“ทุกอย่างจบพรุ่งนี้” วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าและกรรมการบริหาร ให้สัมภาษณ์ถึงการงัดข้อหรือลองพลังกันใน ‘พลังประชารัฐ’ เขาเป็นหนึ่งในแก๊ง ‘๓ ช.’ ที่กำลังจะถูก ‘รัฐประหาร’ เขี่ยออกโดย ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีแต่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค
ที่ว่าจบพรุ่งนี้ (๒๘ ตุลา) ก็คือในการประชุมคณะกรรมการบริหาร ๒๖ คนของพรรค หลังจากมีข่าวว่าประยุทธ์สั่งปลด ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคซึ่งมีปัญหากับนายกฯ อยู่ภายในจนต้องลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ล่าสุดเขาจัดการทำโพลความนิยม ส.ส.ของพรรคในภาคใต้
ส่วนจะจบอย่างไร แผนเอหรือแผนบี วิรัชเลี่ยงไปว่า “อยู่ที่หน้างานจะเป็นลักษณะไหน...ไม่มีแผนเอ ไม่มีแผนบี ไม่มีแผนสำรอง” ทั้งนี้นัยว่าเกมหยุดธรรมนัสมีอยู่ ๓ สูตร ได้แก่ กรรมการบริหารเกินครึ่งพากันลาออก ต้องประชุมเลือกใหม่ทั้งหมด
สูตรสอง หัวหน้าพรรค คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลาออกเอง ก็ทำให้กรรมการทุกคนพ้นตำแหน่งต้องเลือกกันใหม่ทั้งกระบิ สูตรที่สาม ธรรมนัสยอมลาออกเอง หากเขามีเส้นทางการเมืองสายใหม่ แต่กรณีนี้ว่ากันว่ายาก คนอย่างธรรมนัสสู้ขาดใจ
Thanapol Eawsakul บอกว่า “คนอย่างธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่มีทางที่จะถูกเล่นงานแต่ฝ่ายเดียว และถ้า ๓ ป. น็อคธรรมนัสไม่ได้ ก็หมายความว่าบารมีของ ๓ ป.ก็จะตกลงไม่น้อย” (รัฐประหารไม่สำเร็จก็เป็น 'กบฏ') ขนาดคุณพี่ ‘โทนี่’ ยังให้ความเห็นเรื่องนี้ไว้ด้วย
“คุณธรรมนัสเป็นนักเลงถ้าพูดคุยกันน่าจะพูดรู้เรื่อง แต่ถ้าเล่นกับแก ผมคิดว่าแกไม่ยอม” (เก็บมาจากเพจ ‘CARE คิดเคลื่อนไทย’) นอกจากนี้อดีตนายกฯ อันเป็นที่รักของพรรคเพื่อไทย ยังพูดถึงความ ‘อยากอยู่นาน’ ของประยุทธ์เอาไว้
ต่อการที่ “ประยุทธ์ไปถกกับกลุ่มสามมิตร กับกลุ่ม ๓ ป. เข้าไปมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ” ว่า “น่าจะต้องไปถามคุณเรืองไกรดู ว่าประยุทธ์เข้าข่ายครอบงำพรรคไหม เพราะประยุทธ์ก็ไม่ใช่สมาชิกพรรค”
พอนักข่าวถามวิรัชอีกว่า ประเด็นเปลี่ยนเลขาธิการพรรคฯ มีโอกาสส่อทำแท้ง เพราะเท่ากับนายกรัฐมนตรีเข้าไปครอบงำพรรคการเมือง อันนี้วิรัชชี้ตนเองก็พยายามหลีกเลี่ยง ได้แต่บอก “ท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาลอยู่แล้ว คงไม่ได้มาเกี่ยวข้อง”
แต่ว่า “ปัญหาของพปชร.จะส่งผลกระทบการทำงานในสภาหรือไม่ เพราะอาจทำให้เกิดสภาล่มหรือการผ่านร่างกฎหมายสำคัญ” นักข่าวไม่เลิกง่ายๆ วิรัชเลยออกลาย “การบริหารงานในสภาฯ ในการที่เป็นรัฐบาล...ถ้าไหวก็โหวต ถ้าไม่ไหวก็เลื่อน เหมือนอย่างที่เคยทำมา”
