และการที่มีผู้หนึ่งอ้างว่า เคยเจอมากับตัวเองแล้ว เรื่องความเลวร้ายของวิธีการลงทัณฑ์ใน ‘คุกทวีวัฒนา’ จนกลายเป็นแฮสแท็กทวิตเตอร์อันดับหนึ่งขณะนี้ ในชื่อ #แอร์ไม่เย็น อันมาจากเรื่องที่เขาเล่าว่าโดนทำโทษที่ทวีวัฒนาเพราะสาเหตุนั้น
ยังมีการลงโทษที่นั่นซึ่ง ‘พิลึกพิลั่น’ ชนิดหยามเหยียดและข่มเหงศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ ได้สุดกู่หาใดเทียบ ประมาณเดียวกับโพสต์ของ Sinsawat Yodbangtoey ที่ว่า “จิตวิปลาสเกินกว่าจะสรรหาคำบรรยาย ประเทศไทยจึงเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง”
‘เศร้าหมอง’ ยามนี้ย่อมหมายรวมถึงความหวั่นกลัวโรคระบาดร้าย โควิด-๑๙ ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถแก้ไข จนมีคนตายรายวันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อเพิ่มวันนี้ ๒๑,๓๗๙ ราย ตายอีก ๑๙๑ จนศูนย์ข้อมูลโควิด ต้องพลิกแพลงแถลงแจ้ง
เอาตัวเลข ‘หายป่วยกลับบ้าน’ ได้แล้วมาเทียบเคียงให้เห็นเด่นว่า จำนวนคนหายป่วยมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ หากแต่ใครไม่คิดติตรองจะไม่นึกถึงข้อเท็จจริง ว่าคนหายป่วยจะมากกว่าคนที่เพิ่งติดเชื้อได้อย่างไร เพราะไม่แจงให้ชัดความต่างของสะสมสองเดือนกับวันเดียว
เรื่องเศร้าที่ยังจะต่อเนื่องไปอีกหลายเดือนอยู่ที่ ยังมองไม่เห็นผลการใช้มาตรการล็อคดาวน์ ๑๔ วัน เพราะการฉีดวัคซีน ‘ปูพรม’ ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เข้าข่าย ‘too little, too late’ เพราะปัญหาวัคซีนดีๆ ไม่ค่อยมีใช้ และที่ระดมฉีดไปแล้ว ประสิทธิภาพด้อย
ความพยายามของเอกชนจะช่วยเสริม ให้มีวัคซีนคุณภาพและอุปกรณ์การแพทย์ สนองความต้องการมากขึ้น ต่างประสพกับความล้มเหลว เพราะไปติดขัดกฏระเบียบจำกัดของคำสั่งรัฐบาล ดังนพ.บุญ วนาสิน ประธานกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรีได้เจอ
ทั้งที่ได้ติดต่อกับตัวแทนผู้ผลิตวัคซีนไฟ้เซอร์จนช่องทางปรุโปร่งแล้ว กลับ “ไม่สามารถหาองค์กรนำเข้าในเมืองไทยได้ จึงถูกยึดค่ามัดจำไปแล้ว ๒-๓ ครั้ง” ยอมรับว่า “๙๐% เอาเข้าไม่ได้แล้ว” แต่วัคซีน mRNA ที่เข้าในประเทศ ไปโผล่ที่บุรีรัมซ์ ๙ พันกว่าโด๊สเซส
อีกกรณี คนไทยในเยอรมนี “เดินไปไหนก็เจอชุดตรวจเร่งด่วนราคาถูกแสนถูกวางขายเต็มไปหมด ทุกครั้งที่เห็นก็ได้แต่คิดถึงคนที่บ้าน หลายคนลองซื้อส่งไปรษณีย์ไป ก็โดนยึด แม้แต่พยายามกว้านซื้อแล้วส่งจำนวนพันชุด ก็ติดที่ไม่มีหน่วยงานไหนให้ความร่วมมือ
ความพยายามบริจาค “ให้กลุ่มคนดูแลกันเอง ไปช่วยในแคมป์คนงาน” กลับต้องเป็นหมัน “เงื่อนไขหลักๆคือ ต้องบริจาคผ่านหน่วยงานรัฐ...ยิ่งทำเรื่อง ยิ่งลากยาว...สถานการณ์ในเมืองไทยก็แย่ลงทุกวัน ดูแล้วคงไม่มีหวัง” Surarak Langer ครวญว่า
“เสียใจมากๆ รู้สึกแย่จริงๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกีดกันขนาดนี้” แต่นี่คือวิธีการบริหารจัดการอย่างรัฐเผด็จการ ซึ่งจำกัดและควบคุมโดยไม่คำนึงว่ามันสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างมากล้น สะท้อนจิตสำนึกแบบอำนาจนิยม ซึ่งวนเวียนอยู่ในวังวนของการเป็น ‘ไทยๆ’ ไม่เหือดหาย
โดยเฉพาะด้านสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ดังการนัดชุมนุมของกลุ่ม ‘ราษฎร’ วันพรุ่งนี้ ๗ สิงหาคม ก็ปรากฏว่าตำรวจได้ประชุมรับมืออย่างเด็ดขาด “ตั้งธงว่าจะยัดคดีทั้ง พรก.ฉุกเฉิน ม.๑๑๖ (ยุยงปลุกปั่น) ม.๑๑๒ และ ม.๑๑๓”
เป้าหมายสำคัญ “จับกุมแกนนำ ให้เร่งดำเนินการก่อนถึงวันที่ ๗” ขณะนี้จึงมี “ศาลธัญบุรีออกหมายจับ ‘เพนกวิน’ กับ ‘ฟ้า’ และแกนนำราษฏรกรณีประท้วงสาดสีบริเวณหน้าค่าย ตชด.ภาค ๑ ที่ไปเรียกร้องให้ปล่อยตัว ‘ไผ่ดาวดิน’ กับพวก เมื่อวันที่ ๒ ส.ค.”
ด้านพรรคการเมืองลิ่วล้อ ร่วมรัฐบาล โดยโฆษก ปชป. ออกมาคาดโทษต่อการที่แกนนำคณะราษฎรประกาศว่าจะมีการยกขบวนไปยื่นข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ที่สำนักพระราชวัง” พร้อมกันนั้น ราเมศ รัตนะเชวง ถือโอกาสหาแสงไปด้วย
นอกจากกล่าวร้าย “แกนนำ ทั้งการใช้ถ้อยคำหยาบคาย ข่มขู่ คุกคาม ก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบัน...ขอให้เจ้าหน้าที่ยึดหลักในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด” แล้วยังฉวยโอกาสกล่าวหา “ที่ผ่านมา มีพรรคการเมืองบางพรรคให้ท้ายสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมนี้ด้วย”
ถึงจะเป็นข้ออ้างอย่างโคมลอย พรรคนี้ก็เคยใช้ได้ผลมาแล้วหลายครั้งในอดีต และนี่เป็นสัญญานว่าพรรคนี้พร้อมที่จะทอดตัวเป็นลูกไล่ให้ท้าย กับการที่ผู้ครองเมืองจะนำ #คุกทวีวัฒนา มาใช้เป็นโมเดลจัดการกับประชาชนเหมือนในอดีตอีก
(https://www.facebook.com/surarakj/posts/4506712019367619, https://www.thairath.co.th/news/politic/2159571 และ https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/10162027054734848)
