งานนี้ประมาณว่าน้องไม่ควรติพี่นะ ถึงพี่จะทำอะไรล่อแหลมต่อการสืบทอดอำนาจพวกถนัดรัฐประหาร ก็ทำด้วยเจตนาดีต่อประชาชน ส่วนใครกลัวว่าจะเตะหมาเข้าปากหมู ยังไม่รู้ผลอย่าเพิ่งโวยวายสิ ทุกอย่างกำลังไปด้วยดี ปูทางพี่โทนี่กลับไทย
วิวาทะระหว่างสองแกนหลักพรรคฝ่ายค้าน ยังไม่ถึงขั้นทำให้กระบวนการไล่เผด็จการหวั่นไหว เพียงแต่พี่เขาว่าถ้าน้องยังจู้จี้ สะกิดโน่น เหน็บนี่ แล้วจะแลนด์สไล้ด์ไปด้วยกันได้ไง ประมาณว่าถ้าน้องขืนดื้อรั้น พี่อาจไปแลนด์สไล้ด์กับคนอื่นได้น้า
กรณีกรรมาธิการงบประมาณ ตัด ๑๖,๐๐๐ ล้านให้ประยุทธ์ใช้ ภายใต้ ‘งบกลาง’ อย่างอำเภอใจ อ้างว่ามีข้อจำกัดอยู่แล้วในนั้น ให้ใช้เฉพาะโควิดอย่างเดียว ก็แสดงว่าเชื่อใจพวกที่เคยแย่งอำนาจไปจากพี่ ทั้งที่ผ่านมา ๗ ปี ไม่มีใครเห็นว่าเขาทำตามสัญญา
แม้แต่ข้อผูกมัดต่างๆ เขายังแก้ปมเงื่อน เปลี่ยนข้อจำกัดให้เป็นประโยชน์ได้ ต้องเชื่อมือเขาละ ไม่งั้นไม่ควบอยู่นานมาจะสองสมัย แต่หากจะว่า “พวกเขาอดอยากปากแห้งกันมานานแล้ว ท่อน้ำเลี้ยงกระปิดกระปรอย” ดังที่ด้านฮ้าร์ดคอร์ พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ ว่า
“ส่วนที่ไป ‘ฝากเลี้ยง’ ไว้ก็ไม่พอ ผลงานในท้องถิ่นแทบไม่มี เลยไปฮั้วขอส่วนแบ่งด้วย แค่นั้นเอง” อาจเป็นไปได้ แต่คงไม่เป็น “ถ้าไม่มีตัวดีตัวไหนคอยโวยวายให้เห็นว่าเขาทำกันอย่างนั้นจริง” พรรคเพื่อไทยออกโรงชี้แจง
ไม่ได้ตีเช็คเปล่าให้ประยุทธ เพียงเห็นว่าความเป็นความตายจากโควิดสำคัญกว่า และเชื่อว่าสามารถควบคุมการใช้จ่ายในวงนี้ของประยุทธ์ได้ โดยให้ ไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู ประธานคณะกรรมาธิการบริหาญงบประมาณ ตรวจสอบอย่างเข้มข้น
สื่อโซเชียลพรรคเพื่อไทยจึงได้ซัดกลับเพื่อนรุ่นน้องทางการเมืองอย่างแรง “การไม่พูดข้อเท็จจริงให้รอบด้าน การพูดในที่ประชุมอย่างหนึ่งแล้วสื่อสารในโซเชียลมีเดียอีกอย่างหนึ่ง เป็นการสร้างความสับสนและความเข้าใจผิด”
พวกเขามั่นใจขนาดยุทธพงศ์ จรัสเสถียร หนึ่งในจำนวนผู้สับสนุนให้ผลักหมูเข้าปากห มา สัญญาต่อปวงชนว่า “ถ้างบ ๑๖,๐๐๐ ล้าน เอาไปใช้ซื้อกระสุนหรือซื้ออะไรที่เอาไว้ปราบม็อบ เค้าจะยอมลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. (ไอซ์ @nanaicez)
แต่ ส.ส.‘โจ้’ อธิบายไม่กระจ่างทาง #ClubhouseTH อะนะ “แกตอบไม่ตรงคำถาม ปชช.ฟังแล้วไม่เข้าใจวิธีการนำเงินไปใช้ เงินจะไปถึง ปชช.แบบไหน” Ntp_Bp@H_Ntp1992 บ่นด้วยใจห่วง “ถ้า รบ.ไม่ใช้ตามอย่างว่าจะทำยังไง”
