ไม่ว่าคนถืออาวุธควบคุมฝูงชน จะกระทำกับพวกเขาอย่างชั่วช้าเพียงใด ‘ราษฎร’ ที่ยังอยู่นอกคุกยังคงยืนยงและยืนหยัดตามข้อเรียกร้องสามอย่างไม่เปลี่ยน ซ้ำเพิ่มมากกว่า นอกจากประยุทธ์ออกไป เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ และแก้ไขประพฤติกษัตริย์แล้ว
ต้องปล่อยเพื่อนเราด้วย ‘เพื่อนเรา’ ซึ่งล่าสุด คืนวันที่ ๒๐ ต่อเช้า ๒๑ มีนา ๖๔ ที่ ตชด.ภาค ๑ ถูกกระทำอย่าง ‘๕ เหว’ จากเหล่า คฝ.ที่ได้สมยาใหม่ว่า ‘ควายฝูง’ ตามบันทึกการจับกุม เขียนโดย Yo Pongsathon Sonpechnarintr ในกลุ่ม ส.ส.ก้าวไกล
ส.ส.เบญจา ส.ส.มิ้นต์ สุทธวรรณ และเลขาธิการพรรค ต๋อม ชัยธวัช ตามไปยังสถานที่กักกันของ ตชด.ปทุมธานี กลางดึกคืนนั้น มีผู้ถูกจับกุมชุดแรกอยู่แล้ว ๗ คน ชุดที่สองตามไปอีก ๑๒ คน “เห็นสภาพที่ทุกคนถูกรัดมือไพล่หลังให้เดินลงรถอย่างยากลำบาก
บางคนเดินกระเผลกเนื่องจากโดนตีจนเจ็บขา ก้าวลงรถสูงๆ แทบจะล้ม บางคนโดนตีหัว หลายคนมีร่องรอยถูกทำร้ายทั้งตัว ลงรถมาทั้งหมด ๑๑ คนสอบถามได้ความว่าอีกคนบาดเจ็บหนักอยู่ที่โรงพยาบาล” ระหว่างการตรวจร่างกายพบว่า
“ส่วนใหญ่โดนทำร้ายหลายจุดบางคนมีรอยกระบองเต็มตัว บางคนไม่ได้มาชุมนุมก็ถูกจับ ลุงคนหนึ่งอยู่บริเวณที่ชุมนุมกำลังจะขี่มอไซค์ไปรับน้อง ถูกทุบตีแล้วลากตัวมาโดยไม่รับฟังใดๆ เยาวชนคนหนึ่งผ่านมาซื้อดอกไม้ก็ถูกทุบตีแล้วจับกุมตัวมา”
...หนึ่งในเยาวชนที่เราคุยด้วยคนหนึ่งถูกกระสุนยางยิงถึง ๗ นัด น้องบอกว่าโดนเกราะ โดนหมวกไป ๕ โดนไหล่โดนขาเป็นรอยเห็นชัดอย่างละจุด...เราได้คุยกับทีมสันติวิธี ๒ คน บอกว่าพวกเขาอยู่ที่จุดสะพานวันชาติ เห็นคนถูกทำร้ายบาดเจ็บจึงต้องเข้าไปช่วยเหลือ”
เนื่องจากทีมแพทย์ถูกบล๊อคเข้าพื้นที่ไม่ได้ ทั้งสองคนก็ถูกตีและล๊อคตัวมา” ส่วนชุดที่สามถูกจับมา ๑๐ คนได้รับแจ้งว่าจะไม่ดำเนินคดี ให้เปรียบเทียบปรับ และเข้าแถวอบรมก่อนปล่อย ทั้งหมดที่เขาเล่ากะจะยื่นกรรมการสิทธิฯ แต่ไม่รู้ยังทำงานกันอยู่หรือเปล่า
ทางด้านกลุ่ม ญาติวีรชนพฤษภาทมิฬ ๓๕ และ ๓๐ องค์กรประชาธิปไตย ประกาศเอาจริง “รวมพลังไล่ ‘ประยุทธ์’ ก่อนกลียุคสงครามกลางเมือง” มีตัวตั้งตัวตีนักกิจกรรมรุ่นใหญ่ อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ สมชาย หอมลออ และจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นอาทิ
นัดอภิปรายเข้มข้น ๒๖ มีนานี้ ที่ห้องประชุมสมาคมนักข่าว สามเสน ชั้นสาม ยืนยัน “เงื่อนไขความรุนแรงกำลังสะสมรอวันสุกงอมจากทุกพื้นที่บนผืนแผ่นดินนี้...หากประชาชนไร้ทางออก สถานการณ์อาจลุกลาม...จับอาวุธเข่นฆ่ากันเอง”
