วันอังคาร, ธันวาคม 14, 2564
"จำกัดเส้นทาง-ใช้กำลังกีดขวาง" ปฏิบัติการเลวของตำรวจ ขวางขบวน "จะนะรักษ์ถิ่น" ชุมนุมทำเนียบรัฐบาล
iLaw
10h ·
"จำกัดเส้นทาง-ใช้กำลังกีดขวาง" ปฏิบัติการขวางขบวน "จะนะรักษ์ถิ่น" ชุมนุมทำเนียบรัฐบาล
ตำรวจเข้าสกัดกลุ่มชาวบ้าน "จะนะรักษ์ถิ่น" และเครือข่าย หลังประกาศเดินขบวนจากหน้าอาคารสหประชาชาติ (ประเทศไทย) ไปยังทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้มีการอ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อจำกัดเส้นทางการเดินขบวน รวมถึงมีการใช้กำลังขัดขวางไม่ให้ผู้ชุมนุมไปยังประตูหนึ่งข้างทำเนียบรัฐบาล จนสุดท้ายผู้ชุมนุมต้องปักหลักใกล้สะพานชมัยมรุเชษฐ์
+ตำรวจวางกำลังตำรวจและสิ่งกีดขวางรอบบริเวณทำเนียบรัฐบาล+
13 ธันวาคม 2564 กลุ่มชาวบ้าน "จะนะรักษ์ถิ่น" และเครือข่ายประกาศเดินขบวนเพื่อไปชุมนุมยังหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการตามข้อตกลงเมื่อปี 2563 ที่ให้ยุติโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะไว้ก่อน โดยเฉพาะการเปลี่ยนผังเมืองและการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการอุตสาหกรรมของบริษัทเอกชน และให้รัฐบาล จัดให้มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมในระดับยุทธศาสตร์ (SEA) ของโครงการ รวมถึงตรวจสอบความโปร่งใสในการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
โดยก่อนหน้าที่ประชาชนจะเดินขบวน มีรายงานข่าวว่า ในคืนวันที่ 12 ธันวาคม 2564 ตำรวจได้มีการปิดการจราจรใกล้ทำเนียบรัฐบาล ได้แก่ ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกสวนมิสกวันไปยังแยกพาณิชยการ และสะพานมัฆวานรังสรรค์และสะะพานคู่ขนาดทั้งสองเส้น และยังพบว่ามีการสกัดกั้น ..........
ต่อมาในวันที่ 13 ธันวาคม ตั้งเวลาประมาณ 09.00 น. มีรายงานข่าวว่า ตำรวจควบคุมฝูงชน และตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เข้าเสริมกำลังเข้ารักษาความปลอดภัยบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล และในเวลา 10.30 น. พบเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการวางกำลังอยู่บนสะพานมัฆวานฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ในขณะที่ผู้ชุมนุมมีการทำพิธีกรรมทางศาสนา บางส่วนมีการเก็บของใช้ และบางส่วนรวมถึงเครือข่ายมีการทำป้ายผ้าเพื่อใช้ในการเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล
ต่อมาในเวลา 12.45 น. มีรายงานว่า บริเวณแยกพาณิชการ (ก่อนถึงทำเนียบรัฐบาล) มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการปิดสะพานชมัยมรุเชญ ไม่ให้รถมุ่งหน้าไปยังทำเนียบ และบังคับเลี้ยวขวาไปทางถนนพระราม 5 นอกจากนี้ยังมีการนำแผงเหล็กกั้นที่ติดป้ายผ้าว่า "เขตห้ามเข้า 50 เมตรทำเนียบรัฐบาล" และ "แยกพาณิชการณ์ปิดการจราจร" มาตั้งไว้ โดยที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐมีการตั้งแผงเหล็ก 2 ชั้น มีเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนประมาณ 20 นาย ส่วนทางถนนพระรามห้ามุ่งหน้าไปยังสะพานอรทัย หรือ บริเวณฝั่งศาลกรมหลวงชุมพร พบว่ามีการตั้งตู้คอนเทนเนอร์ปิดถนนไว้
