วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 05, 2564

ความขัดแย้งใหม่ระหว่างก้าวไกล-เพื่อไทย ที่เกิดขึ้นในวงประชุม กมธ.งบประมาณ 2565 ทำให้เกิดคำถามแกนนำพรรคฝ่ายค้านว่า การเออออไปกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่ามีเบื้องหน้า-เบื้องหลังในประเด็นอื่น ๆ หรือไม่


พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย (พท.) กับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดวิวาทะกันอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 มีมติให้คืนงบที่ปรับลดลงจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้ 16,362 ล้านบาท แต่โยนไปไว้ที่รายการงบกลาง โดยมี กมธ. สังกัด พท. ร่วมโหวตแปรญัตติสนับสนุนแนวทางนี้ด้วย

ความขัดแย้งใหม่?

จากความขัดแย้งทางความคิดที่เกิดขึ้นในวงประชุม กมธ.งบประมาณ 2565 ระหว่างสองพรรคฝ่ายค้าน ได้ลุกลามบานปลายเป็นข้อครหาทางการเมืองถึง พท. ทำให้แกนนำฝ่ายค้านถูกตั้งคำถามถึงการเออออไปกับ พปชร. ว่ามีเบื้องหน้า-เบื้องหลังในประเด็นอื่น ๆ หรือไม่ อาทิ

  • ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติกลางเดือน ส.ค. นี้ - พท. ยืนยันว่าการตัดสินใจของ กมธ.งบประมาณ "ไม่เกี่ยวข้องกับสถานภาพการยอมรับในตัว พล.อ. ประยุทธ์ และรัฐบาล" และเดินหน้ายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป
  • การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งแบบ 2 ใบ ซึ่งขณะนี้ร่างอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กมธ. - พท. ระบุว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่แนวคิดตรงกัน
  • การ "ฮั้วกันในช่วงหลังเลือกตั้ง" - พท. ปฏิเสธว่า ไม่มีอะไรจะไปฮั้วกัน มีแต่เรื่องที่ต้องวางแผนต่อสู้แต่บังเอิญบางเรื่องก็มาตรงกัน


อ่านบทความเต็มที่
https://www.bbc.com/thai/thailand-58087459
.....
Atukkit Sawangsuk
6h ·

คำแถลงเพื่อไทย
(ก้าวไกลคงไม่แถลงอะไรอีก เพราะไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องดิ้น)
...................................
1.ข้ออ้างกลัวขัดรัฐธรรมนูญ ตลกปาก
ปีที่แล้วกรรมาธิการทั้งรัฐบาลฝ่ายค้าน ตัดงบ 17,419 ล้าน
ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 10,067 ล้าน
ให้สำนักงานศาลยุติธรรม 509 ล้าน
ให้กระทรวงสาธารณสุข 5,679 ล้าน
ให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา 1,083 ล้าน
...................................
ปีนี้ ที่ก้าวไกลเสนอ
ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นชดเชยรายได้ภาษีที่ดิน 13,200 ล้านบาท
ให้ สปสช. 860.24 ล้าน
ให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา 631.73 ล้าน
ให้กองทุนประกันสังคม 509.61 ล้านบาท
ถ้าขัดรัฐธรรมนูญก็ขัดกันหมดตั้งแต่ปีที่แล้ว
....................................
2.ช่วยโควิด
ประยุทธ์บอกเองเงินกู้ยังอยู่สี่แสนกว่าล้าน
เอาเนื้อหนูไปปะเนื้อช้าง
แล้วที่ก้าวไกลเสนอ 4 ข้อช่วยโควิดไหม
ทั้งช่วยตรงและช่วยรองรับ เช่น สปสช. ประกันสังคม
ท้องถิ่นจะมีบทบาทมากทั้งเรื่องการดูแลผู้ป่วย และภัยเศรษฐกิจหลังจากนี้
กองทุนเสมอภาคการศึกษา เด็กยากจนจะเพิ่มอีกเยอะเลย
เป็นการจัดงบทางตรงดีกว่าไปโปะในมือประยุทธ์ ที่ไม่ใช่แค่ ผนง. แต่ระบบราชการไร้ประสิทธิภาพ ถลุงงบหรือใช้เลอะเทอะ
(เรื่องงบซื้อวัคซีนซื้อยาไม่ต้องไปห่วงหรอกว่าจะไม่พอ มันมีอยู่แล้ว)
......................................
มี 2 ข้อเท่านี้แหละที่เป็นสาระ
ที่เหลือก็เช่น สู้ไปก็ไม่ชนะ (เพื่อไทยค้านด้วยก็แพ้รัฐบาลอยู่ดี เลยสนับสนุนซะเลย) เราจะมาทะเลาะกันทำไมในเรื่องที่ไม่ชนะ ต้องแยกมิตรแยกศัตรู
.....................................
3.โต้ข้อกล่าวหาว่าจะมีการรื้อฟื้นงบ ส.ส.เหมือนในอดีต
เป็นไปไม่ได้ ไม่จริง ด่าประยุทธ์อยู่จะเกี้ยเซียะได้ไง
....................................
อันนี้ต้องเล่าปูมหลังว่าในอดีต ส.ส.ฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลรบราฆ่าฟันในสภาก็ไปยืนเยี่ยวด้วยกัน แปรญัตติจัดสรรงบประมาณแบ่งปันให้ได้งบสร้างถนนสร้างฝายลงพื้นที่ทั้งรัฐบาลฝ่ายค้าน เพื่อจะเอาไปหาเสียง บอกชาวบ้านว่านี่ ส.ส.หางบมาได้ (ถ้าเลวร้ายก็หาผู้รับเหมาเอง) ทำอย่างนี้มาตลอดเพื่อให้งบผ่าน
..................................
ข้อนี้จริงไม่จริงพิสูจน์ได้ ใครอยู่ในพื้นที่คอยจับตา ถ้า ส.ส.เพื่อไทยไปหาเสียงว่าขอโครงการรัฐบาลมาได้ ฉิบหายเลยนะ แต่ถ้าไม่มี ก็เอากลับมาตอกก้าวไกล (แต่ไม่ได้ลบ 2 ข้อข้างต้น)
....................................
4.การตอบโต้ในปัญหาท่าที (ภูมิธรรม) เมื่อไม่เห็นด้วยเพราะเห็นต่าง ก็ไม่ควรโจมตีผู้เห็นต่างราวกับมีความผิดรุนแรง
อันนี้เหมือนที่บางคนอ้างว่าก้าวไกลเล่นการเมืองเอาดีใส่ตัว
ซึ่งก็งงเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นจะให้เขาเงียบหรือ เขาก็ต้องโวยสิ ทำไมโวยแล้วต้องหาว่าต้องการแย่งชิงคะแนนเสียงเพื่อไทย
ของมันแย่งกันไม่ได้ง่ายๆ หรอก ติ่งเพื่อไทยยังไงก็เป็นติ่งจนตาย
.................................
อันที่จริงในปัญหาท่าที เพื่อไทยต่างหาก เสียท่า
จากการให้โจ้ ยุทธพงศ์ ออกมาชนดะ อวดตัว คนฟังส่ายหน้า (เห็นว่าไปด่าตรีรัตน์อีก)
อย่าลืมว่า ฝั่งค้านไม่ได้มีแค่ ก้าวไกล 6 คน มีประชาชาติ ทวี สอดส่อง ด้วย
หมอเรวัตก็หนุน
ส่วนเพื่อไทย มี ปชป.ช่วยปกป้อง
.....
พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
5h ·

