พอประยุทธ์พูดถึงเลือกตั้งหลังจากครบเทอมนี้ในปีหน้า ภาพสวะและของเสียต่างๆ ที่รัฐบาลชุดนี้ทิ้งไว้ตลอดสามปี ก็ประดังเข้ามาย้ำเตือนประชากรให้สะอึก ว่าถ้า ‘ตู่’ กลับมาอีก ได้กระอักรวมหมู่กันแน่ๆ ถ้าโควิดไม่กวาดเรียบไปเสียก่อนสิ้นปีนี้
จึงได้มีนักข่าวไปถามหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลตัวเอ้ พวกเพ่ๆ ว่าไงกับข่าวลือ ‘ยุบสภา’ ปลายปีนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคนหนึ่งละ ในฐานะที่เละตุ้มเป๊ะกว่าใคร เพราะ ‘เอาไม่อยู่’ ในการระบาดหนักระลอกสามของโควิด-๑๙
ระดมฉีดวัคซีนวันแรกได้สี่แสนกว่าโด๊สเซส คุยว่าเดือนหน้ามาเป็นล้าน แต่นั่นมันเพียงขี้ประติ๋ว ไม่ถึง ๑ เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่ควรได้แล้วในวันนี้ ซึ่งสถิติติดเพิ่มอีก ๒,๖๘๐ ราย ตายเพิ่ม ๓๕ คน ถึงแม้ศูนย์โควิดฯ จะพยายามเน้นจำนวนผู้หายป่วยกว่า ๔ พัน
“มีความพร้อมทุกวัน” อนุทินว่าถึงแม้จะยังไม่เห็นสัญญานอะไร ทั้งจากตัวหัวหน้า (รปภ.-รปห.) และบรรดางูเห่าฝ่ายค้าน (จะมีการย้ายค่ายเป็นลายลักษณ์อักษรมากแค่ไหน) พวกเรา “อยู่แบบเจียมเนื้อเจียมตัว...มีความเป็นปึกแผ่น” คุณภาพคับแก้ว ว่างั้น
เจียมตัวแบบแน่นปึกนั่นละใช่ ลองไปดูรายการประมูลโครงการสร้างรถไฟรางคู่สายเหนือกับอีสาน ที่รัฐมนตรีพรรค ภท.คนดังแถวทองหล่อ ‘เคาะ’ อนุมัติสายเหนือกับอีสาน ๗๒,๘๕๘ + ๕๕,๔๑๐ ล้านบาท (เกือบแสนสาม) จน Samart Ratchapolsitte บอก ‘ช็อค’
เพราะ “เมื่อเปรียบเทียบกับการประมูลรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม-หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ในปี ๒๕๖๐ พบว่า สายใต้ประหยัดค่าก่อสร้างได้มากกว่า” อันนั้นราคาประมูลเพียง ๓๓,๙๘๒ ล้านบาท ประหยัดได้ ๕.๖๖% แต่ของสายเหนือ-อีสาน ลดได้แค่ ๐.๐๘%
สามารถ (ราชพลสิทธิ์) สงสัยว่าทำไมการรถไฟฯ “ไม่นำทีโออาร์ (ข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง) ของสายใต้มาใช้ในการประมูลสายเหนือและสายอีสาน” มิฉะนั้นจะทำให้ประหยัดได้ถึง ๗,๒๖๖ ล้านบาท เขาตั้งข้อสังเกตุว่าการประมูลครั้งนี้มีทั้งหมด ๕ สัญญา
“เท่ากับจำนวนผู้รับเหมาขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าประมูลได้พอดี” คือ “มีผู้รับเหมาขนาดใหญ่เข้าประมูล ๕ ราย และชนะการประมูลทุกราย” ลงตัวพอดี พูดไปทำไรมี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีคมนาคมสังกัดนี่ ผู้เชี่ยวชาญรับเหมาก่อสร้างนะ
