วันพุธ, มิถุนายน 09, 2564

'เกาเหลา แคบิเน็ต' ชื่อนี้เคยคุ้นๆ อยู่นะ ฤๅว่าจะคืนชีพตอน คสช.สืบทอดอำนาจ


พอประยุทธ์พูดถึงเลือกตั้งหลังจากครบเทอมนี้ในปีหน้า ภาพสวะและของเสียต่างๆ ที่รัฐบาลชุดนี้ทิ้งไว้ตลอดสามปี ก็ประดังเข้ามาย้ำเตือนประชากรให้สะอึก ว่าถ้า ตู่ กลับมาอีก ได้กระอักรวมหมู่กันแน่ๆ ถ้าโควิดไม่กวาดเรียบไปเสียก่อนสิ้นปีนี้

จึงได้มีนักข่าวไปถามหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลตัวเอ้ พวกเพ่ๆ ว่าไงกับข่าวลือ ยุบสภา ปลายปีนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคนหนึ่งละ ในฐานะที่เละตุ้มเป๊ะกว่าใคร เพราะ เอาไม่อยู่ ในการระบาดหนักระลอกสามของโควิด-๑๙

ระดมฉีดวัคซีนวันแรกได้สี่แสนกว่าโด๊สเซส คุยว่าเดือนหน้ามาเป็นล้าน แต่นั่นมันเพียงขี้ประติ๋ว ไม่ถึง ๑ เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่ควรได้แล้วในวันนี้ ซึ่งสถิติติดเพิ่มอีก ๒,๖๘๐ ราย ตายเพิ่ม ๓๕ คน ถึงแม้ศูนย์โควิดฯ จะพยายามเน้นจำนวนผู้หายป่วยกว่า ๔ พัน

“มีความพร้อมทุกวัน” อนุทินว่าถึงแม้จะยังไม่เห็นสัญญานอะไร ทั้งจากตัวหัวหน้า (รปภ.-รปห.) และบรรดางูเห่าฝ่ายค้าน (จะมีการย้ายค่ายเป็นลายลักษณ์อักษรมากแค่ไหน) พวกเรา “อยู่แบบเจียมเนื้อเจียมตัว...มีความเป็นปึกแผ่น” คุณภาพคับแก้ว ว่างั้น

เจียมตัวแบบแน่นปึกนั่นละใช่ ลองไปดูรายการประมูลโครงการสร้างรถไฟรางคู่สายเหนือกับอีสาน ที่รัฐมนตรีพรรค ภท.คนดังแถวทองหล่อ เคาะ อนุมัติสายเหนือกับอีสาน ๗๒,๘๕๘ + ๕๕,๔๑๐ ล้านบาท (เกือบแสนสาม) จน Samart Ratchapolsitte บอก ช็อค

เพราะ “เมื่อเปรียบเทียบกับการประมูลรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม-หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ในปี ๒๕๖๐ พบว่า สายใต้ประหยัดค่าก่อสร้างได้มากกว่า” อันนั้นราคาประมูลเพียง ๓๓,๙๘๒ ล้านบาท ประหยัดได้ ๕.๖๖% แต่ของสายเหนือ-อีสาน ลดได้แค่ ๐.๐๘%

สามารถ (ราชพลสิทธิ์) สงสัยว่าทำไมการรถไฟฯ “ไม่นำทีโออาร์ (ข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง) ของสายใต้มาใช้ในการประมูลสายเหนือและสายอีสาน” มิฉะนั้นจะทำให้ประหยัดได้ถึง ๗,๒๖๖ ล้านบาท เขาตั้งข้อสังเกตุว่าการประมูลครั้งนี้มีทั้งหมด ๕ สัญญา

“เท่ากับจำนวนผู้รับเหมาขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าประมูลได้พอดี” คือ “มีผู้รับเหมาขนาดใหญ่เข้าประมูล ๕ ราย และชนะการประมูลทุกราย” ลงตัวพอดี พูดไปทำไรมี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีคมนาคมสังกัดนี่ ผู้เชี่ยวชาญรับเหมาก่อสร้างนะ

