ม็อบ ๗ สิงหา ดี-ร้าย ตาย-เป็น เดี๋ยวเห็นกัน จำนวนผู้ชุมนุมมาก-น้อย แรง-ค่อย ขึ้นอยู่กับท่าทีของตำรวจเป็นหลักใหญ่ สถานการณ์เท่าที่ผ่านมา ๑ คืนกับ ๑ วัน ก่อนถึงวันนี้แสดงว่าฝ่ายรัฐจัดเข้มในการปราบปราม ถึงอย่างนั้นฝ่ายเยาวชนยังยืนหยัด
เมื่อวานมีปฏิบัติการคุกคามกวาดล้าง “สน. คลองตัน บุกบ้านคุกคามสมาชิกการ์ดวีโว่ @wevothai อ้างว่ามาตรวจดูเฉยๆ แต่มาสองวันติด มาตั้งแต่เมื่อวาน กล่าวหาว่าถูกยุยงปลุกปั่นให้ใช้ความรุนแรง โดยไม่มีหมายใดๆ” (df@chayaphoz แจ้ง)
ตามด้วย “ตั้งแต่เวลา 11.00 น. มี ตร.ในและนอกเครื่องแบบมากกว่า 15 คน บุกตรวจค้นและยึดสิ่งของ ที่พักของสมาชิกกลุ่ม wevo หลังวัดชนะสงคราม โดยจะมีการพาตัวไปโรงพักและยึดรถยนต์-โทรศัพท์มือถือ อ้างว่าต้องนำไปตรวจสอบ” (@TLHR2014 รายงาน)
“เวลา ๒๒.๐๖ น. เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์โพสต์ว่า ตำรวจมาดักรอที่หน้าบ้านและคิดว่าคงไม่ได้ไปร่วมการชุมนุมแล้ว...คาดว่าพริษฐ์น่าจะเป็น ๑ ใน ๙ คนที่ถูกหมายจับจากเหตุชุมนุมหน้า ตชด.ภาค ๑ เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๔” (iLaw ระบุ) ‘โตโต้’ ปิยรัฐ จงเทพ เจอแบบเดียวกัน
วันนี้ศูนย์ทนายสิทธิมนุษยชนรายงานว่า “มีผู้ถูกควบคุมตัวไป บช.น.อย่างน้อย ๓ คน โดยในไลฟ์ยังเผยให้เห็นภาพตำรวจพยายามยึดสิ่งของบนรถมอเตอร์ไซต์ของ ๑ ใน ๓ คนที่ถูกควบคุมตัว” ปรากฏว่าในกล่องโฟมเป็น “ลูกตาลลอยแก้ว ที่ผู้ถูกยึดกำลังจะนำไปขาย”
“๗.๐๐ น. ตำรวจกองกำกับการสืบสวนเข้าค้นบ้านของ ‘ธนพ’ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์...ตำรวจทำการตรวจค้น ๓๐ นาที ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายใด” จากนั้น “๗.๓๐ น. เจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้าค้นห้องพักของจัสติน-ชูเกียรติ แสงวงค์”
การบุกเข้าตรวจค้นนักกิจกรรมและจำเลยคดีมาตรา ๑๑๒ คนนี้ในลักษณะที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการค้นหา ๕ ไร แล้วไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ เช่นกัน การคุกคามและท่าทีฮึ่มๆ ของตำรวจเช่นนั้นทำให้หลายคน (รวมทั้งพี่ ‘โทนี่’) บังเกิดความวิตกเรื่องอันตรายวันนี้
ไม่ว่าจะมีเสียงท้วง เสียงทักให้เปลี่ยนสถานที่ บ้างว่าไม่เหมาะเทสะ “พบกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เคลื่อนพลไปพระบรมมหาราชวัง” ยังไม่ใช่เวลานี้ บ้างว่าเจ้าของท้องที่อำมหิต จะเอาชีวิตไปทิ้งกันเสียเปล่า บ้างเชื่อรอเถอะ จะมีแลนด์สไล้ด์ในไม่ช้า