โพสต์เมื่อกลางเดือน มิ.ย. เป็นโพสต์ที่ถูก FCและ "นางแบก" เพื่อไทยรุมด่าทอมากที่สุดโพสต์นึงในหลายปีมานี้ ขอนำมาเสนออีกที Back to the Future!
"สิ่งที่เกิดขึ้นในสภาคือ เพื่อไทยกับพปชร.จะรวมหัวกันแก้ไขระบบเลือกตั้งในรธน.ให้เป็นบัตรสองใบ เพิ่มจำนวนสส.เขต ลดสส.บัญชีรายชื่อ ("กำขี้ดีกว่ากำตด") ซึ่งสองพรรคนี้จะได้ปย.มากที่สุด
เปลือกนอกของสภาชุดนี้เป็นการแบ่ง "พรรครัฐบาล" กับ "พรรคฝ่ายค้าน" แต่เนื้อในเป็นการแบ่งระหว่าง "การเมืองเก่า" กับ "การเมืองใหม่" ถ้ามองเข้าไปข้างในทั้งเพื่อไทยและพปชร. จะเห็นว่า แกนนำส่วนใหญ่คืออดีตไทยรักไทย-พลังปชช.-เพื่อไทย พวกเขาคือนักการเมืองกลุ่มเดียวกันมาแต่ไหนแต่ไร เพียงแบ่งบทกันเล่นในเกมเลือกตั้งและเกมสภา แต่ล้วนมีผลปย.สุดท้ายเหมือนกันคือ เข้าไปแชร์อำนาจภายใต้ระบอบเดิม (ที่ไม่แตะหมวด 1-2) อนาคตใหม่-ก้าวไกลคือ alien เป็นพวกผ่าเหล่าที่เข้ากับพวกเขาไม่ได้ คุยกันไม่รู้เรื่องและต้องถูกกำจัดทิ้งเสีย
ด้วยระบบข้างต้น การเลือกตั้งครั้งต่อไป พปชร.มีแนวโน้มเป็นพรรคใหญ่อันดับหนึ่ง นายกฯคนต่อไปคือปะยุด2 แต่ถ้าเพื่อไทยมาอันดับหนึ่งตามที่ฝันหวานกัน นายกฯคนต่อไปก็คือปะยุด2 ต่างกันแค่ว่า ใครจะเป็นแกนนำจัดตั้งรบ.โดยมีปะยุด2 มานั่งหัวโต๊ะเท่านั้น!
ปรองดอง ปรองดอง ปรองดอง แก้ไขไม่แก้แค้น แก้ไขไม่แก้แค้น แก้ไขไม่แก้แค้น ..."

พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
Yesterday at 11:22 AM ·

พวกเขาอดอยากปากแห้งกันมานานแล้ว ท่อน้ำเลี้ยงกระปิดกระปรอย ส่วนที่ไป "ฝากเลี้ยง" ไว้ก็ไม่พอ ผลงานในท้องถิ่นแทบไม่มี เลยไปฮั้วขอส่วนแบ่งด้วย แค่นั้นเอง