Chotisak Onsoong
8h
หลายคนมักคิดว่าคนรวยคืออุปสรรค์สำคัญที่สุด เป็นคนที่ต่อสู้อย่างแข็งขันที่เพื่อขัดขวางการจัดสวัสดิการคนจน
ความจริงแล้วความคิดนี้ถูกแค่ครึ่งเดียว, คนที่เป็นอุปสรรค์ที่สุด ออกหน้ามาคัดค้านอย่างแข็งขันที่สุดจริงๆแล้วคือคนรวย หรือส่วนใหญ่ก็แค่พอมีพอกิน ที่เคยจน เคยลำบาก มาก่อน
(คือพวกที่เป็นหัวหอกจริงๆไม่ใช่คนรวยทั่วๆไป แต่คือคนรวย หรือคนพอมีพอกิน ที่เคยจนมาก่อน)
มันเป็นเรื่องตลกร้ายที่แทนที่คนกลุ่มนี่จะเห็นใจคนจน เข้าใจความยากลำบากของคนจน ซึ่งตัวเองเคยเป็นมาก่อน มีประสบการณ์ตรงมาก่อน
แต่เปล่าเลย คนพวกนี้กลับทำตรงข้ามซะงั้น
ทำไมนะเหรอ?
ในด้านนึงพวกนี้มักคิดว่าถ้ากูทำได้คนอื่นก็ต้องทำได้
และไอ้พวกที่ทำไม่ได้มันคือพวกขี้เกียจ พวกโง่ พวกไร้ความสามารถ พวกไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งสมควรแล้วที่จะลำบากต่อไป
โดยที่คนเหล่านี้ไม่เคนคิดเลยกว่าการที่คนเคยจนแต่ละคนจะประสบความสำเร็จหรือไม่มันมีปัจจัยต่างๆมากมาย ไม่ใช่แค่เรื่องความสามาถของปัจเจกเพียงอย่างเดียว
บางคนอาจมีญาติอยู่ในเมือง บางคนอาจมีหลวงลุงหลวงน้าในวัดในเมือง ให้มาขอพักอาศัยได้ กับคนที่ไม่มีอะไรเลย ช่องทางก็ต่างกันมากแล้ว
นี่ผมยกตัวอย่างชีวิตของคนยุค 50-60 ปี ที่แล้วนะ
ปัจจุบันก็อาจมีรูปแบบต่างกันออกไป
หรืออย่างหลายปีก่อนผมเคยดูรายการทีวีที่พูดถึงชีวิตของอดีตเด็กไร้บ้าน ที่ดิ้นรนจนเป็นข้าราชการใช้ผู้ใหญ่ (อธิบดีหรือปลัดกระทรวงหรือไงนี่แหละ)
ปรากฏว่าจุดเปลี่ยนจริงๆคือมีคนใจดี (และคงรวยระดับหนึ่ง) รับไปอุปการะส่งเสีย
ซึ่งถามว่าในบรรดาเด็กไร้บ้านในประเทศนี้มีซักกี่คนที่มีโอกาสแบบนี้?
ส่วนในอีกด้านหนึ่งคนพวกนี้ก็จะคิดว่ากูลำบากมาก่อนกว่าจะถึงจุดนี้ คนจนอื่นๆถ้าจะมาถึงจุดเดียวกับกูก็ต้องผ่านด่านมาแบบกูสิ
โดยที่คนพวกนี้ไม่เคยคิดเลยว่าสังคมทุกวันนี้ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน
เรามีเทคโนโลยีดีขึ้น ผลิตภาพสูงขึ้น มีความจำเป็นอะไรที่คนรุ่นหลังต้องลำบากเหมือนคนรุ่นเดิม?
เราเคยได้ยินเบบี้บูมเมอร์บ่นเด็กรุ่นใหม่มั้ย?, เด็กสมัยนี้มันสบาย สมัยก่อนต้องเดินลุยทางเกวียน ไม่มีได้นั่งรถหรอก บลาๆๆๆ อัยนี้แปลว่าคนร่นใหม่ทุกวันนี้ควรกลับไปลำบากลุยทางเกวียนเหมือนเดิมเหรอ? ถ้าไม่ไปลำบากแบบนั้นแปลว่าเอาเปรียบคนรุ่นก่อนเหรอ?