ต่อมาในเวลา 13.07 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนได้ทำการปิดถนนราชดำเนินนอกที่เป็นทางคู่ขนานสะพานมัฆวานฯ ทั้งขาเข้าและออก ต่อมาเวลา 13.30 น. ขณะที่ผู้ชุมนุมยังคงปักหลักอยู่ที่หน้าอาคารสหประชาชาติ (ประเทศไทย) มีประชาชนสวมหมวกสีเหลืองและผูกผ้าพันคอสีเหลืองมาชูป้ายประท้วงที่เขียนข้อความว่า "ใครทำร้ายคนไทย ผู้ใดทำลายขายชาติเกิด กรรมผู้ทำตามให้ผลผู้ทำชั่วกัป" จนทำให้เกิดปากเสียงกับผู้ชุมนุม จนทีมการ์ดต้องมาขอให้ผู้ชูป้ายประท้วงดังกล่าวออกจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะไปทำเนียบรัฐบาล
+ตำรวจ อ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามผู้ชุมนุมผ่านสะพานมัฆวานฯ+
ต่อมาเวลา 14.25 น. กลุ่มผู้ชุมนุม "จะนะรักษ์ถิ่น" และเครือข่ายอื่นๆ ที่มาสมทบได้มีการตั้งแถวขบวนเพื่อจะเดินทางไปทำเนียบ โดยมี ‘ไครียะห์ ระหมันยะ’ เป็นคนเดินนำอยู่หัวขบวน ตามาด้วยขบวนถือป้ายผ้า ต่อด้วยชาวบ้านจะนะและและนักศึกษาจากสมาพันธินิสิตนักศึกษายืนล้อมรอบ ต่อด้วยนถเครื่องเสียง และป้ายผ้ามากกว่า 5 แผ่น ทั้งนี้ ก่อนการเคลื่อนขบวนมีการทำข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่มีการใช้กำลังกับตำรวจหรือผู้ชุมนุมกลุ่มอื่นๆ และจะไม่มีการทำลายทรัพย์สิน รวมถึงให้ฟังเสียงจากรถเครื่องเสียงของขบวนเป็นหลัก
ต่อมาในเวลา 14.53 น. ขบวน ‘จะนะรักษ์ถิ่น’ เริ่มเคลื่อนไปทางสะพานมัฆวานฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสีกากียืนขวางอยู่พร้อมรถตำรวจ และด้านหลังมีแผงเหล็กกั้นพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนประจำการอยู่ หลังผู้ชุมนุมขยับเข้าไปใกล้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ได้ประกาศแจ้งกับขบวนผู้ชุมนุมว่า ได้มีการห้ามใช้เส้นทางคมนาคมบางเส้นทางโดยอาศัยอำนาศตาม พรก.ฉุกเฉินฯ และขอพี่น้องอย่าฝ่าแนวกั้นของตำรวจเพื่อเข้าทำเนียบรัฐบาล มิเช่นนั้นจะมีความผิดและขอให้ใช้เส้นทางที่เจ้าหน้าที่กำหนดให้เท่านั้น
ต่อมา สมบูรณ์ คำแหง หนึ่งในทีมเจรจาได้พูดคุยกับตำรวจเพื่อขอให้เปิดเส้นทาง เพื่อให้ประชาชนได้ไปแสดงเจตนารมณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งแจ้งกับตำรวจว่า การเปิดเส้นทางจะเป็นการแสดงออกว่ารัฐพร้อมจะรับฟังปัญหา ต่อมาในเวลา 15.09 น. รถเครื่องของขบวนผู้ชุมนุมประกาศให้พี่น้องจะนะนั่งลงบนสัพานมัฆวานฯ ติดกับแนวกั้นของตำรวจ เพื่อรอจนกว่าจะประกาศให้ประชาชนผ่านเข้าไป โดยมีกลุ่มนิสิตนักศึกษามีการจับมือกันกันแนวสื่อจากพี่น้องจะนะ
