วันพุธ, สิงหาคม 18, 2564

Nobel laureate Malala Yousafzai is expressing concern about the fate of women and minorities in Afghanistan as the Taliban takes control of Kabul


Malala warns women, minorities in jeopardy as Taliban takes Kabul | ABC7

Aug 16, 2021

More: https://abc7.com/malala-yousafzai-afg...


The Momentum
9h ·

ผู้กำกับฯ หญิงเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงชาวโลก
ขอทุกคนส่งเสียงดังๆ เพื่อชาวอัฟกัน ก่อนตาลีบันยึดครอง
.
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ซาห์รา คาริมี ผู้กำกับภาพยนตร์ และประธาน Afghan Film บริษัทผลิตภาพยนตร์ของรัฐแห่งเดียวของอัฟกานิสถาน เขียนจดหมายถึงสมาพันธ์ภาพยนตร์ทั่วโลก และบรรดา ‘คนรักภาพยนตร์’ ระบายความในใจของเธอ ก่อนที่กลุ่มตาลีบันจะประกาศชัยชนะ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2021 จากการยึดครองเมืองต่างๆ ทั่วอัฟกานิสถานได้โดยสมบูรณ์ จากการทำสงครามยืดเยื้อยาวนานถึง 20 ปี
.
จดหมายของซาห์ราได้เรียกร้องให้ทุกคนร่วมกันส่งเสียงปกป้องชาวอัฟกานิสถานทุกคนให้รอดพ้นจากกลุ่มตาลีบัน เธอเริ่มต้นจดหมายว่า “ฉันเขียนจดหมายนี้ด้วยหัวใจที่แตกสลาย และยังคงมีความหวังลึกๆ ว่า ทุกคนจะร่วมกับฉันในการปกป้องผู้คนที่งดงามของประเทศนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาผู้สร้างหนังในอัฟกานิสถาน ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของตาลีบัน
.
“ไม่กี่สัปดาห์ก่อน กลุ่มตาลีบันได้เข้ายึดครองหลายพื้นที่ในประเทศ พร้อมกับสังหารหมู่ประชาชนไปอีกมาก ทั้งยังลักพาตัวเด็กไปจำนวนหนึ่ง มีการนำเด็กผู้หญิงไปขายเป็น ‘เจ้าสาวเด็ก’ ขณะเดียวกัน พวกเขายังสังหารผู้หญิง เพียงเพราะการแต่งตัวของพวกเธอ พร้อมกับควักลูกตาของพวกเธอ นอกจากนี้พวกเขายังได้ทรมานและฆาตกรรมเหล่านักแสดงตลก นักประวัติศาสตร์ และกวีที่เรารัก เช่นเดียวกับหัวหน้าฝ่ายวัฒนธรรมและฝ่ายสื่อของรัฐบาลชุดก่อนหน้า”
.
นอกจากนี้ ตาลีบันยังลอบสังหารเจ้าหน้าที่รัฐหรือทุกคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐ กองกำลังตาลีบันจับผู้ชายจำนวนมากแขวนคอประจาน และจับครอบครัวหลายแสนครอบครัวแยกออกจากกัน ปัจจุบัน หลายครอบครัวถูกจับมาไว้ในแคมป์ที่กรุงคาบูล บังคับให้ครอบครัวโยกย้ายจากถิ่นที่อยู่เดิม มาอยู่รวมกันภายใต้สภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขอนามัย ขาดแคลนอาหารและเสบียง จนมีการปล้นสะดมเกิดขึ้น และที่สำคัญ เด็กทารกจำนวนมากกำลังจะเสียชีวิตเพราะขาดนม นี่คือวิกฤติของมนุษยชาติ แต่ทั่วโลกกลับยังคงเงียบงัน
.
“เราเติบโตมาด้วยความคุ้นชินจากการเงียบงันของโลก แม้เราจะรู้ดีว่าไม่ยุติธรรมนัก แต่การตัดสินใจทอดทิ้งพวกเรา ประชาชนชาวอัฟกานิสถานครั้งนี้ ด้วยการถอนกำลังทหารออกจากสมรภูมิรบเป็นสิ่งที่ผิด นี่คือการทรยศประชาชน และทรยศต่อทุกการกระทำของชาวอัฟกานิสถานที่ช่วยกันเอาชนะสงครามเย็นให้กับโลกตะวันตกเมื่อหลายปีก่อน พวกเราทุกคนกำลังถูกลืมเลือนไป ภายใต้การปกครองยุคมืดในอุ้งมือของตาลีบัน และแม้ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่พวกเรา โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ กำลังกลับสู่ความพ่ายแพ้อีกครั้ง จากการทอดทิ้งพวกเราครั้งนี้