จะอย่างไรก็ตามทีเยาวชนปลดแอกยังเชื่อว่าการปกครองอย่างนี้ ทั้งที่เป็นมาและยังเป็นอยู่ ไม่มีทางให้ประชาชนได้ลืมตาอ้าปาก หากไม่เรียกร้อง และเอาแต่รอ ยิ่งมีเตรียมการรับมือขนาดหนัก ยิ่งแสดงชัดว่า ‘เขา’ ไม่ยอมลดราวาศอกแน่ๆ
กองกำลัง ๓๘ กองร้อย (รวมทั้งหน่วย ‘สุริโยไท’) ลงพื้นที่แล้วตั้งแต่ก่อนเที่ยง ก่อนเวลานัดหมายของเหล่าราษฎรตอนบ่ายสอง มีมวลชนที่แยกคอกวัวสักร้อยกว่าคน แต่หน่วยปราบดำพรึบมาตั้งแต่ผ่านฟ้า ด้านสนามหลวงเต็มไปด้วยกำแพงคอนเทนเนอร์และถังน้ำมัน
บนแนวคอนเทนเนอร์มีป้ายผ้าขนาดใหญ๋ ยาวหลายสิบเมตรบรรจุข้อความพิลึก ว่า “ทหารของพระราชา และตำรวจของประชาชน (คนดี) รวมพลังพร้อมปกป้องรักษา สิ่งศักดิ์สิทธิ์และสถานที่สำคัญของชาติ” มันบ่งบอกจิตสำนึกของความแปลกแยกขัดแย้งชัดแจ้ง
ว่าผุ้ถืออาวุธทำร้ายผู้อื่นได้ตามกฎหมาย ทหารเป็นของพระราชาและตำรวจเป็นเฉพาะของ ‘คนดี’ แล้วยังสิ่งที่พวกเขาปกป้องที่ว่า ‘ศักดิ์สิทธิ์’ นั่นคืออะไรกัน ‘สถานที่สำคัญ’ พอเดาได้ว่าคือปูชนียสถานแห่งนั้น ทว่าทำไมต้องป้องกัน ในเมื่อการชุมนุมเพียงไปยืนเรียกร้องหน้าวังเท่านั้น
มันศักดิ์สิทธิ์มากเสียจนฝ่ายประชาธิปไตยบางคนต้องถอยหลังให้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คนที่เคยไปร่วมชูสามนิ้วกับเยาวชนกระโดดลงจากรถเมื่อทราบว่าพวกเด็กจะพากันไปสำนักพระราชวัง มาวันนี้นอกจากประกาศไม่ร่วมม็อบ ๗ สิงหาแล้ว
เขายังโพสต์เตือนน้องว่า “เคารพการตัดสินใจ ฝากคำพูดกับน้องในเรือนจำพี่เชื่อว่าน้องเข้าใจพี่ นึกถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ อย่าว่าพี่เสือกนะเพราะเสือกจริง แกงสักหม้อได้มั้ยวะ #ไล่ประยุทธ์” หากเป็นยุทธวิธี ทางหนีทีไล่ก็พอฟัง
แต่ถ้าเป็นชั้นเชิงที่เขาใช้ประจำ ตีหัวให้เข็ด ยิงกระสุนยางให้เจ็บ หรือยิงด้วยลูกซองแล้วไล่เก็บศพโยนขึ้นกระบะรถเหมือนปี ๕๓ หากจะทำอีกในปี ๖๔ ก็อาจไปทำอีกในปี ๗๕ ครบรอบร้อยปีพอดีคงได้ ถ้าพวกเขาไม่ใจร้อนรอถึงแต่ละทศวรรษได้
นั่นหมายถึง ประชาธิปไตยแท้จริง ซึ่งประชากรมีสิทธิและเสียง ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบโดยชนชั้นนำ หรือผู้อ้างตนเป็นเจ้าของประเทศทั้งหลาย ได้ครองบ้านครองเมืองโดยประชากรต้องรับสภาพกันไปตามยถากรรม เหมือนกำลังกระอักบักโกรกกับโควิดฉะนี้หรือ
(https://twitter.com/paritchi/status/1423662100467970052 และhttps://www.facebook.com/100044327836684/posts/395189655301959/?d=n)