วันอาทิตย์, สิงหาคม 15, 2564

ทุกคำพูดมีผลที่ตามมา ทุกความเงียบก็เช่นกัน - ชวนอ่านโพสต์ของ ภัควดี วีระภาสพงษ์



Nida Nita
ทุกคำพูดมีผลที่ตามมา ทุกความเงียบก็เช่นกัน
(ถึงเวลาควรพูดดันเงียบ)
...
ภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์

ภัควดี วีระภาสพงษ์
13h ·

ติ่งตกยุคของทักษิณและพรรคเพื่อไทยกำลังเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาและสร้างพรรคเพื่อไทยให้เป็นสถาบันที่มีอนาคต
หลายคนพูดเรื่องการรีแบรนด์ทักษิณเป็นโทนี่ รวมถึงการปรับบุคลิกภาพให้ดูนุ่มนวลขึ้น เราว่ามีจังหวะก้าวหลายอย่างของทักษิณกับทีมกมันสมองที่น่าสนใจ ทุกคนคงจำได้ว่าตอนทักษิณในนามโทนี่มาคลับเฮาส์ใหม่ๆ เขาถูกคนรุ่นใหม่ถามเรื่องกรือเซะตากใบ แล้วทักษิณตอบว่าทำนองว่าจำรายละเอียดไม่ได้ หลังจากนั้นทักษิณกับทีมมันสมองก็พอรู้ตัวว่าตอบแบบนั้นมัน "บ้ง" หลังจากนั้นกลุ่ม CARE ก็จัดพูดคุยโดยการเชิญพี่นักข่าวอาวุโสที่มีจุดยืนค่อนข้างกลางๆ ในเรื่องภาคใต้ (ไม่อวยและไม่กล่าวโทษทักษิณเกินไป) มาพูดคุยด้วยเพื่อทำความเข้าใจความเป็นมาของปัญหา จชต. ไม่นานหลังจากนั้น ทักษิณก็ออกมาขอโทษเรื่องนี้ตรงๆ ในคลับเฮาส์
เราคิดว่านี่เป็นแนวทางที่ฉลาดและถูกต้อง การรีแบรนด์ทักษิณนี้ เห็นชัดว่าเพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ พรรคเพื่อไทยแม้จะยิ่งใหญ่ แต่ก็ต้องปรับตัวเพื่อการเป็นสถาบันทางการเมืองของคนทุกรุ่น แฟนคลับเดนตายของพรรคก็แก่ตัวลงทุกวัน ถ้าเพื่อไทยยังทำตัวแบบเดิมๆ คนรุ่นใหม่หนีหายไปเลือกพรรคอื่นหมด เพื่อไทยเองจะมีปัญหาในอนาคต
กับคนรุ่นใหม่ คุณจะคาดหวังว่าถ้าห้ามทุกคนพูดคำว่า กรือเซะ ตากใบ สงครามยาเสพย์ติด การสลายการประท้วงที่จะนะ เจริญ วัดอักษร สมชาย นีละไพจิตร ฯลฯ คนรุ่นใหม่ก็คงไม่มีใครขุดเรื่องนี้ขึ้นมา นี่มันเป็นวิธีคิดแบบคนตกยุค มันเป็นไปไม่ได้ เด็กรุ่นนี้เขาโตมากับสังคมข้อมูลข่าวสาร ยิ่งคุณห้าม เขาก็จะยิ่งขุด แต่ถ้าคุณยกเรื่องพวกนี้ขึ้นมาคุยเปิดเผยบนโต๊ะดีๆ เขาจะทำความเข้าใจกับมันและตัดสินใจเอง
ติ่งตกยุคที่ยอมรับไม่ได้ว่า คนที่ตนรักมีข้อบกพร่องมีความด่างพร้อย นี่ก็เป็นวิธีคิดที่ตกทอดมาจากซากเดนศักดินา การพูดถึงทักษิณแบบเป็นเทพผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง การซาบซึ้งบุญคุณในโครงการต่างๆ ที่ทักษิณทำให้ มันไม่ต่างจากสลิ่มรักเจ้าเลย ถ้าคุณคิดว่าจะเอาความเชื่อความงมงายแบบนี้ไปยัดลงในหัวคนรุ่นใหม่ให้ได้ คุณจะพบการต่อต้านที่รุนแรง
คนรุ่นใหม่เขาไม่เหมือนพวกติ่งตกยุค เขาเกิดมาในยุคที่เชื่อเรื่องสิทธิ เรื่องคนเท่ากัน ไม่เชื่อเรื่องเทวดาที่ไหนอีก เลี่ยนกับการโฆษณาชวนเชื่อ พวกติ่งตกยุคอาจกลัวว่าถ้าคนรุ่นใหม่รู้ว่าทักษิณมีอดีตด่างพร้อย แล้วจะไม่รักไม่ชอบทักษิณ นี่เป็นความคิดบ้องตื้นมาก คุณอย่าลืมว่าคนรุ่นใหม่ที่สนใจการเมืองจำนวนไม่น้อยมาจากครอบครัวที่พ่อแม่เป็นสลิ่ม พวกเขาผ่านประสบการณ์ความขัดแย้งกับคนในครอบครัว เห็นความตรรกะวิบัติความบ้าบอของพ่อแม่มาเยอะ ถามว่าพวกเขายังรักพ่อแม่ไหม แน่นอน ส่วนใหญ่ก็ยังรักอยู่ แต่เขาเข้าใจการรักที่มองเห็นข้อบกพร่องของคนที่เขารัก สิ่งที่พวกเขาจะไม่เข้าใจเลยก็คือ การรักแบบงมงายเชิดชูจนมองไม่เห็นข้อเท็จจริง หรือความรักแบบสลิ่มนั่นแหละ