ไม่หวาดเสียวเท่าก็เป็นการชุมนุมครั้งสำคัญ ปักหมุดคณะราษฎรรุ่นใหม่ใต้สะพานรถไฟฟ้า ราชประสงค์ คืนวันที่ ๒๔ มีนาแน่นขนัด มีเวทีปราศรัย มีการ์ดรักษาความปลอดภัย ไม่มี ‘คอนเทนเนอร์’ มีแต่รถฉีดน้ำจอดกระมิดกระเมี้ยนพอให้เห็นเลาๆ
“ไม่มีการเคลื่อนขบวนไปไหน...ไม่มีท่าทีพร้อมปะทะพร้อมปราบ” มีแต่ “สารพัดป้าย สารพัดสัญลักษณ์ทางการเมืองกลับมา คนที่ดูหน้าตาวัยรุ่นเริ่มกลับเข้ามา” หลังสิ้นสุดการชุมนุมอย่างเรียบร้อย เสียงชื่นชมจากฝ่ายประชาธิปไตยกระหึ่ม
ต่อคำปราศรัยของ ‘มายด์’ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล อันเป็นที่โจษขานว่านั่นคือหมุดหมายเก่าปักใหม่แน่นหนา เต็มไปด้วยความจริงแห่งสถานภาพสังคมไทยวันนี้ ที่บางคนอาจเรียกว่า ‘ราษฎรสอนคิง’ แต่หลายคนยอมรับว่านี่คือ เด็กรุ่นใหม่สอนสลิ่มสูงวัย
ไม่ว่าจะเป็นการ เรียนประชาชนที่เคารพ เรียนฝ่ายอนุรักษ์นิยมหลากหลายท่าน และถวายคำกราบบังคมทูลถึงกษัตริย์ ถึงเรื่อง “รักอย่างไม่มีเงื่อนไข” กับ “การแลกครั้งนี้คุ้มแล้วใช่หรือ...เพราะต้องตามใจคนเพียงคนเดียว” และ “ความโลภนี้เกินพอดีหรือเปล่า”
เธอว่าขอพูดในนามของประชาชนคนธรรมดา “ท่านควรครองตนเพื่อเป็นภาพลักษณ์ที่ดี...คนรอบตัวท่านอาจไม่มีความกล้าหาญพอที่จะตักเตือนท่านอย่างตรงไปตรงมา” แต่กัลยาณมิตรผู้น้อยใคร่เตือน ท่านคะ “ท่านกำลังเสี่ยงหมดหน้าตัก”
ใครบางคนข้างๆ ผู้บันทึกคลิปหลุดคอมเม้นต์ “จะฟังรู้เรื่องหรือเปล่าไม่รู้” แต่มายด์ไม่วายขอให้ “ท่านต้องคิดดู” ต่อกรณีความจำเป็น “แก้ไขในสามหัวข้อ” ได้แก่หนึ่ง “ท่านคะ หนึ่งประเทศมีได้เพียงแค่กองทัพเดียว” สอง “ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางการเมือง”
รังแต่จะนำมาซึ่งความไม่พอใจของประชาชน แล้วยังข้อสาม “ทรัพย์เท่าที่มีอยู่ ใช้เท่าไรก็ยังใช้ไม่หมด ทรัพย์สมบัติของชาติที่ท่านเอาไป ซึ่ง ณ ปัจจุบันอยู่ในนามของท่าน ก็ขอให้โอนกลับคืนสู่ประชาชนเสียโดยไว...อย่าให้ต้องเกิดการแย่งชิง”
แถมด้วยโคลงสี่อย่าง ‘สุภาพ’ “หากยังอยากหยุดยั้ง ก่อนช้า มิให้ทุกสิ่งพัง พินาศ ดับสูญ พสกราษฎร์ทั่วหล้า แซ่ซ้อง ยินดี”
(https://www.facebook.com/104134454728017/posts/262850798856381/, https://www.facebook.com/Noppakow.kong/posts/1036729336735495, https://www.facebook.com/PeaceNewsOfficial/posts/1370293183338055 และ https://www.facebook.com/psonpechnarintr/posts/4406581169358946)