วันเสาร์, มีนาคม 27, 2564

ชีวิตคนไม่ใช่ผักปลา #Saveวันเฉลิม ขอชื่นชมความมุ่งมั่นของพี่สาววันเฉลิม ตามเรื่องน้องไม่หยุด เปิดหลักฐานตอแหลกัมพูชา


The Reporters
21h ·

INVESTIGATIVE:เปิดหลักฐานการมีตัวตนอยู่จริงในกัมพูชาของ "วันเฉลิม" พี่สาวยื่นดีเอสไอ-อัยการสูงสุด มีทั้งพาสปอร์ตไทย-กัมพูชา และบันทึกเจ้าหน้าที่ไทยไปติดตามตัวที่พนมเปญ หักล้างข้อมูลของทางการกัมพูชา
"ตำรวจกัมพูชาบอกว่า พาสปอร์ตของ วันเฉลิม หมดอายุไปตั้งแต่ปี 2561 แต่เราไปเจอน้องชาย ในต่างประเทศหลายครั้ง ก่อนนั้น เขาเดินทางไป จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เวียดนาม ดูไบ และส่วนตัวไปเจอกันที่ เคนยา อูกันดา เพราะเขาใช้พาสปอร์ตกัมพูชา ที่ได้มาในปี 2015 หรือ ปี 2558"
น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองไทย ที่ถูกอุ้มหายจากที่พักในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2563 นำหลักฐาน หนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ตของประเทศกัมพูชา มายืนยันถึงความมีอยู่จริงของ "วันเฉลิม" กับ The Reporters
"ที่ตำรวจกัมพูชา บอกว่า ไม่พบหลักฐานว่า ตาร์ พำนักอยู่ในกัมพูชาในวันเกิดเหตุนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะวีซ่าที่บอกว่าหมดอายุไปในปี 2561 มาจากพาสปอร์ตของไทย แต่ขณะที่อาศัยในกัมพูชา ตาร์ ใช้ พาสปอร์ตของกัมพูชา ในการเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง แต่เราได้รับการปฏิเสธจากทางกัมพูชาว่าวันที่หายไม่ได้อยู่ที่นั่น"
นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมด้วยทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้นำหลักฐานนี้ไปให้การกับกองคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และ พ.ต.อ.กู้เกียรติ เจริญบุญ พนักงานฝ่ายสืบสวนสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ที่สำนักงานคดีอาญาตลิ่งชัน เพื่อให้การเพิ่มเติมจากเอกสารจำนวน 100 หน้า พร้อมคำให้การที่ส่งให้กับ นายกฤษฎา กสานติกุล รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา
"เราไปยื่นเอกสารที่ดีเอสไอและอัยการ เพราะเราไม่ได้รับความคืบหน้าจากศาลกัมพูขา เขาไม่ใส่ใจกับข้อมูลที่เราเสนอ จึงมาพึ่งคนไทย และยืนยันว่า วันเฉลิม หายไปนอกราชอาณาจักร อัยการสูงสุดจึงมีอำนาจหน้าที่สืบสวนว่า การหายไปของกัมพุชา ได้หายไปจริง"
น.ส.พรเพ็ญ​ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยเหตุผลที่นำหลักฐานทั้งหมด ยื่นต่อ ดีเอสไอ และอัยการสูงสุด ซึ่งมีทั้งข้อความทางไลน์ ในวันเกิดเหตุ ภาพคลิปวีดีโอ ที่มีรถสองคัน มีชายคล้ายผู้รักษาความปลอดภัยของคอนโด เข้ามาที่รถ ที่พบวันเฉลิม ถูกผลักขึ้นรถ มีภาพกล้องวงจรปิดพบรถขับมุ่งหน้าไปทางชายแดนไทย ผ่านกัมปงจาม รวมทั้งคลิปวีดีโอที่มีประจักษ์พยานถ่ายไว้ขณะเกิดเหตุการณ์ สอดคล้องกับคำบอกเล่าของ สิตานัน ที่คุยกับ วันเฉลิม ในเวลานั้น แต่คิดว่าน้องชายเกิดอุบัติเหตุ
"เราอยากให้ราชการไทยเชื่อว่า วันเฉลิม อยู่ที่กัมพูชาในวันเกิดเหตุ พักอาศัยอยู่ที่นั่น ตั้งแต่ ปี 2557 โดยเดินทางเข้าออกด้วยพาสปอร์ตกัมพูชา และมีตัวตนอยู่จริงในวันที่ 4 มิ.ย.63 ที่ถูกอุ้มหายไป" น.ส.พรเพ็ญ กล่าว
สำหรับหลักฐานสำคัญประกอบด้วย
1.หนังสือเดินทางไทย ชื่อ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ วันที่ออก 17 JUL 2013 วันที่หมดอายุ 16 JUL 2018
2.หนังสือเดินทางกัมพูชา ชื่อ SOK HENG ภาพนายวันเฉลิม วันที่ออก 21 AUS 2015 วันที่หมดอายุ 21 AUS 2025
3.หนังสือบันทึกข้อความ ของ กก.3 บก.ปอท. ลงวันที่ 24 มิ.ย.2561 รายงานผลการสืบสวน ตรวจสอบเพจเฟสบุ๊กชื่อ "กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษินแน่ๆ" ซึ่ง ปอท. เคยดำเนินคดีกับเพจนี้ ตามคดีอาญษที่ 55/2560 น่าเชื่อว่า นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เกี่ยวข้องกับเฟสบุ๊คดังกล่าว โดย พ.ต.ท.พันธุ์ล้าน ปฐมพรวิวัฒน์ สว.กก.3 บก.ปอท.ได้ดำเนินการสืบสวนข้อมูลเพิ่มเติม กรณีถิ่นที่อยู่น่าเชื่อว่า นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หลบหนีอยู่ต่างประเทศ