ถ้าเอาความผิดพลาดของทักษิณมาคุยอย่างเปิดเผย รวมทั้งทักษิณและพรรคเพื่อไทยยอมรับในความผิดพลาดที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นผลงานที่ยังทรงคุณค่าในปัจจุบัน (หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การปฏิรูประบบราชการสำเร็จบางส่วน ฯลฯ) เราคิดว่าคนรุ่นใหม่เข้าใจได้ เผลอๆ ผลที่ได้อาจกลายเป็นผลบวกอย่างนึกไม่ถึง อย่าลืมว่าในทางจิตวิทยานั้น คนรุ่นใหม่ที่พ่อแม่เป็นสลิ่มย่อมอยากให้พ่อแม่ตาสว่าง คนรุ่นใหม่จะรักและนับถือผู้ใหญ่ที่ยอมรับผิดและปรับตัว ถ้าทักษิณสามารถปรับตัวจนทำให้คนหนุ่มสาวเห็นว่า เขาเป็นคนเก่ง ฉลาด ยอมรับความผิดพลาด มีความสามารถ ใจถึง พึ่งได้ สายเปย์ นี่คือภาพของพ่อ (แม่) ในอุดมคติของเด็กวัยรุ่น ไม่แน่หรอกว่า ฟ้าอาจจะเทไปรักพ่อ (literally) โทนี่ในแบบที่ลืมธนาธรไปเลย
ไอ้ความผิดพลาดของทักษิณในอดีต มันยังพอมีวิธีอธิบายให้ความผิดเบาลงได้เยอะ อาทิ กรณีสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทักษิณสามารถอ้างได้ว่าตัวเองก็เป็นเหยื่อของสังคมลัทธิทหารเช่นเดียวกับคนรุ่นนั้น สังคมไทยสมัยนั้นก็เป็นกันเกือบทั้งหมดแหละ อคติต่ออิสลาม การปล่อยให้ลัทธิทหารนำการเมือง แนวคิดเน้นความมั่นคงแบบล้นเกิน การปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจ ฯลฯ ทักษิณและเพื่อไทยสามารถชดเชยความผิดพลาดในอดีตได้ด้วยการเสนอการปฏิรูปกองทัพ การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นจัดการตัวเองมากขึ้น (อ้างได้ด้วยว่าทักษิณเริ่มทำเรื่องนี้ในสมัยตนไปบ้างแล้ว) จะว่าไป คน จชต. เท่าที่เราเคยสัมผัสมา เขาไม่ค่อยเกลียดทักษิณเท่าไรนะ เกลียดกองทัพมากกว่า ติ่งตกยุครู้บ้างหรือเปล่า
เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอดีต ก็สามารถอธิบายได้ว่ายุคสมัยนั้นต่างจากสมัยนี้ ในตอนนั้น แนวคิดเรื่องสิทธิยังไม่ปักหลักลงรากฐานในความคิดคนทั่วไปเท่าไร สิ่งที่คนส่วนใหญ่ในสมัยนั้นคิดคือการพัฒนาเศรษฐกิจ ทักษิณเร่งรีบปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยให้พ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง จนบางครั้งละเลยเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่ต่อไปเขากับพรรคจะปรับตัวเรียนรู้เรื่องสิทธิให้มากขึ้น ทั้งสิทธิของปัจเจกบุคคล สิทธิของคนท้องถิ่น สิทธิของชนกลุ่มน้อย สิทธิของคนชายขอบ ฯลฯ พร้อมกันนั้นก็รับอาสายกระดับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจลดความเหลื่อมล้ำต่างๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อสิทธิมนุษยชนในระยะยาวมากขึ้น ฯลฯ
เราว่าทักษิณกับทีมมันสมองก็คงคิดถึงการปรับตัวแบบนี้แหละ แต่ตอนนี้สิ่งที่ติดขัดกลับกลายเป็นติ่งตกยุคเดนตายของตัวเองที่ยังพยายามสร้างภาพทักษิณเป็นเทวดา ถ้าติ่งตกยุคยังทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ อีกหน่อยก็คงลากทักษิณกับพรรคเพื่อไทยลงหลุมไปพร้อมกับตัวเอง เปรียบอีกอย่างก็คือ ทักษิณพยายามเป็นสายน้ำที่ไหลเข้าสู่ภูมิทัศน์ทางการเมืองใหม่ๆ แต่ติ่งตกยุคกลับทำตัวเป็นสวะขวางลำน้ำไว้ด้วยความหวังดี
ทักษิณกับทีมมันสมองก็คงอยากสะกิดเตือนพวกติ่งตกยุคเหมือนกัน แต่น้ำท่วมปาก เพราะติ่งตกยุคก็เป็นฐานเสียงที่แข็งแรงของตน บางคนก็เป็นเซเลบ บางคนก็เป็นแม่ยกพ่อยกใหญ่ สะกิดผิดท่าขึ้นมาอาจเป็นปัญหาเสียฐานเสียงเก่าไปอีก เราในฐานะคนนอกเลยช่วยสะกิดแทนให้

