วันจันทร์, เมษายน 05, 2564

'จตุพร' ชวน "ลุ้นกันวันพรุ่งนี้ (๖ เมษา) จะมีเซอร์ไพร้ส์" คนหนุ่มสาวได้รับอิสรภาพ


ประชาชนไม่ได้มามืดฟ้ามัวดินอย่างหวัง มีแต่มวลชนเสื้อแดงเก๋าๆ แน่นสวนสันติพร อนุสรณ์สถาน พฤษภา ๓๕เสื้อเหลืองระดับแกนๆ พอมีมาบ้าง อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ต้องมาในฐานะโต้โผ แต่ภิภพ ธงไชย โฆษณากันไว้แล้วก็ไม่มา หรือ ปรีดา เตียสุวรรณ์ ไม่โผล่

ม็อบ ๔-๔-๔ วานนี้จึงเป็นแค่เวทีโวหาร ดังที่ อธึกกิต แสวงสุข เปรียบเปรย “ปูทางจัดต่อเนื่องแบบ สนธิ ลิ้มฯ จัด เมืองไทยรายสัปดาห์’ (จตุพรประกาศแล้วว่าจัดรายวัน) แล้วค่อยดูว่าจะดึงคนมาได้แค่ไหน” วันนี้สี่โมงเย็นเขาเอาอีก อย่างน้อยๆ ต่อ ๖-๗ เมษาด้วย

ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องตื่นเต้นอะไรนัก ในเมื่อ พลเมืองโต้กลับ- Resistant Citizen เขาก็ทำกันรายวันมาเป็นวันที่ ๑๔-๑๕ นี่แล้ว ในการ ยืนหยุดขัง ๑๑๒ นาฑีที่หน้าศาลฎีกา เพื่อทวงถาม สิทธิได้รับการประกันตัว ของผู้ต้องหาทางการเมือง


(แถมข้อมูลนิด บันทึกกันลืม “หลังการกลับมาบังคับใช้ ม.๑๑๒ อีกครั้งในช่วงปลาย พ.ย. ๖๓ จนถึงวันที่ ๑ เม.ย.๖๔ พบว่ามีผู้ถูกดำเนินคดี ม.๑๑๒ ไปแล้วอย่างน้อย ๘๒ คน ใน ๗๔ คดี” โดยมี พรพิมลแม่ค้าออนไลน์ถูกคุมขังในห้องมืดไม่เห็นเดือนหรือตะวัน

ผล อิมแพ็ค อย่างไรอยู่ที่ใครสรุป ถ้าจะฟังติ่งเสื้อแดงสายเกลียด สามกีบก็บอกว่า “กลับมาแล้ว...กลางเวทีกลางไฟ วันสุดท้ายยังจำติดตา” ขณะที่ ณ เวลานี้ม็อบเยาวชนเงียบกริบเพราะโดนจับเกือบเกลี้ยง สู้ม็อบตู่ พันธุ์ทางแดง-เหลืองไม่ได้

รถฉีดน้ำไม่มี คุมฝูงชนไม่มา ซ้ำรถส้วมเด่นเป็นสง่า เพราะถ้วนหน้ามุ่งเป้าหมายเดียวกันให้ประยุทธ์ออกไป แล้วไม่เกี่ยง “ไม่รู้จะได้เผด็จการทหารคนไหนมาแทน วนไป” เช่นที่ Yaowalak Anuphan ว่าเหมือนปี ๓๕ “ไล่สุจินดาไปได้ประยุทธ์มาแทน”

ยังดีที่มี วีระ สมความคิด คนหนึ่งที่ขึ้นปราศรัยแล้วบอก “ตนไม่ได้ต้องการขับไล่ประยุทธ์ แต่ต้องการขับไล่เผด็จการทหารเลว” ว่าโดยหลักการ เลว ตรงที่ “ยึดอำนาจ การเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องตัวเอง และการอาศัยอยู่ในบ้านพักหลวง”

สำหรับ จตุพร พรหมพันธุ์ ยังไม่เห็นอะไรมากไปกว่าที่เขาเปลี่ยนมาเป็นนักสันติวิธี สามัคคี ปรองดอง เว้นแต่คราวนี้พูดถึง ‘I Bo’ แสบสัน ว่า “นายเสกสกลอยู่แก๊งไหนหัวหน้าแก๊งตายหมด ตอนสมัย พี่น้องชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีก็หลงเชื่อ...ขนาดย่าโมเขายังกล้าต้ม”