อีกนาย ผลจากการไม่ค่อยได้ทำงานเลยเกิดการอึกทึกเล็กน้อย จากเรื่องกักตุนหน้ากากอนามัยตอนระบาดระลอกแรก มาถึงเรื่องการกลับมาใหม่ ไทยเป็น ‘ฮับ’ ส่งออก นอกจากต้องพับฐานกันระนาวแล้ว ไทยดันกลายเป็นฮับส่งออกยาเสพติดไปฉิบ
เรื่องนั้นต้องให้ รมว.ยุติธรรมเป็นคนตอบถึงจะสะเด็ด ทั่น “แจงกรณีการลักลอบส่งออกยาเสพติดออกไปต่างประเทศโดยมีแหล่งที่มาจากประเทศไทยว่า...มาจากแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ส่งเข้ามาไทยผ่านทางชายแดน” แล้วส่งออกท่าเรือไทย
รู้อย่างนั้นแล้วแทนที่จะแสดงภูมิรัฐมนตรีว่าจะจัดการอย่างไร สมศักดิ์ เทพสุทิน กลับพูดถึงความเจ๋งน่าพิศมัยของบ้านเรา “เพราะไทยตั้งอยู่ใกล้แหล่งผลิต มีการคมนาคมขนส่งสะดวกและรวดเร็ว มีท่าเรือสากลที่มีขนาดใหญ่ และมีจำนวนตู้สินค้าผ่านท่าเรือจำนวนมาก”
นี่เป็นอีกคนที่เม้าท์กันว่าเลือกตั้งที่จะมาอาจโดนตู่ ‘โละ’ ออก แบบเดียวกับพวก ‘แมลงสาบ’ บีบมวยผมที่ถูกนินทาหนาหูยิ่งนักแล้ว ว่าด้อยค่าแล้วยังโก่งราคา ไม่เหมาะกับการเป็น ‘ลิ่วล้อ’ คสช. มิใยที่ จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ ที่เคย ‘หงอ’ มาวันนี้มีเหน็บ
“รอยร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล อาจเร่งเร้าทำให้เกิดการยุบสภาภายในปลายปีนี้หรือไม่นั้น...ไม่สามารถคาดการณ์อะไรล่วงหน้าได้ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีหน้าที่ ที่จะต้องแก้ปัญหาในฐานะผู้นำรัฐบาล” และเป็นหมายเลข ๑ ของรัฐบาลผสม
คนที่เป็นตัวการใหญ่ได้แต่บอกว่า “ผมมีความเป็นห่วงกังวล เกี่ยวกับเกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ว่าทำอย่างไร จะให้หลุดพ้นจากความยากจนได้โดยเร็วที่สุด” ฉะนั้นขออีก ๕ แสนล้าน รัฐสภาช่วยตีเช็คเปล่าออกมาให้อีกสักใบ
สืบทอดอำนาจเผด็จการก็อย่างนี้ละ ทำอะไรง่ายๆ อยากได้เงินก็ออก พรก. ไม่ต้องอธิบาย ไม่ต้องถูกตรวจสอบล่วงหน้า ยื่นร่างกฎหมายด้วยเอกสารประกอบแค่สี่แผ่น ให้ฝ่ายค้านอภิปรายกันไปทั้งวัน แล้วคอยดูสิ คืนนี้ (๙ มิ.ย.) ผ่านฉลุย
พรุ่งนี้ ประยุทธ์ (จันทร์อะไรนะ) จะได้ขึ้นคานเป็นนายกรัฐมนตรีที่กู้เงินมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ตั้งแต่แย่งอำนาจมาจากรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลสืบทอดอำนาจนี้ ประยุทธ์สร้างหนี้ให้ลูกหลานไทยแล้ว ๕.๔๘ ล้านล้านบาท
(https://www.facebook.com/ballbanofficial/posts/324991602326866, https://www.khaosod.co.th/politics/news_6442040, https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2767085943584280 และ https://www.facebook.com/samart.ratchapolsitte/posts/10219681589975426)