อีกนาย ผลจากการไม่ค่อยได้ทำงานเลยเกิดการอึกทึกเล็กน้อย จากเรื่องกักตุนหน้ากากอนามัยตอนระบาดระลอกแรก มาถึงเรื่องการกลับมาใหม่ ไทยเป็น ฮับ ส่งออก นอกจากต้องพับฐานกันระนาวแล้ว ไทยดันกลายเป็นฮับส่งออกยาเสพติดไปฉิบ

เรื่องนั้นต้องให้ รมว.ยุติธรรมเป็นคนตอบถึงจะสะเด็ด ทั่น “แจงกรณีการลักลอบส่งออกยาเสพติดออกไปต่างประเทศโดยมีแหล่งที่มาจากประเทศไทยว่า...มาจากแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ส่งเข้ามาไทยผ่านทางชายแดน” แล้วส่งออกท่าเรือไทย

รู้อย่างนั้นแล้วแทนที่จะแสดงภูมิรัฐมนตรีว่าจะจัดการอย่างไร สมศักดิ์ เทพสุทิน กลับพูดถึงความเจ๋งน่าพิศมัยของบ้านเรา “เพราะไทยตั้งอยู่ใกล้แหล่งผลิต มีการคมนาคมขนส่งสะดวกและรวดเร็ว มีท่าเรือสากลที่มีขนาดใหญ่ และมีจำนวนตู้สินค้าผ่านท่าเรือจำนวนมาก”

นี่เป็นอีกคนที่เม้าท์กันว่าเลือกตั้งที่จะมาอาจโดนตู่ โละ ออก แบบเดียวกับพวก แมลงสาบบีบมวยผมที่ถูกนินทาหนาหูยิ่งนักแล้ว ว่าด้อยค่าแล้วยังโก่งราคา ไม่เหมาะกับการเป็น ลิ่วล้อ คสช. มิใยที่ จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ ที่เคย หงอ มาวันนี้มีเหน็บ

“รอยร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล อาจเร่งเร้าทำให้เกิดการยุบสภาภายในปลายปีนี้หรือไม่นั้น...ไม่สามารถคาดการณ์อะไรล่วงหน้าได้ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีหน้าที่ ที่จะต้องแก้ปัญหาในฐานะผู้นำรัฐบาล” และเป็นหมายเลข ๑ ของรัฐบาลผสม

คนที่เป็นตัวการใหญ่ได้แต่บอกว่า “ผมมีความเป็นห่วงกังวล เกี่ยวกับเกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ว่าทำอย่างไร จะให้หลุดพ้นจากความยากจนได้โดยเร็วที่สุด” ฉะนั้นขออีก ๕ แสนล้าน รัฐสภาช่วยตีเช็คเปล่าออกมาให้อีกสักใบ

สืบทอดอำนาจเผด็จการก็อย่างนี้ละ ทำอะไรง่ายๆ อยากได้เงินก็ออก พรก. ไม่ต้องอธิบาย ไม่ต้องถูกตรวจสอบล่วงหน้า ยื่นร่างกฎหมายด้วยเอกสารประกอบแค่สี่แผ่น ให้ฝ่ายค้านอภิปรายกันไปทั้งวัน แล้วคอยดูสิ คืนนี้ (๙ มิ.ย.) ผ่านฉลุย


พรุ่งนี้ ประยุทธ์ (จันทร์อะไรนะ) จะได้ขึ้นคานเป็นนายกรัฐมนตรีที่กู้เงินมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ตั้งแต่แย่งอำนาจมาจากรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลสืบทอดอำนาจนี้ ประยุทธ์สร้างหนี้ให้ลูกหลานไทยแล้ว ๕.๔๘ ล้านล้านบาท

(https://www.facebook.com/ballbanofficial/posts/324991602326866, https://www.khaosod.co.th/politics/news_6442040, https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2767085943584280 และ https://www.facebook.com/samart.ratchapolsitte/posts/10219681589975426)