อีกอันที่หลุดจากปากจตุพร ให้ลุ้นกันวันพรุ่งนี้ (๖ เมษา) จะมีเซอร์ไพร้ส์ “คนหนุ่มคนสาวที่สูญสิ้นอิสรภาพอยู่ในเรือนจำพิเศษ หรือในสถานคุมขังอื่นๆ จะได้รับอิสรภาพ” เขาอ้างว่าการบังคับใช้ ม.๑๑๒ ครั้งนี้ทำให้ เสีย ต่อสถาบัน “ทั้งขึ้นทั้งล่อง”

แหม อย่างนี้คุณพี่น่าจะเผยเสียด้วยว่า ใครหนอ คนภายนอก ที่สามารถสั่งประธานศาลฎีกา ไม่ยอมให้ปล่อยตัวชั่วคราวบรรดาแกนนำเยาวชนราษฎรทั้งหลาย อย่างผิดทั้งตัวบทกฎหมายและหลักนิติธรรมได้ อยากรู้ถ้าไม่ใช่ ‘I Too’ แล้วใครวะฮะ

หากจะหวังกันว่าถ้าไล่นายจันทร์อะไรเนี่ยออกไปได้ แล้วประชาธิปไตยไทยชนิดเขาออกแบบมาไว้เพื่อพวกตู่ จะไปได้สวยเลือกตั้งกันใหม่หะรูหะราละก็ ได้โปรดสะดุดตรงที่อธึกกิตสกิดให้ “ต้องระวังท่าทีอย่าเทไปกับจตุพรหมด” ในเมื่อกระบวนพลิกผันมันกำลังมา


อย่างเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ที่เริ่มมาจากฝ่ายค้านต้องการสนองข้อเรียกร้องของน้องๆ ชูสามนิ้ว แต่ก็ถูกพรรค นางสนมร่วมรัฐบาล (ไม่ถึงขั้นเจ้าคุณพระด้วยซ้ำไป) ช่วยให้พลังประชารัฐ ไฮแจ็ค ฉกฉวยเอาไปเสียได้ ตอนนี้เหลืออะไร แค่แก้วิธีเลือกตั้งกลับไปบัตรสองใบ

ขอเอาที่ Atukkit Sawangsuk เม้นต์ไว้มาขยายต่อ “พลังประชารัฐมันจะกลับไปใช้บัตรสองใบแบบรัฐธรรมนูญ ๔๐ เพราะมันเห็นว่าตัวเองจะได้เปรียบ” เป็นสไตล์เยอรมันซึ่ง บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ออกแบบไว้แล้วตู่ไม่ชอบ จึงโยนไปให้มีชัย ‘..ยำเสียจนสะใจ

“มันคำนวณแล้วว่าจะชนะ ส.ส.เขตเยอะ จนไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์ (หรือได้เกิน) ซ้ำรอยเพื่อไทยปี ๖๒ ถ้ายังใช้สูตรมีชัย เพื่อไทย ก้าวไกล แม้จะแพ้ ส.ส.เขตแต่ยังได้คะแนนพรรคเยอะ สัดส่วน ส.ส.ก็ยังเยอะ มันเลยอยากกลับไปใช้ ๔๐”

เขาว่าตอนนี้พรรคก้าวไกลทำท่าจะแทงกั๊กเอาแบบ เจอมันด้วยเหมือนกัน เพราะดูท่า “สาม พปชร.จะกวาด ส.ส.เขต ชนะเพื่อไทยอีกหลายสิบเขตในเหนืออีสาน ทั้งด้วยความได้เปรียบที่เป็นรัฐบาลแหงๆ ทั้งด้วยอาวุธกระสุนอำนาจรัฐ ฐานหัวคะแนน”

รวมความว่า หลังจาก ‘ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย’ เสร็จสมอารมณ์หมายแล้วนั้น แสงจันทร์ที่บ้านพี่จะส่องหล้าขนาดไหน ก็ยังไม่เจิดจ้าได้เต็มที่ตราบเท่ายังถูกรัฐธรรมนูญ มีชัย บดบัง

(https://www.facebook.com/baitongpost/posts/3953091004772699, https://prachatai.com/journal/2021/04/92426 และ https://www.thairath.co.th/news/politic/2063516)