หมอคนนี้พูดเหมือนจะอวยให้เหลิง “เห็นใจนายกรัฐมนตรีที่ต้องนั่งหัวโต๊ะตัดสินใจนโยบายโควิด-๑๙ บนผลประโยชน์ของการเมืองเฉพาะกลุ่ม” นี่จากโพสต์ของ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจฯ แพทย์ศาสตร์มหิดล
อ้างว่า “ด้วยการต้องพะวงการควบคุมกลุ่มย่อยในฝ่ายการเมืองที่คอยหนุนหลัง ที่อาจเล็งเห็นผลประโยชน์เฉพาะตนเฉพาะกลุ่มมากกว่าเป้าประสงค์ขององค์กร ทำให้การตัดสินใจเชิงนโยบายใดๆ อาจไม่เป็นดังใจหวัง” คุณหมอก็ช่างโลกสวยเสียจริง
คงไม่รู้ว่าไอ้ที่บอกถึงเรื่อง ‘การเมืองเฉพาะกลุ่ม’ แทนที่จะเอาผลประโยชน์ของประชาชนทั้งมวลเป็นที่ตั้ง จึงเป็นการบริหารจัดการงานของประเทศ อย่างไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่ง แล้วยังขาดจิตสำนึกในหน้าที่ และสิ้นไร้คุณธรรม
มันเท่ากับกลายเป็นประจานความชั่วช้าของหัวหน้ารัฐบาลชุดนี้ แบบหวังดีแต่ประสงค์ร้ายไปเสียฉิบ เข้าตำรับเดียวกับ จิตภัสร์ กฤดากร สาวสวยลูกเจ้าสัวขวัญใจ กปปส. ที่มีผลประโยชน์ทางชาติเชื้อศักดินา เป็นซุ้มคุ้มเศียร
ถึงคราใกล้มิคสัญญีโควิด ที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ-รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะ กมธ.กิจการตำรวจ สภาผู้แทนฯ จักต้องออกมาแสวงรังสีบ้าง ‘ตั๊น’ “ลงพื้นที่มอบถุง ‘เติมพลังใจ สู้ภัยโควิด-๑๙’ โดยมูลนิธิเสนีย์ ปราโมช เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ข้าราชการตำรวจ”
แล้วก็คว้าโอกาสแจ้งเกิดทางการเมืองใหม่ ด้วยคำคมแห่งยุคสมัย ที่ประชาชนออกมา #ไล่ประยุทธ์ กันเกือบครึ่งประเทศ ว่า “แทนที่รัฐบาลจะสร้างความมั่นใจจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ แต่กลับมาออกข้อกำหนด ฉบับ ๒๙ ที่น่าจะเข้าข่ายจำกัดเสรีภาพเกินกว่าเหตุ”
กระทั่งถึงวันนี้ รัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ขาดน้ำยา (วัคซีน) ของคนสกุลจันทร์อะไรนะ ก็ยังดึงดันด้านได้ต่อไปไม่แยแสใดๆ ไม่เฉพาะสำคัญตนว่ามีแบ็คใหญ่ แล้วยังมีลิ่วล้อบริวาร กมลสันดานอย่างเดียวกัน เป็นข้ารับใช้อยู่เยอะ
ไม่ว่าจะเป็นเหล่าเวชบริกร หรือ ‘นักร้อง’ บริการ ล้วนช่วยกันทำให้รัฐบาลกำพืดรัฐประหารชุดนี้ เป็นที่ชิงชังของประชากรซึ่งได้รับความเดือดร้อน จากโรคร้ายและความวิบัติขัดสนในการทำมาหากิน ขยายวงกว้างยิ่งขึ้นทุกวี่วัน ดังมีการจัดขบวนประท้วงไปทั่ว
นอกจาก ‘คาร์ม็อบ’ วันนี้พร้อมหน้าไม่ต่ำกว่า ๓๐ จังหวัดแล้ว ในกรุงเทพฯ ยังเกลื่อนไปอย่างน้อยสี่จุด ชุดของ บก.ลายจุด นัดในพื้นที่ถนนวิภาวดีรังสิต กลุ่ม ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รวมตัวกันแยกราชประสงค์ก่อนเคลื่อนไปผสมโรงที่ย่านวิภาวดีฯ
