จดจารเอาไว้ ศาลรัฐธรรมนูญสร้าง ‘ไพบูลย์โมเดล’ ให้พรรคปลาซิวปลาสร้อย ‘ไปเข้าปาก’ พรรคใหญ่

ศาลรัฐธรรมนูญสร้าง ‘ไพบูลย์โมเดล’ ขึ้นมารอไว้แก้ปัญหาบัตรเลือกตั้งสองใบไหมนี่ เพราะต่อไปถ้าตู่ต้องสู้เลือกตั้งแบบแมนๆ ก็ให้พรรคปลาสร้อยปลาซิว ‘ยุบแล้วย้าย’ ไปรวมพรรคใหญ่ได้นิ ในเมื่อ “ถ้าทำได้ไม่ผิดคนอื่นก็ทำได้ไม่แปลก” อย่าง ‘วิษณุ’ ว่า

จะเรียก ‘เผาบ้านเอาประกัน’ เช่นที่ ชำนาญ จันทร์เรือง และมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ว่า หรือใช้ทฤษฎี ‘แตกแบ๊งค์พัน’ อย่างสุดโต่ง มันก็ไม่ต่างอะไรกับประทับตราครั่งให้กับการ ‘ดูด’ ส.ส.เข้าพรรคให้ได้เสียงข้างมากตั้งรัฐบาล

แม้นว่า ‘เต้’ ประกาศไม่ยุบพรรคไทยศรีวิไลย์ไปร่วมพรรคใหญ่ เหมือนพรรค ‘ไม่มีอุดมการณ์’ เผาบ้านเอาประกัน แต่ พิเชษฐ สถิรชวาล เผย “รู้สึกสบายใจหลังจากได้ฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ” กำลังเตรียมปิด ‘ประชาธรรมไทย’ ไปอยู่กับพลังประชารัฐ

“ได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพลังประชารัฐ” เรียบร้อยแล้ว หัวหน้าพรรค ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังบอกว่า “เราไม่ทิ้งกันเพราะดูแลร่วมรัฐบาลกันมา” ฟังพิเชษฐคุยเรื่องนี้แล้วต้องอ๋อ ตลก.รธน. บังเอิญคิดเหมือนกับ พปชร.

“หากรัฐธรรมนูญที่แก้ไขไปแล้วมีผลบังคับใช้ รวมถึงกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง ที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้า เราจะมี ส.ส.เขต ๔๐๐ คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ๑๐๐ คน...พรรคเล็กก็จะลำบาก” หัวหน้าประชาธรรมไทยคิดคำนวณ

“ดูแนวโน้มว่าขั้นต่ำของบัญชีรายชื่อหากคิด ๑% คะแนนขั้นต่ำจะต้องได้ ๓.๕ – ๓.๘ แสนคะแนน...ถามว่าพรรคเล็กจะอยู่อย่างไร” เดชะบุญเทพเจ้า ตลก.รธน.มาโปรดให้เกิดไพบูลย์โมเดล “เป็นแนวทางที่พรรคเล็กคงนำมาใช้ตัดสินใจ”

ต่างกับ ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย นพ.เรวัต วิศรุตเวช มีอีกความเห็น “เข้าใจว่าคนทั้งประเทศเหนื่อยใจจริงๆ...ตามหลักการแล้ว เรื่องนี้ควรจะผ่านการประชุมของสมาชิกทั้งหมด” ไม่ใช่ “ไพบูลย์กับกรรมการบริหารพรรคไม่กี่คนประชุมแล้วยุบพรรค”

ส.ส.เรวัตยังบอกด้วยว่า พรรคตนมี ส.ส. ๕ คน “ไม่คิดจะทำเช่นนั้น...มีศักดิ์ศรีหรือมีฐานเสียงของเขา ที่อาจจะไม่กล้าไปทำแบบนายไพบูลย์...มันคงทำไม่ได้ เพราะประชาชนที่เลือกเรามา เขาคงรู้สึกแย่ เพราะเขาไม่คิดจะให้เราไปรวมกับพลังประชารัฐ”

ดังนี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีไพบูลย์อย่าง ‘หมูๆ’ ‘ไปเข้าปาก’ พปชร.พรรครัฐบาล อีกแล้ว หรือจะเอาคำของ สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.มาใช้ก็ได้ว่า “ตีความทุกอย่างตรงตามข้อกฎหมาย...ถูกหลักนิติฯ แต่พังพินาศทางรัฐศาสตร์”

หลักนิติฯ “เมื่อสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่เป็น ส.ส. เมื่อพรรคถูกยุบ เขาก็มีสิทธิหาพรรคใหม่อยู่เพื่อคงสภาพเป็น ส.ส. เขาหาได้ใน ๓ วันก็ไม่แปลก เพราะกฎหมายให้เวลาถึง ๖๐ วัน” หลักรัฐศาสตร์ “ประตูแห่งเล่ห์กลของการหลีกเลี่ยงกฎหมาย”

ได้ถูกเปิดแล้วโดยศาลรัฐธรรมนูญ ข้อห้ามควบรวมพรรคในระหว่างอายุของสภาผู้แทนราษฎร ยกเลิกง่ายๆ ไม่ต้องคำนึงสภาพแวดล้อมใดๆ “จากนี้พรรคใหญ่ สามารถควบรวมพรรคเล็ก...แถมยังไปได้เป็นกลุ่มก้อน เป็นบรรทัดฐานใหม่อีกเรื่องสำหรับการเมืองไทย”

(https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_477826Wm0, https://www.khaosod.co.th/politics/news_6688574 และ https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_478155NJ0)