ทุกวันนี้มีแต่ “เรื่องของสภา ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล” กับ “ทหารมีไว้ปลูกผักชี ศาลมีไว้ (ก้าว) ล่วงเวลา”

‘สภาล่ม’ เพราะ ส.ส.พลังประชารัฐ พวกพรรคร่วมรัฐบาลออกมาแก้ตัวและอวดเก่งกันใหญ่ ‘เสี่ยหนู’ บอก “ไม่เกี่ยวภูมิใจไทย” ‘อู๊ดด้า’ ว่าไม่ได้หนีกระทู้สด ติดประชุม ครม. สำคัญกว่า “ไม่เคยกลัว...(เรื่องข้าว) ตอบได้แน่นอนไม่ต้องห่วง”

ถ้าอย่างนี้ ก็ปัญหามาจากรัฐบาลนั่นแหละ จะบอกว่า “นั่นเป็นเรื่องของสภา ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล คนละส่วนกัน” อย่างที่ อนุทิน ชาญวีรกูล พูด ไม่ได้ การปกครองของไทยยังไม่ใช่ราชาธิปไตยเต็มตัว แม้จะชอบอ้างว่าเป็นรัฐบาลของพระเจ้าอยู่หัวฯ

นี่คือระบอบรัฐสภา รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง เป็นกลุ่ม ส.ส.เสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ ต้องเสนอนโยบายต่อสภา และบริหารงานโดยมีความรับผิดชอบเบื้องต้นต่อสภา แล้วต่อเนื่องไปถึงประชาชนที่ ส.ส.เหล่านั้นเป็นตัวแทน

(เฮ้อ ไม่นึกว่าจะต้องมาเลคเชอร์ให้รัฐมนตรีฟังอีก) ในเมื่อต้นเรื่องมาจาก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปฉาบแสงที่กล้าสโกว์กลับมา แสงมันแรงมากดั่งแสงในตู้อบให้ผิวคล้ำ มิน่า หน้ากร้านเชียว ก็เลยเลื่อนการประชุมซึ่งปกติเป็นวันอังคารไปทับวันพฤหัสของสภา

เรื่องอย่างนี้เป็นหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายต้องประสานกันให้ดี ทั้ง ครม.และสภา เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียเวลา อารมณ์ และงบประมาณ แน่นอนละ ส.ส.ฝ่ายค้านจะต้องโกรธที่ถูกรัฐบาลเบี้ยว การโปรยข้าวและปุ๋ยลงบนพื้นสภาของ ส.ส.เพื่อไทยไม่เกี่ยวมารยาท

พิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย ก็ดีเหลือหลาย รับปากประธานสภาฯ “ขอเก็บทุกเม็ดและทำความสะอาดด้วยตัวเอง” ตามที่ ชวน หลีกภัย สั่ง ไม่เช่นนั้นเป็นงานของเจ้าหน้าที่สภาเรียกพนักงานทำความสะอาดไปเก็บกวาด

ควรแล้วที่วิปฝ่ายค้าน จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ โจมตีว่ารัฐมนตรีหลบกระทู้ หนีเรื่องเดือดร้อนของชาวบ้าน หาเหตุผัดผ่อน เลื่อนไปเรื่อยๆ ละก็อาทิตย์หน้าจะทบกระทู้ที่หายไปสามครั้งวันนี้ เป็น ๖ กระทู้สด และ “จะเพิ่มเป็นดินพอกหางหมูไปแบบนี้

จนกว่ารัฐบาลจะเห็นถึงความสำคัญ...ผมจะใช้กลไกของฝ่ายค้าน ท่านเตรียมองค์ประชุมตลอดเวลาแล้วกัน ถ้าแค่เรื่องกระทู้ถามสดด้วยวาจายังไม่มาตอบ ก็เตรียมองค์ประชุมกันทั้งวันทั้งคืน จะดูซิว่าจะมาตอบหรือไม่”

ประธานชวนจึงแจ้งว่าประสาน ครม.แล้วพฤหัสหน้า “ขอร้องล่วงหน้า และขอความร่วมมืออย่านัดอย่างอื่น” โอว ถึงขนาดต้องอ้อนวอนกันเชียวหรือ ทว่าข้ออ้างของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ว่าการประชุม ครม.มีวาระประกันรายได้เกษตรกร ยังพอกล้อมแกล้ม

