ดูเอาแล้วกันการเตรียมงานบริหารประเทศในรัฐบาล ‘ตู่’ หลังจากที่มี ‘Judicial Coup’ ศาลรัฐธรรมนูญประกาศด้วยคำวินิจฉัย ให้การเรียกร้อง ‘ปฏิรูป’ การปกครอง (เกี่ยวกับตำแหน่งประมุข) เป็นการ ‘ล้มล้าง’ ราชอาณาจักร
ตำรวจง่วนกับการเตรียมรับมือ ม็อบ ๑๔ พ.ย. ที่กลุ่มแนวร่วม ‘ราษฎร ๖๓’ นัดหมายกันแสดงการคัดค้านคำวินิจฉัย ‘มั่วตามธง’ ของศาลรัฐธรรมนูญ พบกันบ่ายสามที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนพากันเคลื่อนย้ายไปยังท้องสนามหลวง
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลบอก ไม่ได้นะ ห้ามไปสนามหลวง “หากมีการเคลื่อนขบวนจริง เจ้าหน้าที่ก็มีความจำเป็นในการบังคับใช้กฎหมาย” ก็หมายถึงไล่จับเด็กเอาตัวไปควบคุมไว้ในคุก ตั้งข้อหาต่างๆ ตอนนี้มีกว่า ๑,๒๐๐ คดีแล้ว
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แจงสถิติการดำเนินคดีกับผู้ร่วมม็อบ ระหว่าง ๒๓ ตุลาถึง ๗ พฤศจิกา รวมทั้งหมด ๑๐ คดี ไล่ตั้งแต่ #ม็อบ20ตุลา #ม็อบ29ตุลา #ม็อบ1พฤศจิกา ในปี ๖๓ ตามด้วย “คดีของผู้ชุมนุม #ทะลุแก๊ส ๒ คดี”
จากนั้นมี #ม็อบ10สิงหา กลุ่ม “#ทะลุฟ้า – ป้าเป้า รวม ๘ ราย เหตุร่วม #ม็อบ11สิงหา ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วยังมี “คดีของนักกิจกรรมกลุ่มทะลุฟ้า ๔ ราย ถูกกล่าวหาว่าขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ใน #ม็อบ3กันยา
โดยมีจำเลย ๑ ราย คือ ‘อาทิตย์ ทะลุฟ้า’ ที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำ เนื่องจากศาลไม่ให้ประกัน อีกคน #ขจรศักดิ์ ติดคุกมาแล้ว ๓๖ วัน แต่ที่บ้านซึ่งมีมารดาอยู่ ถูกตำรวจไปรังควาญไม่เว้นแต่ละวัน เปิดเครื่องเสียงดังลั่น ใช้ถ้อยคำประจานว่าให้ระวัง บ้านนี้มีระเบิด
ส่วนการชุมนุมเมื่อวาน ๑๒ พ.ย. ของกลุ่ม ‘ราษฎรเอ้ย’ “เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีความวุ่นวาย” เกิดขึ้นสามจุดหลังห้าโมงเย็น “ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม...พลเมืองโต้กลับ ที่ศาลฎีกา และทะลุแก๊ส ที่แยกดินแดง”
สำหรับพรุ่งนี้ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมบอก เอาเรื่อง “ต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ๆ ๆ” ล้วนๆ “นี่ไม่ใช่การไล่ประยุทธ์ ไม่ใช่การยกเลิก ๑๑๒ ไม่ใช่การปฏิรูปฯ (ด้วย) จึง ไม่ใช่การล้มล้างฯ” อย่างแน่นอน
ขณะที่ปัญหาน้ำท่วมยังไม่ได้แก้ ในพื้นที่ ๑๗ จังหวัดยังต้องรอน้ำระบายหรือซึมลงใต้ดิน กำลังหนักก็สองสามจังหวัดภาคใต้ตอนบน ชุมพร สุราษฎร์ธานี และเพชรบุรี “เส้นทาง ๕ สาย น้ำท่วม ดินสไล้ด์ สัญจรไม่ได้” รวมทั้งเส้นทางรอบเกาะสมุย
แต่ว่านายกรัฐมนตรีตอนนี้หน้าชื่น รับไม้ต่อจากนิวซีแลนด์ เป็นเจ้าภาพจัด ‘เอเปค’ ในปี ๒๕๖๕ ด้วยสโลแกน “สร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง พลิกฟื้นประเทศสู่อนาคต” หากว่าถ้า โควิด-๑๙ ยอมสยบทันน่ะนะ
เห็นสาธารณสุข (โดยรองอธิบดีกรมควบคุมโรค) แถลงว่าเวลานี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ ๘๔ ล้านโด๊สเซส มากกว่าประชากรทั้งประเทศ ไม่ต้องสงสัยทำได้ไง อ๋อ ไทยเป็นประเทศแรก (อาจจะแห่งเดียว) ในโลก ที่ต้องฉีดวัคซีนแบบบางคนโดนสี่เข็ม
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร แจ้งว่า ตั้งเป้าเดือนพฤศจิกายนนี้ “จะฉีดวัคซีนให้ได้ ๑๐๐ ล้านโด๊สเซส หรือประมาณ ๕๐ ล้านคน คิดเป็นร้อยละ ๗๐ ของประชากรในทุกจังหวัด” ทั้งที่ขณะนี้ “มีผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย ๑ เข็มจำนวน ๔๕ ล้านคน หรือร้อยละ ๖๒ ของประชากร”
ดูแล้วก็งงๆ ว่าทำได้อีท่าไหน จาก ๔๕ ล้านไปถึง ๑๐๐ ล้านภายในสองอาทิตย์เนี่ย ก็ต้องเชื่อเค้าหละ อาจจะใช้พลัง ‘ยาบ้า’ ดีดแรง ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำก็ได้ ฐานที่ชื่อเดิมยาบ้าคือ ‘ยาม้า’ มีพลังขับเคลื่อนสูง เหตุที่เปลี่ยนชื่อเพราะไปตรงกับ ศิลปอาชา นายกฯ ยุคนั้น
มีคนขุดประวัติศาสตร์เอามาสร้างความหวังเรื่อง รมว.ยุติธรรม ไพบูลย์ คุ้มฉายา คิดจะถอดยาบ้าออกจากบัญชียาเสพติด “แนะต้องหัดอยู่ร่วมกับยาบ้าให้ได้” นี่ก็ใช้สูตรนักเสี่ยงเซียมซี หัดอยู่ร่วมกับไวรัสโควิดให้ได้เหมือนกัน
(https://thaipublica.org/2021/11/10-millions-have-not-gotten-covid-vaccine-yet/, https://www.komchadluek.net/news/492421 และ https://tlhr2014.com/archives/37679)