Jom Petchpradab
การที่ทักษิณออกมาเตือนว่า "อย่ากัดกันเอง" ผมก็ยังคิดว่า ปัญหานี้ย่อมไม่ได้เกิดเพราะ "ติ่งตกยุค" แต่เพียงเท่านั้น แต่"สนิมย่อมเกิดจากเนื้อในตน"
...
Karnt Thassanaphak
10h ·
ขอบคุณพี่ภัควดี (ที่ยอมเสี่ยงตาย 555) และไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไรกับ "#ทักษิณ" จะรักหรือเกลียด ผมก็อยากขอร้องให้อ่านจนจบครับ
เอาจริง ผมก็คิดแบบนี้ ว่าทั้งคุณทักษิณและ พท. ได้พยายามปรับตัว แก้ไขข้อผิดพลาด (การยอมรับผิดและกล่าวคำ "ขอโทษ" เรื่อง #กรือเซะ / #ตากใบของ "ทักษิณ" สำหรับผมเป็นหมุดหมายที่สำคัญมากๆ ในฐานะคนที่ไม่ใช่ fc ผมรู้สึกชื่นชมก้าวนี้ของเขา) และลดข้อจำกัดของตัวเองลง
ถึงแม้ผมจะไม่ใช่ fc ทักษิณ แต่ผมไม่มีปัญหาอันใดที่ใครจะรัก/ชอบเขา
ผมเพียงมีปัญหากับการ "พูดไม่รู้เรื่อง" อันมาจากการบูชาตัวบุคคล/องค์กร/สถาบัน จนยอมรับ "ข้อผิดพลาด" ไม่ได้ ทั้งที่การยอมรับและแก้ไขนั้น "สง่างาม" กว่า และส่งผลดีมากกว่า
และผมคงไม่จำเป็นต้องเอ่ยซ้ำ ว่าการบูชาตัวบุคคล/องค์กร/สถาบัน นั้นเป็นอุปสรรคทั้งต่อการเติบโตทางคุณภาพของสังคม และต่อการไปถึง "ประชาธิปไตย" ในความหมายที่เป็นสากล
มากมายเพียงใด