ชั้นเชิงแพรวพราว “ตรงนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะก็ผ่านมาแล้วตั้ง ๒ ปีครึ่ง จากคะแนนเสียงที่ปริ่มๆ เราก็พากันมาจนถึงวันนี้” เรื่องของการเมือง “มันมีเทคนิคหรือแท็กติกมากมาย” เลี่ยงได้เลี่ยง ผลประโยชน์ของประเทศเก็บไว้ก่อน รอได้
แต่ผลประโยชน์ในพรรค ในพวก และส่วนตัวต้องลุ้นกันก่อน ในเมื่อตอนนี้มีข่าวว่า “เก้าพลังประชารัฐลาออกจากกรรมการพรรค บี้ปลดธรรมนัสพ้นเลขาตามใบสั่งบิ๊กทำเนียบ ประวิตรหลุดด้วย” Sirote Klampaiboon@sirotek บอก
“เกือบทั้งหมดคือกลุ่มที่ประยุทธ์ตั้งเป็นรัฐมนตรี” แม้จะยังไม่ครบ ๑๔ คนตามที่ต้องการ ถึงกระนั้นก็ยังต้องลุ้นกันตัวเกร็งวันนี้ ว่าจะออกสูตรไหน สู้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ การประชุมใหญ่ที่ขอนแก่นไปโลด จะมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค และเพิ่มกรรมการบริหาร
ข่าวว่าจะมีสองหมอมาเป็นแกนนำพรรค คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค แทนที่ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และ “นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แกนนำกลุ่มแคร์ เป็น ผอ.พรรค พท.แทนนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ที่ออกไปรักษาตัว”
หมอชลน่านเปิดอกอ้ารับตำแหน่งไว้แล้ว “ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้ทำหน้าที่ ได้ทำงานให้พรรค ให้ประเทศชาติบ้านเมือง ตามเจตจำนงที่เราอาสามา” และอย่างแรกที่จะทำคือ “ต้องเติมเต็มเรื่องการมีส่วนร่วม เรื่องความเป็นเจ้าของพรรคจากประชาชน จากคนทุกชั้นทุกกลุ่ม”
หมายถึง “พรรคมีแนวทางที่จะรับที่จะให้โอกาสกับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะสมาชิกเดิมๆ ของเราที่มีความรู้ความสามารถ ถ้ามีความประสงค์ มีอุดมการณ์ มีจุดมุ่งหมายที่ทำงานด้วยกันได้ อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะปฏิเสธ”
ประชาธิปัตย์ ก้าวไกล พปชร. เพื่อไทย เผยไต๋กันหมดแล้ว มากบ้างน้อยบ้าง ตานี้ไปดูพรรคเด่นอีกพรรคเอาไง ‘ภูมิใจไทย’ ที่ทำท่าจะเป็น ‘King maker’ สมัยหน้า ดูจะไม่ใส่ใจใครประกาศอะไร เคลื่อนไหวอย่างไร ตั้งหน้าท่าเดียว รอรับ ‘งูเห่า’
เพิ่งทำพิธีรับขวัญสองงูเห่าตัวใหม่จากเพื่อไทย ไปเติมจำนวนงูเห่ารุ่นก่อนหน้าจากพรรคก้าวไกล ได้แก่ “พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ที่ถูกขับออกจากพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย สมบัติ รัตโน อดีต ส.ส.อุบลราชธานี”
(https://www.matichon.co.th/politics/news_3011901, https://thestandard.co/palang-pracharath-party-thammanat-phromphao/ และ https://www.khaosod.co.th/politics/news_6698396)