แต่ว่าเมื่อนายกฯ ออกไอเดียปิ๊งแก้ปัญหาราคาพืชผลเกษตร หลังจากน้ำท่วมทำให้ผักสดราคาแพง ผักชีกิโลละ ๔๐๐ บาท ก็เลยจะให้ทหารปลูกผักชีในพื้นที่ของกองทัพ “ช่วยลดภาระของประชาชน” มีแต่คนเกาหัว พึมพำ “เอาอีกแล้ว”

พูดอะไรไม่ค่อยคิดเสียก่อน เหมือนกับว่าปล่องเสียงเป็น ‘Diarrhea’ ร่วงไหลไม่มีปี่ขลุ่ย มีแต่คนบอกว่าถึงปลูกได้กว่าผักชีจะโตก็ไม่ทันกินหรอก สิ่งที่ ส.ส.พูดในสภาน่าจะต้องใส่ใจมากกว่า ราคาข้าวเวลานี้กิโลละ ๕-๖ บาท ถูกกว่าหมี่ซองมาม่า

พูดกันมาพักใหญ่แล้วเรื่องราคาข้าวดิ่งเหว ยังไม่เห็นรัฐมนตรีหรือนายกฯ ตอบให้หายกังวลสักคน แม้นว่าคำพูดของนายกฯ อาจช่วยให้คลายเครียดได้สักอึดใจ หรือรัฐมนตรีพาณิชย์เอง (ที่กำลังระเริงกับผลโพล มสธ.ว่านำโด่งในหมู่คนกรุงเหมาะเป็นนายกฯ)

จุรินทร์ “ปิ๊งไอเดียแก้ผักแพง” จะส่งรถพุ่มพวง ๕๐ คันออกตระเวนขายผักราคาถูกในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล เป็นเวลา ๓๐ วัน เพื่อตีราคาตลาด ก็เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุระยะสั้นเท่านั้น ปีหน้าเวลาเดิมก็ต้องมาแก้ปัญหาเก่าอีก จาก ‘น้ำท่วม’

ไม่ใช่แค่ท่วมบ้าน แต่นี่ ‘ท่วมปาก’ ด้วย เมื่อศาลสั่งจำคุก ๖ เดือนนักศึกษาหญิงวิศวกรรมฯ ที่ไปประท้วงการปฏิเสธ ‘ดะ’ คำร้องขอประกันปล่อยตัวชั่วคราว ออกมาจากการคุมขังเพื่อดำเนินการต่อสู้คดีการชุมนุมประท้วง แต่ข้อหาหนัก หมิ่นกษัตริย์บ้าง ก่อการร้ายบ้าง

แต่กับเรื่องที่ดูแล้วไม่ชอบมาพากลขององค์กรศาล ใช้งบประมาณ ๑๔๙ ล้านเมื่อปีที่แล้ว (ปีก่อนหน้า ๙๘ ล้าน) เป็นค่าใช้จ่าย “เงินรางวัลประจำปี” ส.ส.ก้าวไกล อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ถามในสภาให้มาตอบหน่อย พร้อมกับเรื่อง ‘ค่าตอบแทนนอกเวลา’

ส.ส.เจี๊ยบว่าไปอ่านเจออะไรกัน ตลอดปีกว่าที่ผ่านมาประเทศมีปัญหาโควิดระบาดหนัก (ตอนนี้ก็ยังหนัก) ใครๆ เขาก็ทำงานที่บ้านกันทั้งนั้น ศาลยังต้องมีการจ่ายล่วงเวลาอีกเหรอ ปีที่แล้วมากถึง ๑,๐๔๗ ล้านบาท ทั้งที่ปี ๖๒ ยังแค่ ๖๕๐ ล้านบาทเอง

เรื่องแบบนี้มันสมประกอบหรือเป็นอารยะเหมือนชาวโลกเขาที่ไหน ทหารมีไว้ปลูกผักชี ศาลมีไว้ (ก้าว) ล่วงเวลา

(https://www.facebook.com/amarat.chokepamitkul/posts/4645824452164932, https://www.prachachat.net/politics/news-795690, https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_483051AHE0 และ https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_483286AhQ)