เสียบได้อย่างแสบโดยไม่ต้องตั้งใจ เมื่อ ‘มูลนิธิกระจกเงา’ วิงวอนสำนักเลขาฯ นายกฯ ได้โปรดบริจาคโทรศัพท์มือถือ ๑๑๑ เครื่องที่จะไม่ใช้แล้วให้เถอะ จะเอาไปให้เด็กยากจนใช้เรียนออนไลน์ หรือเป็นอุปกรณ์เสริมประสิทธิภาพการศึกษา
‘ตู่’ จะว่าไง ว่าด้วยไหม หรือทำหูทวนลม ยังไม่รู้ ตอนนี้มัวแต่กังวลเรื่อง ใจไปก่อนตรีน (และหัว) เดินสะดุดพรมหัวคะมำบ้าง เข้ารถหัวชนขอบหลังคาบ้าง ตัวแก่ใจไม่แก่ มันชอบไปข้างหน้าซะเรื่อย จะบอกว่าใจก้าวหน้าแต่กายล้าหลังน่ะเหรอ
เหมือนพวก ส.ส.พลังประชารัฐ ลูกไล่นายกฯ ขาดประชุมเป็นว่าเล่น ไปแต่ใจด้วยสิ แม้กระทั่งในญัตติร่างกฎหมายของรัฐบาล โดนฝ่ายค้านดัดหลังด้วยการนับองค์ประชุม แล้ว ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าฯ ยังจะดันทุรังต่อว่า “ฝ่ายค้านไม่สง่างาม” เสียอีก
เลยโดน ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ขอดเกล็ดล่อนจ้อน ทั่น “ไพบูลย์อาจจะกำลังสับสน ว่าตัวเองเป็น ส.ส. (บัญชีรายชื่อ) ลำดับที่เท่าไหร่ของพรรคพลังประชารัฐ เลยไม่รู้ว่าองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล” ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์@KungCNX สอนลุง
“พวกท่าน คือ ส.ส. เป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยนะคะ ไม่ใช่เป็น #ประธานบริษัท ที่จะอู้งานไปแกล้งทำเป็นยามที เป็นแม่บ้านที ให้ประยุทธ์เป็นคนเดียว” เถอะค่ะ แล้วนี่ก็บริหารประเทศกันอีท่าไหน ปล่อยเจ้าสัวกำลังกินรวบจะทั้งประเทศแล้ว
มีคนทำบันทึกกันลืมไว้ว่า ปี ๖๔ พวกนายทุน ‘กินรวบ’ กันปากเปื้อนไปตามๆ “ซีพีซื้อเทสโก้โลตัส กั๊ลฟ์ซื้ออินทัช เซ็นทรัลพัฒนาซื้อสยามฟิวเจอร์ ไทยพาณิชย์สยายปีกเป็น ‘ยานแม่’ เอสซีบีเอ็กซ์ แล้วซื้อบิทคับเข้าสู่อาณาจักรบิทคอยด์ ก่อนที่ทรูจะควบรวมดีแท็ค
ล่าสุดนี่มีแต่คนร้องยี้ว่ากินจุ กินไม่อิ่ม ก็ได้รัฐมนตรีดีอีเอสออกมาเป็น ‘ดีเฟ็นเดอร์’ พูดออกมาได้ ในต่างประเทศมีบริษัทมือถือค่ายเดียวยังได้ วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.ก้าวไกลเลยต้องเอาข้อเท็จจริงมาแจง“ปัจจุบันในทวีปเอเชีย มีเพียง ๒ ประเทศเท่านั้น”
เขาสอนมวย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ว่าสองประเทศนั้นได้แก่ เกาหลีเหนือซึ่งมีผู้ใช้มือถือเพียง ๓.๘ ล้านราย จากประชากร ๖ ล้าน อีกแห่งคือหมู่เกาะโซโลมอนที่ประชากรแค่ ๖ แสนคน นอกนั้นในยุโรปมี ๔ ประเทศ แอนดอร่า ยิบรอลต้า มอนาโค และซานมาริโน
ประเทศยุโรปเหล่านั้นประชากรสามหมื่นกว่า มากที่สุดคือแอนดอร่ามีพลเมือง ๗.๗ หมื่นคน เอามาเทียบประเทศไทยซึ่งประชากร ๖๙ ล้าน ตลาดโทรคมนาคมมีมูลค่าปีละกว่า ๖ แสนล้านบาท การควบรวมสองในสามบริษัทย่อมกระทบผู้บริโภคแน่นอน
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.ก้าวไกลอีกคนชี้ว่า ชัยวุฒิจบวิศวะใช่ไหม ดังนั้นต้องรู้จักการคำนวณค่าดัชนี ‘เฮอร์ฟินดาห์ล-เฮิร์ชแมน’ หรือ HHI ที่ใช้วัดผลลัพท์การผูกขาดตลาด “ก่อนการควบรวมก็มีค่ามากกว่า ๒,๕๐๐๐ ตามที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้ว
และหากปล่อยให้มีการควบรวม ดัชนีการผูกขาดตลาดก็จะทะลุไปถึงหลัก ๕,๐๐๐ เลยทีเดียว” เขาว่า “การแข่งขันในตลาดที่ลดลง ตลาดมีการผูกขาดมากขึ้น นายทุนมีแต่จะได้เปรียบ ผู้บริโภคมีแต่จะเสียเปรียบ เรื่องนี้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาก็ยังเข้าใจ”
ต่อไปถึงอีกเรื่องปิด ‘หัวลำโพง’ เอาที่ ๑๒๐ ไร่มาทำเชิงพาณิชย์ เพื่อล้างหนี้ขาดทุนสะสม ๑๔ ปี ค้างจ่าย ๒.๔ แสนล้านบาทไทย ดังที่ สาวิทย์ แก้วหวาน อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแฉ พรบ.การรถไฟ พ.ศ.๒๔๙๔
ว่าถ้ารายได้จากการเดินรถไฟในราคาถูก “มีจำนวนไม่พอสำหรับรายจ่าย...และการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่สามารถหาเงินจากทางอื่น รัฐพึงจ่ายให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทยเท่าจำนวนที่ขาด” แต่เหตุที่เกิดคือ “รัฐจ่ายไม่เต็มจำนวน จ่ายล่าช้า...
รัฐค้างจ่ายการรถไฟฯ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ จนถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๖๔ อยู่ที่ ๒๔๙,๓๔๗,๙๖๘,๕๑๑.๐๘ บาท” รายได้ที่หายไปเกือบสองแสนห้าหมื่นล้าน เป็นความผิดของรัฐบาลหลายชุดต่อเนื่องมาเกือบ ๑๕ ปี แต่ก็มีแผนแก้ปัญหาในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ถ้าไม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตีตกโครงการคมนาคม เมื่อ ตลก.บอกให้ไปจัดการกำจัดถนนลูกรังให้หมดไปเสียก่อน แผนการย้ายชุมทางรถไฟไปอยู่สถานีกลางบางซื่อที่แยบยล จะทำให้หัวลำโพงได้รับการปรับแต่งเป็น ‘ไอค่อน’ น่าชื่นชมไปตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว
(https://www.facebook.com/Coco.Infographics/posts/1743358459192390, https://www.facebook.com/themomentumco/posts/2839172139707805 และ https://www.facebook.com/Coco.Infographics/posts/1744210482440521)