วันอังคาร, มีนาคม 14, 2566

ความในใจของ "คนไม่เป็นกลาง"


Suchart Sawadsri
19h ·
เมื่อคืนฝนตก
ผมไม่เป็นกลาง และไม่เป็นมาในทุกครั้งที่เกิดรัฐประหาร 2514 2519 2534 2549 2557 ดังนั้นจึงแปลกใจที่เห็น "คนเป็นกลาง" ทั้งในแวดวงและนอกแวดวง ในทุกครั้งที่เกิดการทำรัฐประหาร ( ดังที่เกรียนว่า "ทำเนียน" "ทำเบลอ" "ทำเมิน" ) เท่าที่ผ่านมา แม้ผมจะเคยขึ้นเวทีเสื้อเหลืองไปแสดงความเห็นในช่วงต้นปี 2549 โดยบอกว่า "ทักษิณคือตัวปัญหา" แต่เขาก็อยู่ในครรลองของ "ประชาธิปไตย" มาตั้งแต่ต้น และการได้คะแนนเสียงถล่มทลาย ก็หาใช่ปัญหาไม่ ตราบใดที่ยังอยู่ในครรลองของวิถีและวิธี "ประชาธิปไตย" ไม่ชอบใจในปัญหาใดๆ ก็รอจนครบวาระแล้วไปเรียนรู้ โดยการลงคะแนนเสียงครั้งต่อไป แต่ไม่ใช่ใช้วิธีสามานย์ เช่นการยุบพรรค และหรือที่สามานย์ที่สุด คือการใช้กำลังก่อการรัฐประหาร ) ดังนั้นเมื่อเกิดรัฐประหารในเดือนกันยายน 2549 ตัวปัญหาที่แท้จริงจึงปรากฎ คือไม่ใช่ทักษิณอีกต่อไป โดยย้ายฐานแห่งความรับผิดชอบมาตกอยู่กับ คมช. และพวกที่สมรู้ร่วมคิดกันทำรัฐประหาร และเมื่อรัฐประหาร ปี 2549 ทำไม่สำเร็จ ไม่เกิดผลตามที่ประสงค์ของใครคนหนึ่ง ( ใครก็รู้กันอยู่ โดยไม่ต้องตายก่อน ) คำว่า "ตัวปัญหา" ที่เป็นพวกเดียวกัน และ "จำพวกเดียวกัน" ก็พากันมาปรากฎอย่างเห็นชัดมากขึ้นในอีก 9 ปีต่อมา คือจากการสมรู้ร่วมคิดกัน "เป่าขลุ่ย เป่านกหวีด" ของขบวน กปปส. และ พธม.บางส่วน รวมทั้งพรรคการเมืองบางพรรคที่เปิดทางให้ คสช.ทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และสร้างความสามานย์ที่เรียกว่า "รัฐธรรมนูญ 2560" ขึ้นมา
ดังนั้น ตราบใดที่ "3 ป" กับบรรดาลิ่วล้อทั้งหลาย เช่น กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ "ส.ว.ลากตั้ง" กก. ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี กก.วัฒนธรรมแห่งชาติ กก.สิทธืมนุษยชน ฯลฯ ที่จำบังมาพร้อมกับคณะ "รัฐประหาร" ทั้งจากเมื่อปี 2549 และ 2557 ยังปรากฎสืบทอดอำนาจอยู่ต่อไป คำว่า "ประชาธิปไตย" ก็เป็นเพียงการจำแลงแปลงกาย หรือแม้แต่คำว่า "ประชาธิปไตยที่เหมาะสม" ของทักษิณเคยบอกไว้เมื่อไม่นาน มันก็คือการจำบังอย่างหนึ่ง เหมือนเช่นคำว่า Guided Decmocracy ของประธานาธิบดีซูการ์โน เมื่อทศวรรษ 2500
บรรดาจำบังร้อยแปดที่มากับ "ครรลองรัฐประหาร" เหล่านี้ต่างหากที่คือ "ตัวปัญหา" โดยแท้ หาใช่ "ทักษิณ/ยิ่งลักษณ์" "ธนาธร/ปิยะบุตร" และหรือหาใช่การยุบพรรค "ไทยรักไทย" "อนาคตใหม่" ที่มาตาม "ครรลองประชาธิปไตย" แต่ประการใดไม่ ( แต่ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ที่จำบังอำนาจของประชาชนไว้ต่างหากที่สร้างความสับสนให้เกิดขึ้น )
การยึดอำนาจรัฐประหาร ไม่ว่าจะมีข้ออ้างสวยหรูประการใด มันก็คือการรุกรานทางอำนาจประเภทหนึ่ง กล่าวคือเป็นการรุกรานจิตวิญญาณประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
และในการรุกรานดังกล่าว ไม่ว่าจะจำบังอำนาจมาในรูปของสถาบัน หรือองค์กรใดก็ตาม มันย่อมหามี "ความเป็นกลาง" ไม่ เพราะมันคือ "ตัวปัญหา" ที่สร้างความคลุมเครือและความสับสนให้เกิดขึ้นทั้งจากการรู้เห็นเป็นใจ และจากการทำตัว "เป็นกลาง" อ่านธรรมะปลอบใจไปวันๆ และมันจะเป็น "ตัวปัญหา" ต่อไปไม่สิ้นสุด ตราบใดที่ยังไม่ร่วมกันสร้าง "ครรลองแห่งจิตวิญญาณประชาธิปไตย" ที่เห็นจิตวิญญาณ "คนเท่ากัน" ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นจริง
--------
หมายเหตุ : งานสร้าง 2 ชิ้นที่มอบให้ iLaw เพื่อนำไปประมูลในเวลานี้ มีชื่อว่า "ด้านมืด" ( The Dark Side ชื่อเดิม "ปรสิต" ) และ "ในตาลึกลับ" ( The Myterious Eye ชื่อเดิม "นํ้าเงินเข้ม" ) เป็นงานแบบนัวร์ๆ คงอาจไม่เหมาะที่จะมองแล้วสบายใจสบายตา ก็คงเหมือนเช่น "สถานการณ์" ในปัจจุบันที่ก็ยังคลุมเครือ ไม่แน่นอน ไม่ว่าใครจะแลนสไลด์แบบไหนก็ตาม