วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 21, 2564

บทกวีของพริษฐ์ ชิวารักษ์ เขียนขณะอยู่ในเรือนจำ ถึงผู้ต้องขังคดีการเมืองคนอื่นๆ ที่อยู่เรือนจำเช่นกัน


Voice TV
17h ·

บทกวีของพริษฐ์ ชิวารักษ์ เขียนขณะอยู่ในเรือนจำ ถึงผู้ต้องขังคดีการเมืองคนอื่นๆ ที่อยู่เรือนจำเช่นกัน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ปัจจุบันมีเยาวชนถูกคุมขังอยู่รวม 22 คน
มีทั้งแกนนำที่โดนคดี 112 และถูกคุมขังมากกว่า 2 เดือนแล้ว เช่น อานนท์ นำภา จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา พริษฐ์ ชิวารักษ์ ขณะที่ภาณุพงษ์ จาดนอก ถูกคุมขังมาราว 1 เดือน และล่าสุดคือ เบนจา อะปัญ ที่ถูกขังราว 2 สัปดาห์ ในด้านไดโน่ นวพล ต้นงาม และเพื่อนอีก 2 คน ถูกคุมขังจากคดีการชุมนุมสาดสีที่สถานีตำรวจมาราว 3 สัปดาห์
ส่วนที่เหลือถูกจับกุมจากการชุมนุม โดยเฉพาะจากเหตุการณ์แยกดินแดง ซึ่งมีเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปีจำนวนมาก ถูกคุมขังที่สถานพินิจ นอกจากนี้ยังมีหญิงไร้บ้านชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุมคุมขังด้วย
อ่านรายละเอียดที่ https://tlhr2014.com/archives/36271...
======
แด่เพื่อนผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคน
ณ เวลาดึกดื่นคืนเดือนดับ
ทั่วทั้งคุกแคบคับล้วนหลับไหล
ไม่มีแม้แต่เพียงเสียงเรไร
ได้ยินเพียงเสียงใจใครบางคน
ที่อาจยังลังเลและเหว่ว้า
เมื่อเผชิญโชคชะตาใต้ฟ้าหม่น
ที่อาจยังหวาดไหวในตัวตน
เมื่อต้องมาดั้นด้นบนหนทาง
ที่มีรั้วลวดหนามกำแพงใหญ่
กันคนที่เคยใกล้ให้ไกลห่าง
แม้แต่จันทร์ก็ทิ้งใจให้เคว้งคว้าง
อยู่กับความอ้างว้างเคียงข้างตน
คืนนี้ดาวและเดือนต่างเลือนลับ
ใจเธอคงข้องคับและสับสน
ทุกข์ของเธอคงถาโถมจนถมท้น
น้ำตาเธอคงเอ่อล้นจนท่วมกรง
ประหนึ่งความเป็นคนเธอหล่นหาย
ใจทั้งใจบุบสลายกลายเป็นผง
เหมือนชีวิตทั้งชีวิตร่วมปลิดปลง
โลกทั้งโลกหมองลงกว่าเคยเป็น
เฉกเช่นนี้นี่หรือคือความทุกข์
บังเกิดได้ในคุกอันขุกเข็ญ
แต่หากเธอมองข้ามความลำเค็ญ
เธอก็จะมองเห็นว่าเส้นทาง
ถึงขรุขระทรหดคดโค้งเคี้ยว
มีขวากหนามคอยเกี่ยวคอยกีดขวาง
แต่วิถีที่เราไปไม่เลือนลาง
โน่นเส้นชัยชัดกระจ่างใช่ห่างไกล
เพียงเธอที่เดินหน้าฝ่าทางเปลี่ยว
ต้องเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นไม่หวั่นไหว
เรากองหน้าประชาชนจำทนไป
ขอจงใจเธอจำถ้อยสำคัญ
คุกขังกายเราไว้ใช่ความคิด
ไม่ขวางจิตที่ใฝ่ใจที่ฝัน
เหล็กลูกกรงกักดาวพรายได้ร้อยพัน
แต่มิอาจสะกัดกั้นกันแสงดาว
เพราะความจริงคือความจริงเป็นสิ่งแน่
จริงอยู่แม้ความเจ็บความเหน็บหนาว
อาจจะโบยบีบใจให้ปวดร้าว
แต่สัจจะอันสกาวยังพราวพราย
ทุกข์ที่เกิดท่ามกลางคุกย่อมทุกข์ใหญ่
แต่หากเลือดหล่อเลี้ยงใจไม่เหือดหาย
ถึงทนทุกข์เท่าใดถ้าไม่ตาย
เราย่อมได้หยัดย่ำย้ำจุดยืน
เพื่อจรรโลงโลกที่ใฝ่ให้แจ่มชัด
จงเย้ยฟ้าท้ารัฐคอยขัดขืน
เพื่อรักษาประชาธรรมจงกล้ำกลืน
ยิ้มเสพความขมขื่นของคืนวัน
ถึงคืนนี้เดือนดับราวหลับไหล
ยังมีแสงไสวแห่งไฟฝัน
อย่าปล่อยดวงใจดับไปกับจันทร์
คืนมืดนั้นไม่นานก็ผ่านไป
จากกวีซี่กรง
19 ตุลาคม 2564
เรือนจำพิเศษกรุงเทพ แดน 7