เป็นการตอบแบบ ‘ไปไหนมา สามวาสองศอก’ ความจริงน่าจะมีแค่ เขาค้านเพราะไม่ต้องการให้มีคู่แข่งที่แข็งแรงพอๆ กัน โดยเฉพาะเมื่อเหลือแค่สองรายหลังควบรวม เป็นการแข่งขันที่ไม่ง่าย แต่หากว่าการมีแค่สองรายสูสีกลายเป็นขยิบตาให้กันง่ายๆ
ดังที่ ศิริกัญญา ตันสกุล ลุกขึ้นโต้ทันควัน ว่าการมีสองรายที่ส่วนแบ่งตลาดพอๆ กันแล้ว จะไปลดราคาแข่งทำไม ใช้แค่ขยิบตารายนี้ขึ้นราคา อีกรายขึ้นบ้าง อย่างนี้ง่ายมาก ส.ส.ก้าวไกลทวนความจำรัฐมนตรีว่าตอนประมูลคลื่น ‘3G’ จำได้ไหม
ตอนประมูล (จริงๆ คือแจก) สามจีให้สามเจ้า ก็ออกระเบียบว่าต้องทำราคาให้ถูกลง แต่หน่วยงานกำกับดูแลไหงซื่อบื้อ เอาแพ็คเกจของแต่ละเจ้ามารวมกันแล้วหารหาค่าเฉลี่ย บอกว่าถูกลงแล้ว “มันไม่ใช่” โปรบางอย่างราคาถูกเพราะคนไม่ใช้
เอาไปรวมกับโปรราคาแพงที่คนใช้เยอะแล้วหาร มันก็ดูเหมือนว่าถูกลงน่ะสิ ฉันใดก็ฉันนั้นกับการควบรวม ทรู-ดีแท็ค นี้จะอ้างเสรีภาพ (รัฐมนตรีทั่นว่าอย่างนั้น) ปล่อยควบรวมไปก่อนแล้วไปหาวิธีทำให้ลดราคาทีหลัง เชื่อได้เหรอ กสทช.เนี่ย
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ยังปากแข็งไม่ลดละ บอกไม่มี้ไม่มี คนในคณะรัฐมนตรีจะไปมีผลประโยชน์อะไรกับการควบรวม มันเป็นเรื่องที่เอกชนคุยกันเอง ต้องปล่อยเขา เป็นสิทธิเสรีภาพในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะเราไม่มีกฎหมายห้าม (Anti Trust)
ทำนองว่า “ขืนไปเจ้ากี้เจ้าการสั่งโน่นนี่ โดนฟ้องตายห่” เป็นประเด็นที่ฝ่ายค้านถามไม่ตรงคำตอบอีกแหละ ศิริกัญญาอ้างถึงในต่างประเทศที่รัฐบาลเขาใส่ใจสวัสดิภาพของประชาชน เห็นอะไรไม่ชอบมาพากล ต้องยื่นมือเข้าไปรับรู้ แนะนำ และจัดการ
เธอยกตัวอย่างการควบรวมในแคนาดา จากสี่บริษัทไปเหลือสามเท่านั้น รัฐบาลเข้าไปตรวจสอบทันที จะมี แอนไททรัสต์หรือไม่ นี่คือบทบาทของรัฐบาลในการนำ เธอว่าเหมือนจะถามรัฐบาลนี้มีบ้างไหม ดีแต่ทั่น รมว.ไม่เถียงต่อ
ไม่งั้นอาจเผลอยกตัวอย่างคดีเหมืองทองอัครา โดนคิงส์เกตฟ้องเสียอาน ต้องไล่แจกใบอนุญาตสำรวจเพิ่มจ้าละหวั่น แหม่ กรณีนี้ถ้าต้องไล่แจก 5G ก็ดีสิ ประเทศจะได้พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล อย่างที่ประชาชนหวัง
