วันพุธ, ธันวาคม 06, 2560

'ออเรเคิล' สร้างโรงเรียนสาธารณะออกแบบไฮเท็คในแคมปัส :สิ่งดีๆ เราเอามาฝาก คสช.

นี่ไม่ใช่ ‘kowtow’ หรือนบนอบตอบรับการใช้อำนาจเผด็จการทางปกครองของ คสช. แต่ต้องการแสดงว่าไม่ใช่เอาแต่ด่าอย่างเดียว เรามีสิ่งดีๆ มาฝากคั่นเวลา แล้วจะกลับไปด่าต่อ เพราะสิ่งเลวๆ ของ คสช.ยังมีอีกเยอะ

ถ้า คสช.เองยังจำได้ เคยคุยไว้ว่าจะพัฒนาประเทศไทยไปสู่ ๔.๐ หนุนเศรษฐกิจดิจิทัล ดันธุรกิจสต๊าร์ทอัพ และน้อมรับคำแนะนำของธนาคารโลก ในเป้าหมายพัฒนาพลเมือง ๔.๐ นั่นคือเสริมสร้างแรงงานโลกาภิวัฒน์ให้ทัดเทียมบางประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลย์เซีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้

ไหนๆ คสช. ก็จะบงการชีวิตคนไทยไปอีกอย่างน้อย ๒๐ ปี หรือแม้แต่ครองเมืองต่อไปอีกสี่ซ้าห้าปี (ขณะที่ฝ่ายต่อต้านก็ช่างอึดทน) การเริ่มต้นพัฒนาการศึกษาในแนวที่จะกล่าวต่อไปนี้ จะทำให้ผลลัพท์เบื้องหน้า ไม่เสียของหรือเหลือแต่ดราม่าแห่งรสนิยม ไฮเอ็นด์ ต่อนาฬิการิชาร์ด มิลล์

น่าที่จะรับไว้ใส่หัวต่อแบบอย่างหนึ่งในการพัฒนาทางการศึกษา ให้ได้ประชากรวัยเข้าสู่ตลาดแรงงานที่มีทักษะสูงทางด้านอีเล็คโทรนิค ศักยภาพของไทยอาจจะยังไม่ถึงขั้นทำได้ตามแนวทางต่อไปนี้ในเร็ววัน แต่การเริ่มกลัดกระดุมถูกช่องตั้งแต่เม็ดต้น ย่อมทำให้ ดูดี เมื่อกลัดเสร็จเม็ดสุดท้าย

หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์คไทมส์เสนอบทความเกี่ยวกับโครงการสนับสนุนทางการศึกษาโดยบริษัทออเรเคิล ธุรกิจผลิตซ้อฟแวร์ยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งของอเมริกา เปิดพื้นที่ ๒ เอเคอร์ครึ่งภายในบริเวณที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในท้องที่เร็ดวู้ดชอร์ส แคลิฟอร์เนียภาคเหนือ ลงทุน ๔๓ ล้านดอลลาร์ก่อสร้างโรงเรียนระดับมัธยมปลายที่เน้นทักษะทางด้านไฮเท็ค

นี่ไม่ใช่โรงเรียนเอกชนเน้นทักษะพิเศษเฉพาะด้านแบบที่มีมาบ้างแล้ว เช่นโรงเรียนด้านเครื่องยนต์รถของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ หรือโรงเรียนเทคโนโลยี่อวกาศของบริษัทสเปชเอ็กซ์ หากเป็นโรงเรียนหลวง หรือ public high school (เรียนฟรี) แห่งแรกภายในแคมปัสของบริษัทไฮเท็ค

ออเรเคิลนอกจากจะออกค่าก่อสร้างอาคารเรียน ที่จุนักเรียนมัธยมปลายไม่น้อยกว่า ๕๕๐ คนของ Design Tech High School แล้ว ยังยินดีที่จะจ่ายค่าบำรุงรักษาอาคารและบริเวณรายรอบ โดยเก็บค่าเช่าสถานที่จากโรงเรียนปีละ ๑ ดอลลาร์ และให้ใช้รถบัสของบริษัทในการรับส่งนักเรียนไปกลับประจำวัน

