วันศุกร์, เมษายน 02, 2564

เรื่องของพวกเจ้าหน้าที่ประสาทแดก จนจิตหลอนกันหมด!



ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
10h ·

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไปหาที่บ้านของ ละเอียด ทองเกลียว หรือ “ป้าเอียด” อายุ 61 ปี ในจังหวัดชัยนาท จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 16 มี.ค. และ 31 มี.ค. 64 เพื่อสอบถามว่า ตนอยู่บ้านหรือไม่ ขณะรัชกาลที่ 10 เสด็จพระราชดำเนินไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี
.
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 64 เวลา 11.20 น. มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจำนวน 1 นาย เข้ามาหาที่บ้านพักในจังหวัดชัยนาท ไม่แสดงบัตรเจ้าหน้าที่ และไม่แจ้งยศ จากนั้นได้เข้ามาสอบถามว่า ละเอียดอยู่ที่บ้านหรือไม่ จากนั้นจึงเดินทางกลับไป ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน รัชกาลที่ 10 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปร่วมพิธีเปิดศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี
.
เช้าวานนี้ (31 มี.ค. 64) เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมาหาที่บ้านของละเอียดอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอีกนายหนึ่ง ระบุว่าชื่อ ด.ต.อดุลย์ ทองบุตร เข้ามาสอบถามในประเด็นเดียวกับครั้งแรกว่า “ป้าเอียดอยู่บ้านหรือไม่” โดยระบุว่าต้องมาติดตามเนื่องจากช่วงนี้จะมีขบวนเสด็จมาที่จังหวัดสุพรรณบุรี แต่ไม่ได้ระบุบุคคลที่อ้างว่าจะเสด็จมา
.
ละเอียดได้ตอบเจ้าหน้าที่ว่า “ตอนนี้ ขาแข้งก็ไม่ค่อยดีจะเดินทางไปที่จังหวัดสุพรรณบุรีได้อย่างไร” เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปแล้วเดินทางกลับไป ทั้งสองครั้ง ไม่มีการให้เซ็นเอกสารข้อตกลงแต่อย่างใด
.
.
++ แจ้งลงบันทึกประจำวัน “จนท.มาที่บ้าน” พร้อมยื่น 3 ข้อเรียกร้อง ขอจนท.ยึดถือหลักกฎหมาย ++
.
ในครั้งนี้ ละเอียดได้ตัดสินใจเดินทางไปที่สภ.เมืองชัยนาท เพื่อลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน ถึงเหตุการณ์เจ้าหน้าที่มาหาที่บ้านถึง 2 ครั้ง ขณะมีขบวนเสด็จมาที่จังหวัดสุพรรณบุรี ละเอียดยังได้ลงบันทึกแสดงจุดยืนทางการเมืองของตนอีกด้วยว่า
.
“การมาหาที่บ้านของเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบในวันนี้ และอ้างเรื่องขบวนเสด็จ โดยไม่ระบุตัวบุคคลที่จะเสด็จมา ทำให้ดิฉันงุนงงกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่มาก จึงตอบไปว่า ดิฉันรู้ว่าอะไรควรไม่ควรจะทำไปทำไม งงมาก
.
“ก่อนหน้านี้ วันที่ 16 มี.ค. 64 เคยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมาหาที่บ้าน ซึ่งข้าพเจ้าได้แสดงจุดยืนทางการเมืองว่า ข้าพเจ้าไม่ยอมรับการปกครองของประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวกพ้อง ที่ได้กระทำการล้มล้างการปกครองและฉีกรัฐธรรมนูญในเดือนพฤษภาคม ปี 2557 ในรัฐบาลของยิ่งลักษณ์​ ชินวัตร”
.
นอกเหนือจากข้อความที่ปรากฎในบันทึกประจำวัน ละเอียดยังยื่น 3 ข้อเสนอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติตาม ดังนี้
.
1. ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยแสดงตัว เวลามาพบชาวบ้านที่บ้าน
2. ขอให้เจ้าหน้าที่ยึดถือตามหลักกฎหมาย
3. อย่าดึงเอาสถาบันกษัตริย์มาทำร้ายประชาชน หรือนำมากลั่นแกล้ง ขอให้พูดคุยกันด้วยเหตุผล
.
หลังจากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่มาหาที่บ้าน ละเอียดเผยว่า รู้สึกตกใจ และระแวงว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาหาที่บ้านอีก เนื่องจากตนยังอาศัยอยู่เพียงลำพังในบ้านที่จังหวัดชัยนาท ไม่ได้อาศัยอยู่กับญาติ และยังอายุมากแล้ว
.
.
++ “ป้าเอียด” นักต่อสู้ประชาธิปไตยวัย 61 ปี ที่อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข ++
.
ละเอียดเล่าว่าตนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย และเปลี่ยนมาเข้าร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในเวลาต่อมา ในการเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาปี 2563 เธอก็ได้เคยเดินทางไปเข้าร่วมการชุมนุมในหลายจังหวัด ทำให้อาจเป็นที่มาของการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม
.
แม้ปีนี้เธอจะอายุ 61 ปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่นิ่งเฉยต่อความอยุติธรรม เธอเล่าถึงเหตุผลที่ออกมาเคลื่อนไหวว่า
.
“ป้าเห็นรัฐประหารยึดอำนาจในประเทศไทยมาหลายครั้ง ซึ่งป้าเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แล้วป้าก็เห็นการฆ่าล้างกลุ่มชุมนุมเสื้อแดง เราเห็นคนตาย ป้าคิดว่า เราก็เป็นคนไทยด้วยกันเอง ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ พูดคุยกันไม่ได้เลยหรือ ตอนนี้ เด็กๆ เขาออกมาพูด คุณกลับไปยัดข้อหา ไปดำเนินคดีเขาอีก มันไม่ถูกต้อง
.
“เด็กๆ ที่ออกมาพูดเขามีความปรารถนาดี หวังดีต่อบ้านเมือง พอเห็นแล้วรู้สึกชื่นใจ อยากให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยจริงๆ เสียที”
.
นอกจากนี้ ละเอียดยังเล่าอีกว่า ขณะนี้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ไม่ได้ไปร่วมชุมนุม ได้แต่ช่วยแชร์ข้อมูลตามกำลังที่มี
.
ป้าทิ้งท้ายถึงความอัดอั้นหลังเจ้าหน้าที่มาหาที่บ้าน “ป้าสนับสนุนประชาธิปไตย ป้าผิดตรงไหน แล้วการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสนับสนุนประยุทธ์ สนับสนุนเผด็จการ มันถูกต้องแล้วหรือ”
.
จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พบว่าตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 มีเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าติดตามตรวจสอบความเคลื่อนไหวของนักกิจกรรมหรือผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองในจังหวัดต่างๆ ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินของรัชกาลที่ 10 ไปยังจังหวัดนั้นๆ อาทิเช่น จังหวัดเชียงใหม่, อุดรธานี, อุบลราชธานี, ปัตตานี หรือพิษณุโลก
.
.
อ่านเนื้อหาฉบับเว็บไซต์: https://tlhr2014.com/archives/27841
.....

"คำเตือน ข่าวกรองแล้ว ตอนนี้คนโดนคดี แล้วต้องการลี้ภัย โดยเฉพาะคดี 112 ห้ามหนี โดยการบินออกทางสนามบินจากไทย เด็ดขาด ตอนต้นเดือนนี้(มีนาคม 2021) ทีมของวชิราลงกรณ์สั่งตรงลงมาเอง ที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้เช็คคนไทยทุกคน ที่เดินทางออกนอกประเทศ อย่างละเอียด เรียงตัว บางคนยังไม่โดนหมายจับ โดนแค่เรียกไปสอบ 112 แต่ตอนจะบิน โดนยึด passport พร้อมวีซ่า เมกา คา ตม. สนามบินสุวรรณภูมิมาแล้ว (แต่ปล่อยตัวออกมา เรียกว่า arbitrary ยึด passport ตามใจชอบมาก) ... ใครที่โดนคดีแล้วต้องการลี้ภัยออกจากกะลาจริงๆ ตอนนี้ยังพอมีช่องทาง ขอให้ปรึกษาหลังไมค์กับ ผู้ลี้ภัย รุ่นก่อนๆที่น่าเชื่อถือครับ" 
- มิตรสหายท่านหนึ่ง