วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 07, 2559

ภาคประชาสังคมฟ้องศาลปกครองสูงสุด ขอเพิกถอนประกาศ กกต. จำกัดเสรีภาพรณรงค์ประชามติ + รองเลขาธิการUN แจงการพูดคุยกับรมว.ช่วยกต.ไทย ย้ำว่าได้แสดงความกังวลกรณีการจำกัดเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นก่อนประชามติ







ภาคประชาสังคมฟ้องศาลปกครองสูงสุด ขอเพิกถอนประกาศ กกต. จำกัดเสรีภาพรณรงค์ประชามติ

ภาพจาก ประชาไท
เรื่องโดย iLaw

วันที่ 6 กรกฎาคม 2559 โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) และสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) พร้อมกับประชาชนอีก 11 คน เข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อขอเพิกถอนประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติพ.ศ. 2559 ซึ่งออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีเนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมาย ขัดต่อหลักประชาธิปไตย และพันธกรณีระหว่างประเทศ และกระทบสาระสำคัญของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน

ปัญหาสำคัญประกาศของประกาศ กกต. ฉบับดังกล่าว คือ มีเนื้อหาคลุมเครือ ไม่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น การกำหนดลักษณะต้องห้ามในการแสดงออกโดยใช้คำว่า “บิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง” หรือ “ลักษณะรุนแรง” หรือ “ก้าวร้าว” หรือ “หยาบคาย” หรือ “ปลุกระดม” หรือ การกำหนดว่า ผู้ที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ ต้องศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญอย่างครบถ้วนและต้องนำเสนอหรืออ้างอิงงานวิจัยตามหลักวิชาการเพื่อประกอบการแสดงความคิดเห็น หรืออย่างการกำหนดว่า การจัดเวทีสัมมนา หรือการอภิปรายที่เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญต้องมีหน่วยงานของรัฐ หรือสถาบันการศึกษา หรือองค์กรด้านสื่อสารมวลชนเข้าร่วม รวมไปถึงการห้ามชักชวนให้ใส่เสื้อ หรือติดป้าย หรือเครื่องหมายที่แสดงสัญลักษณ์ เพื่อนำไปปสู่การปลุกระดมทางการเมือง เป็นต้น

ข้อกำหนดเช่นนี้จำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานจนเกินสมควรไม่ได้สัดส่วนกับการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ กระทบต่อต่อสาระสำคัญของสิทธิที่ต้องได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 4 ประกอบกับกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ข้อ 19 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 มาตรา 7

ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า หากยังมีการบังคับใช้ประกาศดังกล่าวต่อไป ย่อมไม่อาจทำให้การออกเสียงประชามติครั้งนี้บรรลุตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงของการลงประชามติได้ ซึ่งจะส่งผลให้การจัดทำประชามติสูญเสียความชอบธรรม กระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศในอนาคต และกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม

ขณะเดียวกัน ในช่วงเวลานี้ กกต. ได้ผลิตรายการ “7 สิงหาประชาร่วมใจ” เพื่อแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ แต่ทว่า สัดส่วนผู้รวมรายการดังกล่าวให้โอกาสกับกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญและส่วนราชการมากกว่าภาควิชาการและประชาสังคม และไม่เปิดโอกาสให้กับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยหรือมีความเห็นแย้งกับร่างรัฐธรรมนูญได้ร่วมรายการอย่างเท่าเทียม ดังนั้น การกระทำดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยระเบียบของกกต.เอง และไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ผู้ฟ้องคดีจึงขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ และเพิกถอนมติคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ออกประกาศดังกล่าว และขอให้ศาลปกครองสั่งระงับการออกอากาศรายการดังกล่าว

คำร้องขอให้บรรเทาทุกข์ชั่วคราวโดยเร่งด่วน

เนื่องจากจะมีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 หากล่วงเลยกำหนดระยะเวลาดังกล่าวไปโดยที่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่หลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกประกอบการตัดสินใจได้ ย่อมทำให้การทำประชามติไม่บรรลุผลตามกฎหมายโดยสิ้นเชิง ผู้ฟ้องคดีจึงขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาโดยเร่งด่วน ดังนี้

1. งดการบังคับใช้ประกาศกกต. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2559 จนกว่าศาลปกครองจะมีคำพิพากษา เพื่อให้ผู้ฟ้องคดีและประชาชนทั่วไปใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและแสดงออกทางการเมือง รวมทั้งรณรงค์ได้

2. ระงับการออกอากาศรายการ “7 สิงหาประชาร่วมใจ” ที่กกต.เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญ ทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ต่างๆ จนกว่าจะแก้ไขและเปิดโอกาสให้ฝ่ายที่มีความเห็นแย้งต่อร่างรัฐธรรมนูญเข้าร่วมมีสัดส่วนเท่าเทียมกัน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
ความเคลื่อนไหวก่อนผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติเอกฉันท์ พ.ร.บ.ประชามติ ขัดรัฐธรรมนูญ
รณรงค์ประชามติ ‘ยาก’ ศาลรธน.ชี้ พ.ร.บ.ประชามติฯ ไม่ขัดรัฐธรมนูญ
สรุป เหตุผลของศาลรัฐธรรมนูญว่าทำไม พ.ร.บ.ประชามติฯ ถึงไม่ขัดรัฐธรรมนูญ


ooo

4k UHD - ภาคประชาสังคม ยื่นศาลปกครองสูงสุด เพิกถอนประกาศ กกต. มีเนื้อหาขัดต่อหลักประชาธิปไตย





https://www.youtube.com/watch?v=WjNWHFMa_Ug

TV24 Official

Published on Jul 6, 2016

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) และสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) พร้อมด้วยนักวิชาการ 11 คน นำโดยนายจอน อึ๊งภากรณ์ ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้เพิกถอนประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความเห็นในการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2559 ออกโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย มีเนื้อหาขัดต่อหลักประชาธิปไตย และพันธกรณีระหว่างประเทศ รวมถึงกระทบต่อการแสดงความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ นายจอน กล่าวว่า ประกาศนี้มีข้อกำหนดเกินกว่าที่ พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เช่น ห้ามจำหน่ายเสื้อที่มีข้อความรณรงค์หรือห้ามจัดเวทีพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ หากไม่ได้จัดโดยหน่วยงานรัฐ ซึ่งขอยืนยันว่าการรณรงค์เป็นสิ่งที่ทำได้ตามมาตรฐานของนานาประเทศ ดังนั้น กกต. ต้องเปิดอิสระและทำหน้าที่จัดการออกเสียงประชามติให้เป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม ไม่ใช่ตัดสิทธิ์ผู้ที่มีความคิดเห็นต่าง พร้อมขอให้ศาลปกครองสูงสุดเร่งไต่สวนและคุ้มครองชั่วคราว งดบังคับใช้ประกาศ กกต. และสั่งยุติรายการโทรทัศน์ของ กกต. ที่ให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ พูดถึงแต่ด้านดี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการลงคะแนนประชามติ
.....



.....



 ลิงค์เอกสาร UN
http://www.un.org/sg/dsg/dsgoffthecuff.asp?nid=310

...



http://www.khaosodenglish.com/politics/2016/07/06/un-issues-refutes-rosy-thai-account-meeting-referendum-rights/