เขตการศึกษาของท้องที่เร็ดวู้ดส์จะเป็นผู้ดำเนินการโรงเรียน ดี-เท็คไฮแห่งนี้ อย่างอิสระเฉกเช่นโรงเรียนสาธารณะมัธยมปลายทั่วไปในสหรัฐ มีคณะกรรมการโรงเรียนของตัวเอง จัดจ้างครูผู้สอนเอง และกำหนดหลักสูตรเอง
ออเรเคิลเพียงแต่อำนวยความสะดวกทางการค้นคว้าศึกษาของนักเรียน โดยให้พนักงานช่วยติว ให้คำแนะนำ และเสริมทักษะที่นักเรียนต้องการ บริษัทยังปรับปรุงอาคารออกกำลังกายของพนักงานให้เป็นสนามฝึกบ้าสเก็ตบอลของทีมโรงเรียนด้วย

นอกนั้นออเรเคิลยังจัดให้มีการสอนวิชาทักษะพิเศษเกี่ยวกับเท็คโนโลยี่ขั้นสูงสำหรับนักเรียนที่สนใจอาทิตย์ละสองครั้งโดยไม่ต้องจ่ายค่าสมัครเรียน โดยจัดพนักงานของออเรเคิลเป็นผู้สอน หากนักเรียนคนใดคิดค้นแอ็พพลิเกชั่นหรือระบบการใช้คอมพิวเตอร์ใหม่อย่างใดๆ ขึ้นมา ทรัพย์สินทางปัญญานั้นจะเป็นของนักเรียนผู้ค้นพบ

อย่างไรก็ดีมีกรรมการโรงเรียนบางคนเป็นกังวลว่า การที่โรงเรียนเข้าไปอยู่ในแคมปัสของบริษัท จะทำให้วัฒนธรรมองค์กรของออเรเคิลมีอิทธิพลต่อการพัฒนาทางความคิดของนักเรียนไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะที่ออเรเคิลเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทางไฮเทคแห่งหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจและการตลาดอย่างหักหาญ

คอลลีน แคสสิตี้ ผู้อำนวยการบริหารของมูลนิธิเพื่อการศึกษาออเรเคิล ไขข้อข้องใจว่าการจัดสร้างโรงเรียนดี-เทคไฮนี้เป็นโครงการเพื่อการกุศลสาธารณะแท้ๆ ไม่มีเป้าหมายในการผลิตพนักงานให้แก่ออเรเคิลเองเลย

“แต่ถ้าเมื่อเด็กเรียนจบแล้วอยากจะทำงานกับออเรเคิล เราก็จะยินดีอย่างยิ่ง ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ทั้งนั้น”

แท้จริงแล้วการให้อิสระแก่นักเรียนนั้นเริ่มตั้งแต่การออกแบบอาคารเรียนนั่นเลยทีเดียว ในฐานะที่ ดี-เท็คไฮ เป็นโรงเรียนไฮสกูลของท้องที่ตั้งอยู่ที่เขตมิลแบรมาก่อน โรงเรียนก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. ๒๐๑๔ เป็นมัธยมปลายชนิดพิเศษที่เน้นการออกแบบทางเทคโนโลยี่ เดิมมีนักเรียนแค่ ๑๓๙ คน

ออเรเคิลเสนอสร้างอาคารให้ภายในแคมปัสบริษัทเมื่อปี ๒๐๑๖ เมื่อเป็นที่ตกลงกันแล้ว ออเรเคิลจัดให้ตัวแทนนักเรียนมาให้ความเห็นในการออกแบบอาคารร่วมกับสถาปนิก

ผลออกมาได้กรอบของบุคคลิกอาคารเรียนว่า “เราไม่ต้องการให้เหมือนโรงเรียนไฮสกูลทั่วไป เราอยากได้รูปทรงแบบตึกที่ทำการบริษัทไฮเท็คมากกว่า” จึงได้อาคารหรูทรงโค้งสองชั้น เต็มไปด้วยผนังกระจกโครงโลหะแห่งนี้



แบบอย่างเช่นนี้ น่าจะนำไปใช้กับโครงการประชารัฐของ คสช. ให้พวกเจ้าสัว นายแบ๊งค์ ที่ได้รับลากตั้งเป็นกรรมการปฏิรูปทั้งหลายสำเหนียกกันไว้บ้าง