รายละเอียดตามภาพ ที่ระบุข้อความว่า
ภาพที่ 1.ใช้รถแท็กซี่ทะเบียน 25-8194 ในวันไปรับและวันไปส่ง น.ส.ประกายดาวฯ
ภาพที่ 2.ภาพและข้อความว่า Mekong Garden Apartment & Condo
ภาพที่ 3.แผนที่ Mekong Garden Apartment & Condo ตัวเมืองพนมเปญ
ภาพที่ 4.สภาพทางเข้า Mekong Garden Apartment & Condo
ภาพที่ 5.มีข้อความว่า วันที่ 15 ก.พ.59 รถแทกซี่กลับมาที่ Mekong Garden
4.รายงานผลการสอบสวนความผิดซึ่งมีโทษตามกฏหมายไทยได้กระทำลงนอกราชอาณาจักร ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ หรือ ปอท.ส่งถึงอัยการสูงสุด ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2563 ระบุว่า
จากการที่ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ ปอท.ให้ดำเนินคดีกับเฟสบุ๊กเพจ "กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ" ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานทำให้เสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ
ปอท.ได้สอบสวนรวบรวมหลักฐานในคดีนี้ทราบว่า ผู้ดูแลระบบดังกล่าว คือ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ต่อมามีหมายจับ ลงวันที่ 25 มิ.ย.2561
โดยผู้ต้องหามีถิ่นที่ประเทศกัมพูชา และไม่มีข้อมูลการเข้าประเทศ จึงเชื่อว่า การกระทำความผิดดังกล่าวได้กระทำนอกราชอาณาจักรไทยและเกี่ยวข้องกับราชอาณาไทย ซึ่งการกระทำความผิดที่มีโทษตามกฏหมายไทยได้กระทำนอกราชอาณาจักรไทย เป็นกรณีที่ต้องดำเนินการตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20
5.เอกสารคำสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 44/2557 ที่มีชื่อ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์
น.ส.สิตานัน ระบุว่า พยานหลักฐานที่มีครบถ้วน ขึ้นอยู่ว่าทางการไทยจะมองอย่างไร การไปยื่นต่อ ดีเอสไอ ทางดีเอสไอบอกว่า 6 เดือนจะให้คำตอบ เราจึงต้องติดตามว่า เขาปฏิบัติด้วยความจริงใจหรือไม่อย่างไร
"หลักฐานการติดตามตัวนั้น ทางการไทยจะปฏิเสธการรู้เห็นไม่ได้ หน่วยงานติดต่อกัน ระบุว่า วันเฉลิมอยู่กัมพูชา เราเชื่อว่า ทางการไทยและกัมพูชา ทราบว่า ไม่ว่าจะทางนิตินัย พฤกตินัย ต้อง ขอเอกสาร ทางต.ม. สายการบิน ตรวจสอบได้ ทางกัมพูชาน่าจะมีเอกสารเข้าออก ซึ่งเรามีแต่สำเนาในการจองตั๋ว แต่เราไม่พบพาสปอร์ต เพราะเราเข้าห้องพักของวันเฉลิมไม่ได้ เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไป"
น.ส.พรเพ็ญ เห็นว่า ถ้าใช้ความร่วมมือระหว่างประเทศ คดีอาญา สามารถขอเอกสารได้ว่า นายวันเฉลิม อาจจะมีชีวิตที่ไหน นั่นคือความหวัง ที่อยากให้อัยการสูงสุด เชื่อว่า มีเหตุบังคับสูญหายเกิดขึ้นจริง อยากให้รับทำคดี และให้ ดีเอสไอ เป็นพนักงานสอบสวน บุคคลที่เกี่ยวข้องในประเทศและนอกราชอาณาจักร
"วันเฉลิมไม่ได้มีเหตุโกรธเคืองในกัมพูชาเลย เรื่องธุรกิจ ไม่ใช่สาเหตุให้ วันเฉลิม สูญหาย กักขังหน่วงเหนี่ยว แต่อาจมาจากทางการเมือง แนวคิดทางการเมืองในไทย อยากให้ อัยการสูงสุด ดีเอสไอ กระทรวงการต่างประเทศ ค้นหาความจริงในคดีนี้ กลไกของไทย ต้องทำ นำผู้กระทำผิดมาลงโทษ"
น.ส.พรเพ็ญ เปิดเผยว่า หลังไปไต่สวนที่ศาลกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.63 และส่งเอกสารไปเพิ่มเติม จนวันนี้เป็นเวลา 3 เดือนกว่าแล้วยังไม่คืบหน้า ในขณะที่วันเฉลิม หายไป 9 เดือนแล้ว จึงอยากให้ราชการไทยไปติดตาม และอยากเห็นความจริงใจในการสืบสวนสอบสวนไม่ปกปิดข้อมูล
"ทางอัยการสูงสุด ขอใช้เวลาศึกษาว่าเชื่อหรือไม่ว่าเป็นการกระทำนอกราชอาณาจักร ซึ่งยังไม่มีเลขคดีในฝั่งไทย มีแต่ในกัมพุชา ที่มีความหวังน้อย เพราะเขาปฏิเสธหลายๆด้าน การติดตามของทนายกัมพูชา ไม่มีความคบหน้าใดๆทั้งๆที่ เราสามารถสอบพยานได้หมด แต่ติดขัดไม่มีความคืบหน้า ต้องขอให้อัยการสูงสุด ช่วยเหลือเป็นคดีอาญาระหว่างประเทศ" น.ส.พรเพ็ญ กล่าว
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #วันเฉลิม #อุ้มหาย #Saveวันเฉลิม

https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/2943974482519599