ทำให้ ประสิทธิ์ คณะราษฎร์ดวง@Prasitism วิจัยท่าทีว่า “พรรคเพื่อไทยเดิมพันสูงมากกับการตัดสินใจเช่นนี้” โดยเฉาะจากคำที่ว่า “อย่าเอาการเมืองมาใช้ จนเป็นอุปสรรคขัดขวางความพยายามช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา ให้ประชาชน”
‘การเมือง’ ที่ว่า หมายถึงการรุกเร้าโจมตีรัฐบาลซึ่งสืบเนื่องมาจากการยึดอำนาจแล้วครองเมืองในสภาพถดถอย ทั้งทางเศรษฐกิจและความยุติธรรมในสังคม ตลอด ๗ ปี แล้วยิ่งหนักหนาสากรรจ์ในปีนี้ โดยไม่มีทีท่าจะมีความสามารถแก้ไขอะไรได้ นั่นหรือ
เพื่อไทยบอก “พรรคมีความอดทนอดกลั้นมาตลอดในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน” “เอาดีใส่ตัว อ้าวเฮ้ย ใคร (วะ) แตะต้องไม่ได้เลย” ขอนำคำของ Atukkit Sawangsuk มาใช้หน่อย ที่ว่าอดทนอดกลั้นอะไร “พรรคก้าวไกลควรจะอดทนอดกลั้นต่อพรรคเพื่อไทย?” (ถึงจะถูก)
แล้วลองดูที่พวก ส.ส.ก้าวไกลตอบ ประเด็น “ตอนนี้เป็นสถานการณ์โควิด จำเป็นต้องเพิ่มเงินเข้า #งบกลาง” สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ บอก “รัฐบาลเพิ่งออก พรก.กู้เงินสองฉบับ...เงินไม่ใช่ปัญหา แต่รัฐบาลไม่มีปัญญา” มากกว่า
ด้าน ศิริกัญญา ตันสกุล ชี้ว่าที่ผ่านมาเคยมีประวัติ “เราเจอเอกสารแค่ ๘ หน้า สำหรับงบฯ ๑๗,๐๐๐ ล้าน เขียนโครงการอย่างคลุมเครือ” โดยไม่บอกว่าเอาเงินไปทำอะไรบ้าง แล้วอ้างว่า “ใช้ #งบกลาง เร็วดี ถึงมือประชาชนทันการณ์กว่าเอาไปให้หน่วยงานอื่นๆ”
อันนั้น วาโย อัศวรุ่งเรือง แจงถึงความสมเหตุสมผลในการคืนงบฯ ที่ตัดออกมาลงไปที่หน่วยงานตรง แทนที่จะเอาทั้งหมดลงงบกลาง แน่ๆ เช่นเอางบฯ ที่ตัดส่งตรงลงไป ที่โครงการบัตรทองและประกันสังคม จะเชื่อใจได้มากกว่า
เมื่อเห็นแล้วว่าประยุทธ์บริหารเงินกู้ ๑ ล้านล้านกับ ๕ แสนไม่ได้ผล ดัง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่า “งบกลางเป็นงบใช้ก่อนตรวจสอบทีหลัง สุดท้ายคนใช้ก็คือประยุทธ์อยู่ดี งบปี ๖๔ ยังใช้ไม่หมดเลย ไหนจะเงินกู้ ๕แสนล้านที่ผ่านสภาไปแล้ว” ยังไม่พอเหรอ
Wrap up: (ดุจฟ้า ชาลิสา ออบดัม @Minna_invisible สรุป) เพื่อไทย “เดินหมากเก่า...ให้คำตอบชัดเจนไม่ได้ ผลักการเมืองเป็นเรื่องไกลตัว” ส่วน “ก้าวไกลมาเพื่อฟาด ลากไส้ และให้ความรู้ประชาชนตื่นรู้เรื่องงบฯ ด้วยเนื้อหาและข้อมูลในมือ”
ฉะนี้ มันต้องมีลูกหลงกระทบกระแทกบ้าง หากคุณพี่บังเอิญไปยืนใกล้ฝ่ายโน้น
(https://twitter.com/Minna_invisible/status/1422600897687801863, https://twitter.com/MFPThailand/status/1422611761757245440 และ https://twitter.com/PheuThaiParty/status/1422471603732897807)