ต่อมาเวลา 15.19 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าพูดคุยกับแกนนำ หลังจากนั้น ในเวลา 15.23 น. สมบูรณ์ คำแหง ได้ประกาศกับผู้ชุมนุมว่า เพื่อให้งานใหญ่สำเร็จ ประตู 1 คือเป้าหมายของเรา ถ้าเราปะทะกับเจ้าหน้าที่วันนี้ก็จะไปไม่ถึงทำเนียบฯ เราถอยหลัง แต่ไม่ใช่การถอยแต่เป็นการเดินไปข้างหน้า ถ้าข้างหน้ามีด่าน เราจะไม่ยอมอีกแล้ว หลังจากนั้นจึงมีการเปลี่ยนเส้นทาง โดยจะใช้เส้นทางถนนกรุงเกษมผ่านไปยังทางแยกนางเลิ้งและมุ่งหน้าไปยังสะพานชมัยมรุเชษฐ์ เพราะถนนเส้นอื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการปิดไว้หมดแล้ว
ต่อมาในเวลา 15.56 น. หัวขบวนผู้ชุมนุม “จะนะรักษ์ถิ่น” และเครือข่าย ได้เลี้ยวซ้ายจากแยกนางเลิ้งมุ่งหน้าสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อไปยังทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ มีการจัดขบวนให้หัวขบวนหยุดอยู่ที่สะพานลอยโรงเรียนราชวินิตก่อน ในขณะที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์มีกองกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนตั้งแถวกันอยู่อย่างหนาแน่น โดยแถวหลังมีการติดอุปกรณ์ป้องกันในการสลายการชุมนุม อาทิ หมวกและโล่
+ตำรวจใช้โล่ดันกระแทกผู้ชุมนุมที่ต้องการรื้อแผงเหล็กกั้นที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์+
ในเวลาประมาณ 16.01 น. ผู้ชุมนุม “จะนะรักษ์ถิ่น” ตั้งแถวอยู่หน้า ร.ร.ราชวินิต ด้าน รุ่งเรือง ระหมันยะ มีการปราศรัยถึงธรรมชาติอันสวยงามของจะนะ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมมหาศาล พร้อมเชิญชวนคนกรุงเทพไปเที่ยวชม หากภารกิจปกป้องจะนะประสบความสำเร็จ ในขณะที่ฝั่งตำรวจ ได้นำแผงเหล็กกั้นมาตั้งซ้อนกันสามชั้นเพื่อรักษาระยะระหว่างผู้ชุมนุมกับแนวกองกำลังของตำรวจในชุดสีกากีที่ถือโล่ใสอยู่
ต่อมาในเวลา 16.24 น. ผู้ชุมนุม “จะนะรักษ์ถิ่น” เริ่มเคลื่อนขบวนจาก ร.ร.ราชวินิต มาที่แยกพาณิชยการ โดยทีมงานประกาศให้สื่ออยู่ซ้ายขวาและให้พี่น้องจะนะเข้าถึงแนวตำรวจได้ หลังจากผู้ชุมนุมเดินมาถึงสะพานชมัยมรุเชฐ โดยมีการเลื่อนแผ่นแผงเหล็กและแบริเออร์ออกหนึ่งชั้น เหลือแค่เพียงเหล็กสองชั้นก่อนถึงแนวตำรวจ โดยผู้ชุมนุมประกาศว่าจะกลับไปตั้งหมู่บ้านจะนะรักษ์ถิ่นที่ประตูหนึ่งเช่นเดิมและขอให้เจ้าหน้าที่เปิดทางให้เราเข้าไป
ต่อมาในเวลา 16.41 น. ผู้ชุมนุมประกาศให้เดินหน้าผ่านแนวแผงเหล็กไปยังทำเนียบ หลังจากนั้น เจ้าหน้าตำรวจได้ยกโล่ขึ้นและกระแทกโล่ใส่แนวสื่อและมวลชนที่พยายามยื้อแผงเหล็ก และผู้ชุมนุมได้ผลักและดึงโล่ตำรวจ และบางส่วนมีการปาขวดพลาสติกไปยังแนวตำรวจ ทั้งนี้ ตัวแทนของเครือข่ายจะนะได้ประกาศให้พี่น้องจะนะนั่งลง และมีทีมการ์ดอีกกลุ่มเข้ามาคล้องแขนกันเพื่อรักษาระยะระหว่างเจ้าหน้าที่และมวลชนที่พยายามรื้อแผงเหล็ก จากนั้นสถานการณ์สงบลง
ต่อมา ในเวลา 17.16 น. สมบูรณ์ คำแหง อ่านแถลงการณ์ ระบุว่า ข้อตกลงเมื่อปี 63 คือ ให้ตรวจสอบ ศอ.บต. และให้มีการทำ SEA ก่อน โดยให้ยุติโครงการไว้ พร้อมระบุว่า ข้อเรียกร้องปีที่แล้ว รัฐบาลยังทำไม่ครบ ถ้าไม่มีมติครม. ออกมา เราจะยังไม่กลับ และยึดสะพานชมัยมรุเชษฐ์เป็นหมู่บ้านลูกทะเลจะนะ