Thuethan Prasobchoke
26m ·
เมื่อคืนนี้ถ้าใครได้ดูคลิปที่นายกยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยพูดถึงมหาอุทกภัยเมื่อปี 54 แล้วย้อนไปดูข้อเท็จจริงต่างๆ มาเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
ความรู้สึกของคนอื่นไม่รู้ว่า รู้สึกและคิดอย่างไร
แต่ผมดูแล้วมีความรู้สึกว่า เสียดาย เสียดายเวลาของประเทศที่สูญไปอย่างเปล่าดาย 7-8 ปีที่ผ่านมา
เสียดายโอกาสของประเทศ โอกาสของประชาชนที่ควรได้ควรมี เสียดายความสามารถโดยรวมของประเทศที่ถดถอยลง
หากดูการจัดการวิกฤติน้ำท่วมในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ เทียบกับการจัดการน้ำท่วมยุคประยุทธ์และรวมไปถึงการจัดการวิกฤติโควิดด้วย
ถ้าจะเปรียบเทียบต้องเปรียบเทียบเป็นข้อๆ
1.การเผชิญวิกฤติ จะเห็นว่า การเผชิญหน้ากับวิกฤติ แม้ตอนนั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะเผชิญวิกฤติตั้งแต่ยังไม่มีอำนาจเต็ม เพราะน้ำท่วมมาก่อนที่จะแถลงนโยบายต่อสภา แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็พยายามเข้าเผชิญวิกฤติเร็วกว่ารัฐบาลประยุทธ์ และใช้อำนาจบริหารที่มีมา drive หรือขับให้ระบบราชการทำงานเท่าที่ทำได้ สิ่งไหนที่driveระบบราชการไม่ได้ก็พยายามเอาทรัพยากรของตัวเองมาทำ ยกตัวอย่างเช่น นายกยิ่งลักษณ์เช่าเหมาเฮลิคอปเตอร์เพื่อลงพื้นที่เอง
ในขณะที่ประยุทธ์การเผชิญวิกฤติปล่อยให้ระบบราชการเดินเหมือนสถานการณ์ปกติ ตัวประยุทธ์เองหลายครั้งก็ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา น้ำท่วมอุบล ประยุทธ์ไปทำใบเหรียงผัดไข่อยู่ที่สุราษฎร์ธานีอย่างนี้เป็นต้น
2.การช่วยเหลือเยียวยาหลังวิกฤติ
จะเห็นชัดในยุคยิ่งลักษณ์ว่า การเยียวยาทำได้ดีกว่าในยุคประยุทธ์ เหมือนอย่างอาจารย์ผู้หญิงที่พูดในคลิปว่า ได้กันทั่วถึงแม้จะไม่เท่าเทียม แต่นั่นเพราะปัญหาคือระบบราชการ
แต่ในยุคประยุทธ์ดันใช้ระบบราชการ ใช้รัฐราชการเป็นตัวขับเคลื่อน ต่างจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ใช้ระบบการบริหารจัดการมา drive ระบบราชการ ผลมันจึงค่อนข้างจะต่างกันอย่างที่บอก
3. ด้านการวางแผนและวางระบบหลังการเผชิญวิกฤติ
จะเห็นว่า ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์พอเผชิญกับปัญหาอุทกภัยปี 54 ก็ไม่จบตามเหตุน้ำท่วมที่จบลง แต่มาคิดแก้ทั้งระบบแทนการแก้ปัญหาเป็นคราวๆไปเหมือนที่ผ่านมา โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านเพื่อจัดการ 25 ลุ่มน้ำจึงถูกคิดขึ้น เพื่อแก้ทั้งท่วมทั้งแล้งในคราวเดียวกันให้จบ
รวมไปถึงการจะสร้างโครงข่ายคมนาคม 2 ล้านล้านบาท เพื่อเป็น growth engine ทางเศรษฐกิจ ที่ผมเคยเขียนไว้หลายครั้งแล้ว
ทั้งสองเรื่องนี้มันไปร้อยเรียงกับนโยบายอื่นๆทั้งการยกระดับรายได้ผ่านการทำค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ทั้งการยกระดับรายได้ผ่านราคาพืชผลทางการเกษตร
และมีกรอบเวลา มีวงเงินงบประมาณที่ชัดเจนว่า ทำ 7 ปี ใช้เงิน 2 ล้านล้าน
ถ้าไม่ถูกรัฐประหารโดยประยุทธ์ ประเทศนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่
นี่คือสิ่งที่ผมบอกว่า เสียดายเวลาและโอกาสของประเทศ และประชาชน
หันมามองรัฐบาลประยุทธ์ว่า วิกฤติแล้ง วิกฤติท่วม รวมถึงวิกฤติโควิดด้วยใน 2 ปีนี้ ถามว่า ประยุทธ์ได้คิดได้ทำนโยบายอะไรที่เป็นระบบและจะมีผลทำให้โครงสร้างของประเทศ และ โครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นผลดีต่อประเทศและประชาชนในอนาคตหรือไม่
คำตอบคือ ประยุทธ์ยังขับเคลื่อนประเทศด้วยระบบราชการปกติ ทำงานรูทีนเป็นวันๆไป กับกู้มาแจก ใช้เงินหมดก็กู้ใหม่ ผลงานบริหารจัดการที่เด่นชัดและภาคภูมิใจคือ คลองโอ่งอ่าง
พอเปรียบเทียบมาถึงตรงนี้ จะไม่ให้รู้สึกเสียดายเวลาและโอกาสที่เสียไปได้อย่างไร
อีกอย่างที่เห็นในคลิปเมื่อคืนก็คือ นายกยิ่งลักษณ์พูดเก่งขึ้น คล่องขึ้น
ที่สำคัญไม่มีแม้แต่คำเดียวที่จะโทษคนอื่น โยนความผิดให้รัฐบาลที่แล้ว แบบนี้เป็นลูกผู้หญิงอกสามศอกมากกว่าชายชาติทหารซะอีก