้ระดับ ‘เจ้าสัว’ ยังอูฟูไม่สะทกสะท้าน ลองดูอีกไม่นานระดับผู้จัดการโดนพักงานกันมากขึ้น ไม่ช้าเกินรอบรรยากาศ
‘เป่านกหวีด’ จะกลับมาเยือน
แต่คราวนี้เปลี่ยนโฉมใหม่
โดยมีคนรุ่นหนุ่มสาวเป็นฐานราก และเป้าหมายไม่เพียงคนตระกูลเดียว
แต่จะกระทบไปทั่วทั้งฟากฟ้า




















ผมปลื้มใจมากกับคนรุ่นใหม่วัยเยาว์ของเมืองไทย และดีใจมากที่ ชาร์ลี ลูกชายของผม ก็เป็นเด็กไทยคนหนึ่งด้วย



I’m so proud of the young people of Thailand, and happy that my son Charlie is a young Thai too.