Khemthong Tonsakulrungruang 
19h ·

ความผิดพลาดใหญ่ของการรัฐประหาร 2549 คือทำให้คุณทักษิณตกกระไดพลอยโจนเป็นหัวหน้าฝ่ายประชาธิปไตยขึ้นมาเลยทีเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านี้เองคุณทักษิณก็มีปัญหากับประชาธิปไตยไม่น้อย แต่รัฐประหารเป็นการกระทำที่นอกกติกา อย่างไรเสีย คุณทักษิณมาถูกกติกา ย่อมมีความชอบธรรมดีกว่า แต่ถ้าไม่มีรัฐประหาร เส้นประวัติศาสตร์จะเดินไปอีกทางเลย และก็ไม่น่าจะเป็นประชาธิปไตยด้วยเช่นกัน หลายคนที่ต้านรัฐประหารในวันนี้ก็ต้านคุณทักษิณมาก่อนเช่นกัน
แม้แต่คนที่เคยทำงานร่วมกับคุณทักษิณก็ยอมรับว่าในยุค ทักษิณ 2 นั้น ทักษิณเปลี่ยนไปพอสมควร ซึ่งการตัดสินใจหลายๆอย่างนำจุดจบมาสู่ตัวเอง ส่วนตัวเห็นว่า อุปสรรคหลายปีที่ผ่านมาทำให้คุณทักษิณเรียนรู้อะไรขึ้นอีกเยอะ ความสุขุมนุ่มนวลที่เพิ่มขึ้นทำให้หลายคนนึกว่าคุณทักษิณเป็นอย่างนั้นตลอด ซึ่งไม่ใช่ จะชั่วจะดีก็ประเมินกันไปตามจริง
ถ้าอยากประเมินรัฐบาลทักษิณ อาจต้องลองอ่านบทความนี้ดู ซึ่งประเมินมรดกของคุณทักษิณในการเมืองไทย ทั้งระบบพรรคการเมือง ประชาสังคม ธุรกิจ และชนชั้นนำเก่า ทั้งบวกและลบ คุณทักษิณนั้นมีความดีมากกว่าที่ศัตรูเห็นแน่ๆ แต่ก็มีข้อบกพร่องมากกว่าที่มวลชนคนรักอยากจะยอมรับเหมือนกัน

Pipob Udomittipong
14h ·

"ถ้าเอาความผิดพลาดของทักษิณมาคุยอย่างเปิดเผย รวมทั้งทักษิณและพรรคเพื่อไทยยอมรับในความผิดพลาดที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นผลงานที่ยังทรงคุณค่าในปัจจุบัน (หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การปฏิรูประบบราชการสำเร็จบางส่วน ฯลฯ) เราคิดว่าคนรุ่นใหม่เข้าใจได้"
พวก #ติ่งเพื่อไทย ที่เคารพทักษิณราวกับพระเจ้าควรฟังครับ คนรุ่นใหม่แหลมคม critical เขาไม่งมงายกับไอโดลเหมือนคนรุ่นก่อน