วันพุธ, ธันวาคม 15, 2564

ปาหี่อีกไหมนี่ มติ ครม. "รับทราบข้อเรียกร้องของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น"

ลงท้าย รัฐบาลยอมจำนนชาวบ้านจะนะ แต่อ๊ะ เดี๋ยวก่อน จำนนหรือใช้ ลูกไม้ หลอกลวงอย่างเคยกันแน่ ชาวบ้านความจำไม่สั้นเหมือนที่รัฐบาลต้องการให้เป็น ความลวงครั้งส่ง ธรรมนัสไปเจรจาแล้วทำ เอ็มโอยูเสนอ ครม.อนุมัตินั่นยังฝังใจ

ดูดีดี มติ ครม.๑๔ ธันวา ข้อ ๑. “รับทราบข้อเรียกร้องของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง” (เรื่องเมืองต้นแบบ ๔ อำเภอจะนะ) เสนอไว้ อันนี้หมายความว่าข้อเรียกร้องต้องผ่านการคัดกรองจากกรรมการตรวจสอบก่อน ใช่ไหม

๒.ให้สภาพัฒน์ฯ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง “ร่วมกันจัดให้มีการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA)” และให้หน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง “รอผลการประเมินสิ่งแวดล้อมฯ...ให้เป็นที่ยุติก่อนดำเนินการต่อไป”

ตรงนี้คือตอที่คาไว้ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องนั่นรวมถึง กพต. หรือคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีนายกฯ เป็นประธาน รองนายกฯ เป็นรองประธาน รัฐมนตรี ๑๗ คน หน่วยงานอื่นอีก ๑๑ คน ตัวแทนภาคประชาชนแค่ ๕ คน

ข้อสำคัญ มีเลขาธิการ ศอ.บต.เป็นเลขานุการนี้ด้วย “ทำหน้าที่ให้ความเห็นชอบยุทธศาสตร์การพัฒนา/แผนงาน/โครงสร้าง/งบประมาณ รวมทั้งเร่งรัด กำกับ ติดตาม” (ครบวงจร) แล้วนี่ไม่ใช่ให้คู่กรณีโดยตรง มากำกับดูแลการทำ SEA ละหรือ

เมื่อคืน (๑๔ ธันวา) “เครือข่าย #จะนะรักษ์ถิ่น ประกาศค้างคืนต่อ ระบุข้อตกลงด้วยวาจาเมื่อบ่าย ยังไม่เป็นที่ยอมรับ...ยืนยันว่าคณะกรรมการที่จะจัดทำ SEA ต้องไม่มี กพต.ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้ง” นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ขยายผลด้วยว่า

“นี่คือปาหี่ นี่คือการเมือง ไม่อาจหวังได้ ที่สำคัญประวิตร และ ศอ.บต. นั่นแหละคือคนชง คือตัวปัญหา แล้วยังเป็นคนกุมสภาพ กพต.ด้วย แล้วจะมาคุม SEA ใครจะรับได้...ประยุทธ์ไม่ไว้ใจแม้แต่สภาพัฒน์ กลัวผล SEA จะออกมาไม่เป็นไปอย่างตนเองอยากให้เป็น”

ประสิทธิชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายอันดามันกล่าวในระหว่างปราศรัยในที่ชุมนุมเมื่อวานว่า ไม่เชื่อมั่นในมติ ครม.ที่ออกมานี้แม้แต่นิด “เห็นว่าการชะลอนิคมจะนะเป็นการซื้อเวลา เพื่อที่รัฐจะยังมีปลายทางเดินหน้าต่อ” ชาวบ้านยังต้องเฝ้าระวังชั้นเชิงของรัฐบาลขั้นต่อไป

แม้นว่านายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกฯ จะรับปากว่า การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน (EIA) ของบริษัททีพีไอโพลีนเพาเวอร์ จำกัด (มหาชน ) ต้องยุติไว้ก่อน และเมื่อวานซืนผู้ช่วยรองผู้จัดการใหญ่ทีพีไอฯ นราดล ตันจารุพันธ์ มีท่าประนีประนอม

“บริษัทยินดีจะยุติโครงการ ไม่ใช่แค่ EIA-EHIA แต่ยกเลิกการดำเนินโครงการ ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย...พร้อมย้ำว่า ความคิดเห็นดังกล่าวนี้เป็นเสียงสะท้อนจากทางผู้ใหญ่ของบริษัท เช่น ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร”

ที่ไหนได้ ก่อนหน้านั้น (๑๒ ธันวา) ประชัย ออกมาซัลโวใส่ชาวบ้านจะนะที่ยกกันไปประท้วงหน้าทำเนียบ ว่าเป็น อันธพาล“ไม่ใช่วิถีของประชาธิปไตย แต่เป็นเรื่องของอนาธิปไตยหรืออันธพาลธิปไตย” มีเจตนาบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ

ประชัยอ้างว่าชาวบ้านไปยึดพื้นที่ซึ่งมีเจ้าของ ซึ่งก็คงหมายถึงบริเวณชายหาดธรรมชาติที่นายทุน (อย่างนายประชัย) เข้าไปกว้านซื้อจับจองไว้ ในแผนการสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่พวกเขาชงร่วมกับนักการเมือง อย่างเช่น นิพนธ์ บุญญามณี

อย่างนี้เท่ากับว่าคณะรัฐมนตรี ผ่านทางสำนักนายกฯ กำลังโกหกชาวบ้านจะนะอีกครั้ง ชาวบ้านจึงยังไม่เชื่อว่าการประเมินผลกระทบจะสะท้อนความจริงทางนิเวศวิทยา รอดูสิว่าผลออกมาจะรายงานว่าพื้นที่ปลูกอะไรไม่ได้นอกจากแตงโม ไหม

(https://www.facebook.com/igreenstory/posts/2997191507263409, https://greennews.agency/?p=26807PYo, https://news.thaipbs.or.th/content/310662?JCBA และ https://www.facebook.com/supathasuwannakit/posts/1111128056092654)