วันอังคาร, สิงหาคม 09, 2565

‘บุพเพสันนิวาส ๒’ บันเทิงประโลมโลกแบบ ‘ราชาชาตินิยม’ ที่ไม่ ‘ตื้นเขิน’ แต่ก็ยัง “บันทึกประวัติศาสตร์จากมุมมองของตัวเอง”

มีการพูดถึงความสำเร็จของ บุพเพสันนิวาส ๒กันหลายราย ว่าทั้งที่เป็นบันเทิงประโลมโลกแบบ ราชาชาตินิยม’ ก็มิได้ ตื้นเขิน เหมือนละครทำนองนี้ทั่วไป

ข้อสำคัญผู้สร้างฉลาดรู้พอที่จะตัดฉากซึ่งแสดงให้เห็นความเหลื่อมล้ำออกไปสิ้นเชิง

สิ่งที่ผู้ชมได้เห็น จึงเป็น ‘RomCom’ เรื่องรักสนุกสนานของคนในวรรณะเจ้าขุนมูลนาย ‘แต่ปางก่อน ล้วนๆ ไม่มีอะไรให้ผู้ชมยุคนี้ตะขิดตะขวง อย่างที่บทความ The101.world ว่า “ย้อมอดีตให้เป็นเรื่องฟุ้งฝัน และมอบรสชาติที่ กลืนง่ายรวมทั้ง ชื่นมื่น

บทวิจารณ์ยังเจาะลึกด้วยว่า “ไม่ว่าตัวหนังจะจงใจหรือไม่ก็ตาม มันได้ส่งต่ออุดมการณ์ราชาชาตินิยมผ่านการมีอยู่อันแสน เป็นมิตรและ ชีวิตดีของตัวละครขุนนางมียศฐาบรรดาศักดิ์ในเรื่อง และมองข้ามชีวิตข้าทาสไปเกือบหมด”

ซ้ำประชดประชัน ซึ่งก็น่าเศร้าปนขันที่ผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจว่า หากภพชาติมีอยู่จริง กว่าครึ่งนี่น่าจะไปเกิดเป็นบ่าว โดนเฆี่ยนหรือไม่ก็ไปเป็นไพร่ ไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควายสโลว์ไลฟ์กลางทุ่ง กระหืดกระหอบทำงานส่งส่วยให้ในวัง”

กระนั้น มีคนลงลึกไปในรายละเอียดเสียอีก ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ รายนี้เห็นใจ สุนทรภู่ที่ “โดนแกงสุดๆ...เพราะความที่ท่านเป็นสามัญชน บทหนังจะให้ท่านเป็นกวีขี้เหล้าไปยันหมอผีเสกคุณไสยยังไงก็เอากันที่สบายใจ”

ส่วนตัวละครเริ่ด เสด็จในกรมถ้า “เป็นคนที่เคยมีตัวตนอยู่จริง ท่านคงจะเป็นต้นตำรับ LGBT เพราะถูกรัชกาลที่ ๓ ดำเนินคดีต้องหาว่าท่านมีสวาทกับพวกเล่นละครที่เป็นชายด้วยกัน” แสดงว่าเพศสภาพในราชสำนักสยามมีมาก่อนรัชกาลที่ ๖

แล้วเรื่อง กบฎ หรือยึดอำนาจไม่สำเร็จ แบบเมษาฮาวาย หรือ ฉลาด หิรัญศิริ อะไรงี้ นักวิเคราะห์เขาว่า  “จะเท็จจริง คงต้องรอให้มีใครกล้าขุดลึกๆ แบบซีรีส์ราชวงศ์เกาหลีนั่นแหละ จึงจะใกล้ความจริงขึ้นมา เพราะในกรอบแบบไทยๆ ขุดมากลำบากตัว...

ฝ่ายเสด็จในกรมก็แค่ถูกเข้าใจผิดว่าก่อกบฏ นายหันแตรก็ไม่ได้ตั้งใจร่วมกบฏ มีแค่พวกที่ไม่มีตัวตนจริงๆ ในประวัติศาสตร์คิดกันจะยกไทยให้เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ” ในบทสนทนาระหว่างบาดหลวงปาเลอกัวร์กับนางเอก บอกใบ้ไว้แล้ว

“ทุกคนก็บันทึกประวัติศาสตร์จากมุมมองของตัวเอง” ฝรั่งเขาถึงบอก “Life imitating Art” หรือในทางตรงข้าม “ศิลปะก็เพื่อการดำรงของชีวิต” แต่ในตัวตนจริงของ ‘Flesh and Blood’ ขาดไม่ได้เมื่อ “ดูหนังดูละครแล้วต้องย้อนดูตัว” 

(https://www.facebook.com/natsetcall/posts/pfbid02ELRG9B และ https://www.facebook.com/the101.world/posts/pfbid033LCEz)