.
“พวกเราต้องการเสียงของทุกคน จากสื่อมวลชน จากรัฐบาล แต่องค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งหลายกลับเงียบงัน ราวกับว่าการยึดประเทศของตาลีบันนั้นเป็น ‘ข้อตกลงสันติภาพ’ ข้อเท็จจริงก็คือมันไม่ใช่ สิ่งที่เขาพูดนั้นเพียงเพื่อให้พวกเขาได้กลับคืนสู่อำนาจเท่านั้น ในขณะที่อยู่ในช่วงเจรจาทำข้อตกลง พวกเขาก็ยังคงทำเหมือนเดิม นั่นคือโหดเหี้ยมกับประชาชนอย่างเสมอมา”
.
ซาห์รายังบอกอีกด้วยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอได้สร้างวงการภาพยนตร์ขึ้นด้วยความยากลำบาก ท่ามกลางความเสี่ยงที่จะล้มเหลว ทว่าเมื่อตาลีบันขึ้นครองอำนาจ ก็มีโอกาสสูงที่จะ ‘แบน’ ผลงานศิลปะทุกประเภท เธอและผู้สร้างหนังคนอื่นๆ น่าจะอยู่รายชื่อต้องห้ามที่รัฐบาลตาลีบันต้องกำจัดต่อไป
.
“เมื่อใดก็ตามที่กลุ่มตาลีบันกลับเข้าสู่อำนาจ จะไม่มีเด็กผู้หญิงแม้แต่คนเดียวที่ได้เรียนหนังสือ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีผู้หญิงมากกว่า 9 ล้านคนในอัฟกานิสถานได้รับการศึกษา สิ่งที่น่าตกใจไม่แพ้กันคือ หลังจากกลุ่มตาลีบันยึดครองเมืองเฮรัต เมืองที่ใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ ผู้หญิงภายในเมืองเกือบครึ่งไม่ได้ไปเรียนมหาวิทยาลัย เหตุการณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อที่ทั่วโลกไม่รับรู้ พวกเขาใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็สามารถทำลายโรงเรียนเป็นจำนวนมาก และเด็กผู้หญิงกว่า 2 ล้านคน ถูกบังคับให้ต้องออกจากระบบการศึกษาทันที
.
“ฉันไม่เข้าใจโลกใบนี้เลย ฉันไม่เข้าใจความเงียบงันนี้ จริงอยู่ แม้ฉันจะอยู่สู้ต่อเพื่อประเทศของฉัน แต่ฉันไม่สามารถที่จะต่อสู้เพียงลำพังได้ ฉันต้องการพวกคุณ ได้โปรดช่วยเหลือพวกเรา ทำให้โลกใบนี้หันมาสนใจ ทำให้โลกหันมารับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในอัฟกานิสถาน
.
“โปรดช่วยพวกเรา บอกสื่อในประเทศของคุณว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในประเทศนี้ เป็นเสียงของนอกอัฟกานิสถาน เพราะหากกลุ่มตาลีบันยึดครองกรุงคาบูลได้เมื่อไร พวกเราคงไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตหรือการสื่อสารอื่นๆ ได้อีก โปรดบอกผู้สร้างภาพยนตร์และศิลปินของพวกคุณ เพื่อให้เป็น ‘เสียง’ แทนเสียงของพวกเรา
.
“นี่ไม่ใช่สงครามกลางเมือง นี่คือสงครามตัวแทน ซึ่งจบลงด้วยการที่สหรัฐอเมริกา ‘ตกลง’ กับตาลีบันได้ โปรดช่วยแชร์ข้อมูลเหล่านี้ไปยังสื่อมวลชน เขียนถึงพวกเราบ้างในโซเชียลมีเดีย”
.
ซาห์รายังร้องขอให้โลก อย่าหันหลังให้เธอ สิ่งที่เธอต้องการคือเสียงและแรงสนับสนุน ในนามของผู้หญิงอัฟกัน ศิลปิน และผู้สร้างภาพยนตร์ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยได้มากที่สุดในเวลานี้
.
“โปรดช่วยพวกเรา อย่าให้โลกหันหลังให้อัฟกานิสถาน โปรดช่วยพวกเรา ก่อนที่ตาลีบันจะยึดคาบูล พวกเรามีเวลาน้อยมาก บางทีอาจมีเพียงไม่กี่วัน เราขอบคุณทุกคนมาก จากก้นบึ้งของหัวใจ”
.
ด้วยความเคารพ
ซาห์รา คาริมี
.
อ่านจดหมายฉบับเต็ (ภาษาอัวกฤษ) ได้ทาง https://pbs.twimg.com/media/E8q-WxmXEAI8if4.jpg
.
เรื่อง: พาฝัน หน่อแก้ว
ภาพ: AFP
.....
Thanapol Eawsakul
4h ·

