ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ พูดถึงเรื่องโพลของหน่วยงานความมั่นคงแห่งหนึ่ง ซึ่งเตรียมแถลงในวันศุกร แต่คนทำโพลเห็นผลแล้ว ‘ช็อค’ ต้องเอากลับไปทบทวนใหม่ (ดนัยบอกว่า ‘รีเช็ค’) เพราะกลัวโดนเจ้านายซักหนัก แล้วว่ากำหนดแถลงใหม่เย็นวันจันทร์
ขณะเขียน (เที่ยงวันอังคาร) ยังไม่เห็นข่าวโพลที่ว่า อย่างไรก็ตาม ว่ากันเรื่องผลโพลที่ดนัยเปิด เนื่องจาก สศจ.บอก “นี่เป็นสิ่งใหม่ในการเมืองไทย” ที่ซึ่งดนัยว่าพรรคก้าวไกลอาจสร้างประวัติการณ์ซ้ำรอยเดิม แบบพรรคอนาคตใหม่ทำไว้
คือมาแรงมาก ได้รับเลือกตั้งปี ๖๒ กว่า ๘๐ ที่นั่งในสภา เป็นผลให้อำนาจทหารและศักดินาครั่นเนื้อครั่นตัว แล้ว อนค.ก็ถูกอำนาจ ตลก.สั่งยุบพรรคและตัดสิทธิการเมืองแกนนำหลายคน ที่กลายมาเป็นตัวจักรสำคัญในคณะก้าวหน้า ช่วยพรรคก้าวไกลหาเสียง
ผลโพลที่ว่าช็อคนั้น ปรากฏว่าพรรคก้าวไกลได้รับความนิยมอย่างไม่คาดคิด คืออาจจะได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต ราวจังหวัดละคนถ้วนทุกจังหวัด บวกใน กทม.อีกไม่ต่ำกว่า ๒๐ ถ้านับรวม ส.ส.บัญชีรายชื่อท้ายที่สุดแล้ว เที่ยวนี้ก้าวไกลจะได้เกินร้อย
ประเด็นที่ สมศักดิ์ เจียมฯ เจาะถึงว่าปรากฏการณ์นี้จะทำให้ก้าวไกลเนื้อหอม “ถ้าก้าวไกลอยู่ต่อไปอีกจะเริ่มมีอันตราย ของการที่พวกเขี้ยวลากดินทั้งหลายหันมาเข้าพรรค” เขาเสนอว่าถ้า กก.ไม่เปลี่ยนไปจาก “จุดยืนปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” พวกเขี้ยวจะไม่กล้าแหยม
แต่นั่นหมายความด้วยว่าก้าวไกลจะไม่มีวาสนาได้ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งโพลที่ดนัยอ้างชี้ว่ายังเป็นพรรคที่ได้ ส.ส.มากที่สุด แต่ไม่ ‘แลนด์สไล้ด์’ และจะไม่ยอมแตะเรื่องการขอแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ อย่างแน่นอน เพียงคอยดูเรื่องการบังคับใช้
อีกแง่มุมของปรากฏการณ์ที่ว่านั่น คือจะเป็นการตัดคะแนนกันเองในฝ่ายประชาธิปไตย หรือตามที่ติ่งเพื่อไทยอ้าง ว่าก้าวไกลมาแย่งคะแนนไปจากเพื่อไทยเหมือนเมื่อปี ๖๒ ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ ‘ไม่ผิด’ อย่าง ‘เห็นแก่ตัว’
แทนที่จะเป็นการเอื้ออำนวยต่อกันและกัน ถ้าสองพรรคนี้มุ่งมั่นเพื่อไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ก็จะทำให้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ แน่นอนว่าถ้าประสานกันหาเสียงพุ่งเป้าไปสู่จุดหมายดังกล่าว สองพรรคต่างจะได้คะแนนเพิ่มกว่าที่เคยคาดการณ์
(https://twitter.com/Ritaflows/status/1652858650224914434)
