วันศุกร์, เมษายน 02, 2564

ความน่าอายของทีมงานPR UNHCR ปฏิเสธผู้ลี้ภัย พูดให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย UNHCR เชิญคุณพังต่อไป



Chanoknan Ruamsap
4h ·

รีวิวการโดนปฏิเสธงานโปรโมทผู้ลี้ภัยจาก UNHCR
มันเริ่มมาจากเมื่อเดือนที่แล้วทีม PR ของ UNHCR (เกาหลี) ติดต่อเรามา บอกว่าอยากทำหนังโปรโมทผู้ลี้ภัย ตอนประชุมบรีฟงานกันเค้าก็บอกว่าอยากให้มีความหลากหลายในหนัง อยากเปลี่ยนภาพจำผู้ลี้ภัย ไม่ใช่แค่เด็กดำมุสลิม แบคกราวน์เป็นระเบิดอะไรแบบนี้ ซึ่งเรายอมรับว่าตอนแรกเราเซอร์ไพรส์มากที่ออฟฟิสนี้ติดต่อเรามา แล้วก็คิดในแง่บวกนะว่าทั้งๆที่เราวิจารณ์ทีม PR ของ UNHCR มาตลอด แต่เค้ายังเอาเรามาอยู่ในหนัง คงอยากเปลี่ยนจริงๆอะไรแบบนี้ แงงง 555
ผ่านการประชุมมา 2 รอบ ถึงวันถ่ายจริงซึ่งก็คือเมื่อวาน พอเราไปถึงฉาก ผู้กำกับบอกเราว่าเราโดนถอนจากโปรเจค แล้วมีเราแค่คนเดียวที่โดนถอน เหตุผลคือทีมเกาหลีเอางานไปเสนอที่ไทยแล้วไม่ผ่านที่เรา (เค้าอ้างว่าเวลาเสนอโปรเจคต้องผ่านสำนักงานใหญ่ของภูมิภาคซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเทพ) เหตุผลคือกังวลเรื่องความปลอดภัยของเราถ้าเราต้องกลับไทย และอีกเหตุผลคือ UN ทุกออฟฟิศต้องทำงานกับรัฐบาลประเทศนั้นๆ และต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลในประเทศนั้นๆ ซึ่งหมายถึงถ้าเราพูดในฟิล์ม มันก็จะกระทบกับความสัมพันธ์ของ UNHCR กับรัฐไทยด้วย
สรุปเมื่อวานผู้กำกับคนนี้ตัดสินใจจะทำหนังสั้นแยกเป็นของเราโดยเฉพาะ แล้วตอนนี้ที่อัดไปผู้กำกับก็รู้สึกเสียดายที่บทพูดเราไม่ได้ไปอยู่ในหนังของ UNHCR อ่ะนะ เราก็เห็นด้วย เพราะเรามั่นใจว่าเราพูดได้ดีมากเรื่องนี้ แมสเซจที่เราจะสื่อคือ
1.) ใครก็อาจจะเป็นผู้ลี้ภัยได้ซักวัน ไม่ได้เกี่ยวกับสีผิว ศาสนา หรือสัญชาติ แต่การประชาสัมพันธ์ขององค์กรระดับโลกมันทำได้แย่มาก มันทำให้คนทั่วโลกเข้าใจผิดเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย เราไม่เห็นด้วยกับการขายความจน โอเค ความจนมันขายได้ แต่ UNHCR ควรทำได้ดีกว่านี้ และควรทำให้ดีกว่านี้ในเรื่องการให้ความรู้เกี่ยวกับผู้ลี้ภัย โดยเฉพาะ 5 grounds (เชื้อชาติ, สัญชาติ, ศาสนา,การเมือง, กลุ่มทางสังคมใดๆ) ไม่ใช่ไปโฟกัสเรื่องอื่น
2.) เราพูดว่าสิ่งที่ผู้ลี้ภัยต้องการมากที่สุดไม่ใช่เงิน แต่คือ ‘สถานะ’ ไม่มีผู้ลี้ภัยคนไหนต้องการเงินบริจาคเล็กๆน้อยๆประทังชีวิตตลอดไปหรอก มันไม่มีศักดิ์ศรี ถ้าผู้ลี้ภัยได้รับการรับรองสถานะ เค้าก็จะสามารถทำงาน หาเงินเลี้ยงชีพได้ เสียภาษี มีศักดิ์ศรีเท่ากับคนทั่วไป ใครจะไม่อยากได้ UNHCR ควรจะโฟกัสตรงนี้มากกว่า มันยั่งยืนกว่าการรับบริจาคสบู่ ฯลฯ หมดคำจะพูด คือ... โอเคสบู่มันอาจจะเร่งด่วน แต่เรื่องเร่งด่วนชั่วคราวต้องเอามาขายตลอดชาติหรอ ทำไมไม่โปรโมทอะไรที่ยั่งยืน สร้างองค์ความรู้เรื่องผู้ลี้ภัยให้คนทั่วโลกเข้าใจอ่ะ อะไรที่มันฉลาดกว่านี้ไม่ทำ
3.) ภาพที่ UNHCR เอามาโปรโมทมันไม่ได้ represent เรา และผู้ลี้ภัยอีกหลายๆคน เราไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นตัวแทนของเราเลย อีกหลายคนก็คิดเหมือนกันว่านี่ไม่ใช่เค้า เราไม่ปฏิเสธว่ามีผู้ลี้ภัยที่จนและผอมจริงๆ แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด แล้วทำไม่ UNHCR ต้องเอาแค่แบบนี้มาขาย แล้วถึงแม้เราจะจนและผอมจริง คิดว่าเรา happy หรอที่เห็นภาพตัวเองถูกเอามาหาเงินแบบนี้
4.) สุดท้ายคือข้อเสนอของเราว่าหยุดขายความจน และช่วยโปรโมทศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์ของผู้ลี้ภัยหน่อย ทำแบบนี้เหมือนเอาผู้ลี้ภัยมาใส่กรงให้คนดูสงสารแล้วเจียดเศษเงินให้ รับไม่ได้อ่ะนะ
เนี่ย 4 ข้อที่เราพูด ก็ไม่ได้ใจร้ายเลยนะ UNHCR อ่ะใจร้าย ใจแคบด้วย เราบอกเค้าไปว่าเรารับไม่ได้หรอกกับข้ออ้างเรื่องที่ตัดเราออกเพราะห่วงความปลอดภัยของเราถ้าเรากลับไทย เพราะถ้าเรากลับไทยจริงๆ สถานะผู้ลี้ภัยเราก็จะถูกถอดออกทันทีอยู่แล้ว แสดงว่าเราก็จะไม่ใช่ผู้ลี้ภัยแล้ว ก็ไม่มีผลอะไรกับ UNHCR อยู่ดี สุดท้ายเค้าก็ยอมรับนะว่าเรื่องของเรามันการเมืองเกินไป ถึงได้โดนถอด ก็โอเค แล้วแต่ อ่อนดี ไม่มีปัญหา
แค่คิดว่าเรามาพูดในนี้ว่าเราพูดอะไรไปบ้างดีกว่า เผื่อจะมีคนเข้าใจเรื่องผู้ลี้ภัยมากขึ้น เพราะดูเหมือน UNHCR จะเฟลในหน้าที่การงานของตัวเอง