ตอนนี้คนที่เชียร์ ตาลีบัน ในการยึดครองอัฟกานิสถาน
มีอยู่อย่างน้อย 2 พวก
1. คือพวกที่เกลียดอมริกา เชียร์การต่อสู้เพื่อ "เอกราช" ของ "ประชาชน"
เช่น สเตตัสของอดีตคนเดือนตุลาคนหนึ่ง
ข่าวด่วน ตาลิบันเข้าคาบูล ยึดอำนาจรัฐได้แล้ว Abdul Ghani Batafar ผู้นำสูงสุดเข้าทำเนียบประธานาธิบดี จะเป็นประธานาธิบดีอาฟกานิสถานต่อไป
ไชโย แก่ชัยชนะของประชาชนอาฟกานิสถานภายใต้การนำของตาลีบัน
2. คนที่สนับสนุน หลักการของ "อิสลาม" ดังความเห็นของ เพื่อนของมิตรสหายท่านหนึ่ง
ดิฉันคนหนึ่งคะ ที่สนับสนุนตาลีบันสุดความสามารถคะ ด้วยประสบการณ์ทำงานในอัฟกานิสถานและปากีสถานมาร่วม17ปี และขอแชร์ประสบการณ์ตรงนี้ว่า ตาลีบันมีความเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนภายใต้หลักการศาสนาที่เค้านับถือสูงมากคะ ต่างกับหน่วยงานที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือหรือแทรกแซงในทุกๆด้าน จาก อเมริแคน คนกลุ่มนี้ ไร้มารยาทและไม่มีมนุษย์ธรรมอย่างรุนแรงคะ
ซึ่งจะแตกต่างกับคนในประเทศเช่น ซาห์รา คาริมี ผู้กำกับภาพยนตร์ และประธาน Afghan Film บริษัทผลิตภาพยนตร์ของรัฐแห่งเดียวของอัฟกานิสถาน เขียนจดหมายถึงสมาพันธ์ภาพยนตร์ทั่วโลก และบรรดา ‘คนรักภาพยนตร์’ ระบายความในใจของเธอ ก่อนที่กลุ่มตาลีบันจะประกาศชัยชนะ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2021 จากการยึดครองเมืองต่างๆ ทั่วอัฟกานิสถานได้โดยสมบูรณ์ จากการทำสงครามยืดเยื้อยาวนานถึง 20 ปี
https://www.facebook.com/.../a.16365331.../2766814666943553/