เราต้องทุบถนนลาดยางทั้งหมดเพื่อจะได้กลับไปลำบากแบบสมัยก่อนมั้ยล่ะ?
ออ แล้วที่สำคัญ เวลาคนพวกนี้คิดว่าคนอื่นๆควรผ่านด่านทดสอบความสามารถมาแบบกู ใครจะมีฐานะควรต้องถูกทดสอบมาแบบกู พวกนี้จะสนใจใช้เรื่องนี้กับคนจนเท่านั้น
แต่กับคนที่เกิดมารวย ซึ่งไม่เคยต้องทดสอบอะไรในลักษณะนั้น พวกนี้จะเฉยๆมาก ไม่เคยคิดว่ามันไม่แฟร์
Chotisak Onsoong
6h
ถามจริงๆนะ พวกเสรีนิยมนี่เวลาเห็นคนจน คนที่ลำบากตามท้องถนน นี่คุณไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ?
คุณนั่งกินข้าวอยู่ในร้านอาหารติดแอร์ มองออกไปเห็นคนเหล่านั้น คุณกินต่ออย่างมีความสุขได้จริงๆเหรอ?
คุณแค่คิดว่า คนพวกนั้นมันไร้ความสามารถเอง สมควรแล้วที่จะลำบากแบบนั้น ได้จริงๆเหรอ?
ถ้ามันทำให้คุณรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง ทำให้รู้สึกว่าอาหารจานโปรด เครื่องดื่มแก้วโปรด ลดความอร่อยลงบ้าง ทำไมเราไม่มาช่วยผลักดันสวัสดิการกันล่ะ?
ไม่ต้องคิดถึงประโยชน์ที่คนอื่นจะได้รับก็ได้
ไม่ต้องคิดว่าสักวันนึงลูกหลานคุณอาจต้องพึ่งพามันก็ได้
เอาแค่ว่าถ้ามันสำเร็จคุณจะได้กินข้าวอย่างมีความสุข ไม่มีภาพชวนสลดหดหู่มาลดทอนรสชาติอาหารเครื่องดื่มของคุณ ก็พอแล้ว
เอ๊ะ หรือคุณคิดว่าควรเอาเงินไปจ้าง จนท.รัฐเพิ่ม เพื่อมาทำหน้าที่ไล่ต้อนคนเหล่านั้นไม่ให้หลงเข้ามาในระยะสายตาคุณเป็นทางเลือกที่ดีกว่า?
คนเคยลำบากลำบนมี 2 ประเภท
— กานดา นาคน้อย (@kandainthai) August 18, 2022
ก) ไม่อยากให้คนรุ่นหลังลำบากแบบตัวเอง
ข) อยากให้คนรุ่นหลังลำบากแบบตัวเอง
ใครเป็นแบบไหนน่าจะขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูว่าถูกสอนให้แสดงความยินดีกับผู้อื่นโดยไม่อิจฉาริษยาหรือไม่ ไม่น่าจะเกี่ยวกับ #การศึกษา
คนรวยมี 2 ประเภท
— กานดา นาคน้อย (@kandainthai) August 19, 2022
ก) เข้าใจว่ายิ่งคนจนน้อยลงจะมีกำลังซื้อเพิ่มทั้งประเทศ จะทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น
ข) ชอบให้มีคนจนเยอะๆ จะได้กดค่าแรง จะได้มีคนจนไว้จิกหัวใช้เป็นคนรับใช้และคนขับรถ
โชคร้ายที่ไทยมีคนรวยแบบหลังเยอะโคตรๆ เป็นคนรวยที่ชีวิตบัดซบ หาความสุขไม่ได้ถ้าไม่ได้เหยียบย่ำคนอื่น