วันเสาร์, สิงหาคม 14, 2564
นักวิชาการกฏหมายชี้แนะ ช่วยกันเก็บหลักฐาน เพื่อจะไม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ละเมิดเราอีกต่อไป
Youth & direct democracy TH
15h ·
Youthdem knowledge : เราจะไม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ละเมิดเราอีกต่อไป!
เมื่อวานนี้(12 สิงหาคม 64) เครือข่ายนักกฎหมายและคณาจารย์นิติศาสตร์ ได้ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อการชุมนุมของประชาชน และมีเรื่องหนึ่งน่าสนใจในแถลงการณ์ที่เราอยากแชร์ไว้เป็นความรู้สำหรับพวกเราทุกคนนั้นคือ ”การเก็บหลักฐาน”
การเก็บหลักฐานมีความสำคัญมากๆ ในแง่ของการเอาผิด แน่นอนว่าช่วงที่ผ่านมานั้นรัฐเองก็มักจะหาหลักฐานมาจัดการปิดปากประชาชนอยู่สม่ำเสมอ คราวนี้ถึงตาพวกเราแล้วที่จะต้องช่วยกันเก็บหลักฐานเอาผิดการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของเจ้าหน้าที่กันบ้าง
สิ่งที่เราต้องทำคือ การใช้อุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นกล้อง หรือโทรศัพท์มือถือ เพื่อถ่ายรูปและวิดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐาน หากภายหลังเราต้องการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แน่นอนว่าในกรณีที่เห็นได้ชัดว่าเจ้าหน้าที่กระทำความผิด ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องมีความรับผิดตามมา
แม้จะฟังดูง่ายๆ แต่ในสถานการณ์นั้นเราเองก็ต้องรวบรวมสติ และเช็คความพร้อมของตัวเองด้วยว่าพร้อมขนาดไหน ถ้าไม่ให้รีบหลบไปในพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด และเราไม่สามารถปล่อยให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ว่าจะในระดับปฏิบัติการหรือบังคับบัญชา ใช้ความรุนแรงกับประชาชนได้โดยปราศจากความรับผิดอีกต่อไป
อ่านแถลงการณ์ตัวเต็มที่ https://www.facebook.com/1537755823140651/posts/2749973538585534/?d=n
เรื่องและภาพ : Youthdem team
: ไลลา ตาเฮ
ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง
Yesterday at 1:21 AM ·
.
แถลงการณ์ เครือข่ายนักกฎหมายและคณาจารย์นิติศาสตร์ 111 คน
.
ขอประณามการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อการชุมนุมของประชาชน
.
ภายหลังจากที่มีการชุมนุมสาธารณะเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามต่อประชาชนอย่างอุกอาจ และการดำเนินการที่เกิดขึ้นมิได้เป็นไปตามหลักการอันเป็นที่ยอมรับกันในอารยะประเทศ ซึ่งล้วนแต่กำหนดให้ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่จะสามารถกระทำได้ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง การเลือกใช้มาตรการต่าง ๆ ก็ต้องเป็นไปโดยอยู่ภายใต้หลักแห่งความได้สัดส่วนและภายใต้หลักความจำเป็น
.
ทั้งนี้ ในการชุมนุมสาธารณะเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม และวันที่ 10 สิงหาคม จะพบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มุ่งใช้กำลังและความรุนแรงเป็นเครื่องมือในการจัดการกับผู้ชุมนุมโดยมิได้เป็นไปตามหลักการซึ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป เช่น การยิงกระสุนยางจากพื้นที่สูง การยิงโดยมุ่งเข้าใส่ตัวบุคคล การยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปในที่ชุมนุมและพื้นที่ของชุมชนโดยไม่ใส่ใจต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้คน การยั่วยุผู้ชุมนุมให้เกิดความโกรธแค้น เป็นต้น
.
เป็นที่ยอมรับกันว่าการชุมนุมสาธารณะอาจเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดการละเมิดต่อกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายจราจร กฎหมายเกี่ยวกับการใช้เครื่องเสียง การเผาสิ่งของในที่สาธารณะ กระทั่งการฝ่าฝืนกฎหมายการชุมนุมสาธารณะ ฯลฯ แม้ผู้เข้าร่วมการชุมนุมจะมีการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว แต่การกระทำผิดต่อกฎหมายเหล่านี้ก็ไม่เป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถใช้ความรุนแรงต่อประชาชนเพื่อเป็นการตอบโต้ได้ตามอำเภอใจ
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจคือบุคคลที่ทำหน้าที่ในฐานะของกลไกของรัฐประเภทหนึ่ง หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อเกิดการกระทำอันเป็นความผิดต่อกฎหมายขึ้นก็คือการดำเนินการจัดการกับปัญหาภายใต้กรอบที่กฎหมายได้กำหนดไว้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมิใช่คู่ความขัดแย้งโดยตรงกับประชาชนในการปฏิบัติตามหน้าที่ หากเป็นผู้ใช้อำนาจรัฐจึงย่อมกระทำการอย่างระมัดระวัง หากจะมีการใช้กำลังหรืออาวุธก็ต้องเป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นมาตรการขั้นสุดท้ายหรือเป็นไปเพื่อป้องกันตนเอง
.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เป็นการเคลื่อนไหวของประชาชนในประเด็นปัญหาทางการเมืองดังที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาปัจจุบัน ข้อเรียกร้องเป็นความต้องการให้มีความเปลี่ยนแปลงของสถาบันการเมืองในเชิงโครงสร้าง การชุมนุมสาธารณะคือสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับและบัญญัติไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในรัฐธรรมนูญ ในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควรต้องกระทำด้วยการตระหนักถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนควบคู่กันไปอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง
.
แต่เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าในการรับมือกับการชุมนุมสาธารณะที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์วันที่ 7 และวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีปฏิบัติการซึ่งละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างสำคัญ พวกเราจึงมีความเห็นต่อสถานการณ์ดังกล่าว ดังต่อไปนี้
.
หนึ่ง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะของผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงาน โดยต้องดำเนินการในทุกวิถีทางไม่ให้เกิดการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
.
สอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อทำการสอบสวนค้นหาข้อเท็จจริง เฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนต่อการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามประชาชนเพื่อนำมาสู่การลงโทษในกรณีที่ได้มีการใช้อำนาจและปฏิบัติการที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ทั้งในส่วนของผู้บังคับบัญชาและในส่วนของระดับปฏิบัติงาน
.
หากสังคมปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงสามารถใช้ความรุนแรงในการปราบปรามประชาชนตามอำเภอใจโดยไม่ต้องมีความรับผิดใด ๆ เกิดขึ้น ก็จะทำให้การกระทำดังกล่าวกลายเป็นแนวทางปฏิบัติที่สามารถเกิดขึ้นได้ต่อไปอีกในอนาคต การใช้ความรุนแรงในลักษณะเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาเป็นอย่างยิ่งในห้วงเวลาปัจจุบัน เพราะจะเป็นการยอมรับให้รัฐไทยกลายเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดเหนือชีวิตและเสรีภาพของประชาชน อันเป็นสิ่งที่ขัดกับอุดมคติของการปกครองด้วยกฎหมายในสังคมไทยและในโลกปัจจุบัน
.
ด้วยความยึดมั่นในสิทธิเสรีภาพและระบอบประชาธิปไตย
12 สิงหาคม 2564
.
อ่านรายชื่อบุคคลที่ร่วมลงนาม ได้ที่
https://www.facebook.com/lawlawcmcm/posts/2749973538585534