พอเดินหน้า #ปลูกผักชีในค่ายทหาร “ไม่สนตราม่า..ไม่ได้ปลูกขายแข่งกับใคร ใครซื้อก็ซื้อ ใครไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร บางทีก็ปลูกแจกชาวบ้าน” ราคาผักชีก็ลดฮวบไปแล้ว จากโลละ ๒๐๐ ตอนนี้เหลือแค่ ๘๐ บาท ‘บูรพาพยัคฆ์’ ว่าไง
อ๋อ ก็แค่ กองพันทหารราบที่ ๑ กรมทหารราบที่ ๑๒ รักษาพระองค์ (ร.๑๒ พัน ๑ รอ.) ปลูกคะน้า โหระพา แมงลัก และผักสวนครัวอื่นๆ อีกหลายชนิด ที่ค่ายไพรีระย่อเดช ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว ไม่เฉพาะผักชีเท่านั้น
ไว้นำไปแจกจ่ายชาวบ้านในพื้นที่รอบๆ ที่ตั้งหน่วย อ้างว่า “เป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ในช่วงที่ราคาพืชผักตามท้องตลาดมีราคาสูง” แต่ก็ช้าไปเล็กน้อยไม่ทันการ ช่อง ๓ ไปทำข่าวถึงตลาดสดเทศบาลเมืองเลย พบราคาผักไม่ได้ดราม่าสักหน่อย
“กะหล่ำปลี ก่อนหน้านี้ราคา ๒๕๐ บาท/๑๐ กิโลกรัม ปัจจุบันลดลงเหลือ ๒๐๐ บาท” ยังมีผักกาดขาวกับผักชีลาว ลดลงแล้วเหมือนกัน จาก ๒๐๐ บาทเหลือ ๑๐๐ บาท กับ ๑๐๐ บาทเหลือ ๓๐ บาท หากยังให้ทหารปลูกแข่งเกษตรกรก็เท่ากับแทรกแซงตลาด
แต่ที่ยังไม่ยอมลดก็คือ ‘อัตราว่างงาน’ ในไตรมาสที่สามของปี ๒๕๖๔ มีจำนวน ๘.๗ แสนคน เพิ่มสูงสุดนับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ จำแนกตามเกณฑ์อายุพบว่า “แรงงานที่มีอายุ ๑๕-๑๙ ปี มีอัตราการว่างงานสูงสุด ๙.๗๔%
รองลงมาเป็นอายุ ๒๐-๒๔ ปี อัตราตกงานอยู่ที่ ๘.๓๕% โดยมีหนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ที่มูลค่า ๑๔.๒๗ ล้านล้านบาท ในไตรมาสที่สอง ปี ๖๔ “เพิ่มขึ้น ๕.๐% จากระดับ ๔.๗% ในไตรมาสก่อน” เลขาฯ สภาพัฒน์เป็นผู้เปิดเผย
“ทั้งนี้ หนี้สินครัวเรือนยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีสาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่สามารถขยายตัวได้ในระดับปกติ แม้ว่าทั้งปี ๖๔ เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว แต่เป็นการขยายตัวจากฐานต่ำ” ประมาณว่าตรรกะทำนองเดียวกับที่การบินไทยมีกำไร เพราะขายทรัพย์สินกิน
ไม่ต้องพูดถึง ‘เจ้าสัว’ ละนะ ขานั้นขาดทุนบ้างไรบ้าง (ผลประกอบการด้านสัญญานโทรศัพท์ของ ‘ทรู’ ถึงได้ต้องควบรวมกับดีแท็ค) แต่ความที่เครือข่ายมหาศาลหลายแขนงเกือบทุกมิติธุรกิจการค้าในไทย สามารถเอาโน่นมาแปะนี่ไม่เคยขาดสภาพคล่อง
‘บีบีซีไทย’ รายงานว่าช่วงสองปีที่ผ่านมานี่ เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ‘ซีพี’ ได้ดีลดีขนาดยักษ์ๆ สองอย่าง นอกจาก ‘ทรู’ ควบรวมค่ายสัญญานมือถือกับดีแท็ค ทำให้บริษัทใหม่ ‘ทรู-ดีแท็ค’ ได้ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งเหนือ ‘เอไอเอส’
เมื่อปลายปีที่แล้วซีพีสามารถควบรวมกิจการค้าปลีก-ค้าส่ง กวาดคู่แข่งมาไว้บนตัก ทั้งเทสโก้โลตัสและสยามแม็คโคร ทำให้รายได้รวมจาก ๓ บริษัทเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ ๙๕๓,๓๐๘ ล้านบาท “นี้ยังไม่รวมกับรายได้จากร้านค้าซีพี ‘เฟร็ซมาร์ท’ ๓๖๐ สาขา”
จำแนกรายละเอียดประกอบการ ๓ บริษัทเครือซีพี เมื่อปีที่แล้ว เซเว่นอีเล็ฟเว่น ๑๒,๔๓๒ สาขา มูลค่ารายได้รวม ๕๔๖,๕๙๐ ล้านบาท แม็คโคร ๑๓๘ สาขา มูลค่า ๒๑๘,๗๖๐ ล้านบาท กับเทสโก้โลตัส ๒,๑๖๔ สาขา รายได้รวมปี ๖๓ มูลค่า ๑๘๗,๙๕๘ ล้านบาท
ทหารปลูกผักชีไว้แจกชาวบ้านรอบค่ายน่ะหรือ ขี้ปะติ๋ว แล้วกลับดีเสียอีก ปลูกมากๆ เถอะพืชผักสวนครัว จะได้ซื้อเมล็ดพันธุ์จากซีพีมากๆ ไปด้วย
(https://www.voicetv.co.th/read/2rLm93ViY, https://ch3plus.com/news/program/266948 และ https://www.facebook.com/WassanaJournalist/posts/4680942861964135)