ด้านแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ซึ่ง พริษฐ์ ชีวารักษ์ ปักหลักขับวนกันแถวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนกลุ่ม ‘แท็กซี่ไม่ทน’ นัดเจอกันตรงปั๊ม ปตท.แถบเลียบด่วนรามอินทรา แล้วจะพากันไปแสดงภราดรภาพกับพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนไปส่งเสียงหน้าทำเนียบฯ
มิใยในรัฐสภา ไม่เพียง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ไล่เบี้ยหนักอีกระลอก “อยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่าท่านจะทำอย่างไรจึงจะหยุดการตายของประชาชนวันละ ๑๐๐ กว่าคนได้ ตอนนี้มีทั้งคนรอตรวจ รอเตียง รอตังค์ และรอตาย”
สถิติใหม่ ช่วยกันตะโกนทะลวงหู ‘ตู่’ กันสักหน่อย ติดเพิ่มยังไม่หนี ๑๘,๐๒๗ ตายเพิ่ม ๑๓๓ และอาการหนักสะสมรวมทั้งเดือนกรกฎา ๔,๖๙๑ “ยอดผู้เสียชีวิต ๑ เดือนที่ผ่านมา ๒,๘๓๔ ราย” แล้วเตรียมนับต่อไปได้เรื่อยๆ จะมีใหม่ๆ มาสมทบรายวัน
กระทั่งวานนี้-วันนี้ ยังเห็นมีภาพผู้ป่วยติดเชื้อล้มตายกลางตลาดสด หน้าสถานีตำรวจ และในร้านรวงขนาดใหญ่ย่านสัญจรปกติ กันอยู่ไม่หยุด แต่ดูเหมือนเวชบริกร ก็ยัง ‘ทองไม่รู้ร้อน’ จึงโดนประชากรที่อัดอั้น ออกมาคอลเอ๊าท์
โดยเฉพาะพวกนักศึกษาแพทย์ชั้นปลายๆ เทอม ออกแถลงการณ์เฉพาะกิจถึง พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์ กิจ (กับ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา) “พวกเราหมดศรัทธา...คุณเห็นตำแหน่งและเงินตรา สำคัญกว่าชีวิตของลูกศิษย์...” ด้วยการทดลองสูตร ‘หิวแสง’
แพทย์จะเป็นคุณหญิงคนนี้ เป็นส่วนสำคัญหนึ่งในการประกาศสูตร “Sinovac สองเข็ม” แล้วไปบู๊สด้วย ไฟเซอร์ ๑ เข็ม “ของไทยก็ทำไปเพื่อให้คนตัดสินใจเลือก Sinovac อย่างกุลกัญญาและคณะเชื่อว่าที่ตนตัดสินใจเลือกถูกที่สุด บางทีเป็นเรื่องอีโก้มากกว่า”
Chatechenko Yingkiattikun บอก “ในความเป็นจริงทั่วโลกเขาเชียร์ไวรัลเวกเตอร์แบบ AstraZeneca + mRNA มากกว่าเช่นเกาหลี แคนาดา อิตาลี แต่ของไทยก็ทำไปเพื่อให้คนตัดสินใจเลือก Sinovac” วัคซีนเจ้าสัว จะได้สั่งแล้วสั่งอีกหลายรอบ
“ถ้ายอมให้คนอื่นมามิกซ์กับไฟเซอร์แล้วใช้ได้ดี ก็คงเหมือนที่เอกสารการประชุมกรมควบคุมโรคออกมาว่า #แล้วจะแก้ตัวยากมากขึ้น” จนคนชี้หน้าด่าประจานว่าเป็นบริวารเจ้าสัว คอยแต่ปกปิดความจริงเรื่องวัคซีนจีน ทั้ง ‘แพงและห่วย’
(https://mgronline.com/politics/detail/9640000074524, https://www.thansettakij.com/general-news/489934 และ https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1999306943569269&id=100004699487419)