วันศุกร์, สิงหาคม 13, 2564

เครือข่ายบุคลากรทางการเเพทย์ ออกแถลงการณ์ คัดค้านพรก.นิรโทษกรรมวัคซีน



ภาคีบุคลากรสาธารณสุข
10h ·

แถลงการณ์ร่วมเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ เรื่อง ขอแสดงความกังวลต่อสาระสำคัญในร่าง พ.ร.ก.จำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุข
 
หลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 282 เมื่อ 26 กรกฎาคม 2564 ซึ่งกำหนดให้บุคลากรสาธารณสุข 7 กลุ่ม และสถานพยาบาล 3 ประเภท ไม่ต้องมีความรับผิดทางกฎหมาย ทั้งทางแพ่ง อาญา วินัย และการละเมิดของเจ้าหน้าที่ ได้นำไปสู่ข้อถกเถียงและคัดค้านอย่างมากในสังคม โดยเฉพาะในเนื้อหาสาระของข้อ 7 ในร่าง พ.ร.ก.จำกัดความรับผิดฯ ซึ่งระบุว่า
“บุคคล/คณะบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งหรือมอบหมายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหาหรือบริหารวัคซีน” จะได้รับการคุ้มครองโดยไม่ต้องรับผิดทางกฎหมาย ทั้งทางแพ่ง อาญา วินัย และการละเมิดของเจ้าหน้าที่ โดยกำหนดเงื่อนไขยกเว้นความผิดไว้ 3 กรณี คือ 1. ทำตามที่ถูกแต่งตั้ง/มอบหมาย 2. ไม่ได้จงใจให้เกิดความเสียหาย เว้นแต่เพื่อประโยชน์ราชการ 3. ไม่ได้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เเละให้มีผลย้อนหลัง ตั้งเเต่วันที่ 1 มีนาคม 2563
ข้อกฎหมายดังกล่าวโหมคำถามขึ้นในสังคมว่า จริงหรือไม่ที่หากมองเผินๆ ร่าง พ.ร.ก.ฯ ฉบับดังกล่าว ดูราวกับเป็นการปกป้องบุคลากรการเเพทย์ระดับปฎิบัติงาน แต่แท้จริงแล้วตีความและกินความไปถึงการปกป้องผู้มีอำนาจบริหารสั่งการ ให้ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการบริหารงานที่ผิดพลาด?
อย่างไรก็ตามท่ามกลางเสียงคัดค้านของสังคม วานนี้ (11 สิงหาคม 2564) ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมผู้บริหารและสภาวิชาชีพด้านสุขภาพได้ออกแถลงการณ์ “ขอให้รัฐบาลหามาตรการเพื่อคุ้มครองผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนนักวิชาการด้านโควิด-19 ป้องกันความผิดพลาดจากการปฏิบัติงานโดยสุจริตใจ” ซึ่งสอดรับกับแนวทางการผลักดันร่าง พ.ร.ก.ฯ ฉบับดังกล่าว แม้ว่าจะมีกฎหมายที่ปกป้อง “ความผิดพลาดจากการปฏิบัติงานอย่างสุจริตใจ” ของบุคลากรทางการแพทย์อยู่แล้วในกฎหมายฉบับอื่นๆ
เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ขอแสดงจุดยืนว่าในสถานการณ์วิกฤต หากบุคลากรทางการแพทย์ท่านใดยึดมั่นทำงานตามมาตรฐานวิชาชีพและปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นสำคัญ ไม่ว่าท่านกำลังปฏิบัติงานด่านหน้าในภาวะยากลำบาก หรือกำลังให้คำแนะนำทางวิชาการเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจสำคัญต่างๆ เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น ข้อผิดพลาดนั้นย่อมเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในเงื่อนไขของการปฏิบัติงานภายใต้ข้อจำกัดด้านทรัพยากรอย่างรุนแรง
อีกทั้งการปฏิบัติงานในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 หากเกิด “ความผิดพลาดจากการปฏิบัติงานอย่างสุจริตใจ” ยังได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายภายใต้การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพ.ร.บ.อื่นๆ อีกจำนวนมากซึ่งคุ้มครองผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายคุ้มครองเพิ่มเติมที่อาจเอื้อประโยชน์ต่อผู้มีอำนาจบริหารสั่งการแต่อย่างใด
ทางเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ขอยืนยันว่าการพยายามผลักดัน ร่าง พ.ร.ก.จำกัดความรับผิดฯ โดยรัฐบาล รวมถึงการออกเเถลงการณ์ขอมาตรการคุ้มครอง โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมผู้บริหารและสภาวิชาชีพฉบับดังกล่าว อาจส่งผลนำไปสู่การสกัดกั้นกระบวนการตรวจสอบผู้มีอำนาจบริหารสั่งการให้ไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนอย่างเป็นธรรมได้
อีกทั้งหากมีการบริหารจัดการต่อสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 โดยบุคคลหรือหมู่คณะใดซึ่งนำมาสู่ความเสียหายทั้งในทางชีวิตของประชาชน การสูญเสีย และความเจ็บปวด ด้วยวิถีที่ผิดแผกจากความสุจริตหรือพ้นไปจากหลักวิชาชีพ เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ยืนยันว่าจำเป็นต้องมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และจะต้องรับผิดทางกฎหมายเพื่อเป็นข้อยืนยันความบริสุทธิ์ใจต่อประชาชน
เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ จึงขอเชิญชวนผู้สนใจร่วมลงชื่อคัดค้านร่าง พ​.​ร​.​ก.จำกัดความรับผิดฯ ฉบับนี้ได้ทาง Change.org/AmnestyBill
เครือข่ายบุคลากรทางการเเพทย์
12 สิงหาคม 2564
#คัดค้านพรกนิรโทษกรรมวัคซีน