วันอาทิตย์, สิงหาคม 08, 2564

“พบกลุ่มเป้าหมาย ให้ยิงได้เลย อนุญาต” ถ้างั้น "การชุมนุมแบบที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า (ถ้าไม่เลิกเสียก่อน) ก็ไม่อาจจะประสบความสำเร็จเช่นกัน” เหรอ

“พบกลุ่มเป้าหมาย ให้ยิงได้เลย อนุญาต” เสียงชัดประกาศออกโทรโข่งฝ่ายตำรวจ ในเหตุการณ์ดักตีผู้ชุมนุมที่แยกดินแดง เมื่อ ๗ สิงหา มิน่า กฤษณะ พัฒนเจริญ คนที่มีดาวบนบ่าถึงได้สำราก “ถ้าไม่เล็งไปที่ผู้ชุมนุม แล้วจะเล็งไปที่ไหน”

มีคนแถวนี้กระซิบบอก แต่ต้องเขียนในทำนองเสนาะ ไม่ใช่แร้ปแบบต้นตอ อะ “เล็งไปที่ศีรษะบิดาคุณ สิ” ซ้ำเขายังวางก้ามกับนักข่าวที่ตั้งข้อสังเกตุว่า แนวตั้งรับของตำรวจนั่นเปิดฉากยิงก่อนนะ ผู้พันกร่างตอกกลับ “แนะให้ตั้งคำถามสร้างสรรค์”

เหตุนี้ ตัวใหญ่สุด ไอตู๊บถึงได้ชม “ตำรวจระงับเหตุตามสถานการณ์ความจำเป็น...ขอบคุณทำหน้าที่” ดังนายสั่ง อ้างตัวบท พรบ.โรคติดต่อ พรก.ฉุกเฉิน และคำสั่ง ศปม. “ทำทรัพย์สินเสียหาย ประชาชนเดือดร้อน” ด้วยกระสุนยาง-แก๊สน้ำตา นั่นนะ

ทั้งคลิป ทั้งรายงานจากผู้อยู่ในเหตุการณ์ จะแจ้งอยู่แล้วว่าตำรวจเป็นฝ่ายเปิดฉาก ยิงจากสะพานสกายว้อคเอย และซุ่มยิงใต้ทางด่วน เห็นอะไรวับๆ แวมๆ เหนี่ยวไกแม่งก่อน หนำซ้ำยังจัดฉากเผารถของตำรวจ หมายป้ายสีประชาชน

แต่มันไม่สมเหตุสมผลตรงที่ ผู้ชุมนุมจะเผารถตู้ที่ตำรวจใช้ควบคุมตัวพวกเดียวกันของตนทำ ๕ ทำ hear ไรกัน หนึ่งในผู้สนับสนุนเยาวชน ณัฐวุฒิ บัวประทุม@nuttha_MFP แจ้งว่า “รถตำรวจที่ไหม้ไฟตรงมุม รพ.ราชวิถี อยู่ดีๆ ก็ขับเข้ามาคันเดียว” ก่อนไหม้

“ไม่รู้มาได้อย่างไร ตำรวจล้อมไว้เกือบทุกด้าน ปาฏิหาริย์เหลือเกิน” อานนท์ นำภา เลยออกแนวบริภาษณ์ “เผาเองแล้วโยนความผิดให้เด็ก (เยะแม่ง)” แล้วยังมีอาวุธชนิดใหม่ใช้คราวนี้ด้วย ‘Taser guns’ ปืนช็อตไฟฟ้า กระบอกละ ๗๙,๙๙๐ บาท

ทั้งหมดรวม “๒,๗๐๐ กระบอก เป็นเงินทั้งสิ้น ๒๑๕,๗๓๐,๐๐๐ บาท เอาเงินภาษีประชาชนมาซื้ออาวุธไว้เข่นฆ่าประชาชน” Thalufah-ทะลุฟ้า@Thalufah ประจาน ให้สาวไปถึงการกระทำรุนแรงของตำรวจทั้งกระบวนในครั้งนี้ “ไม่เป็นไปตามหลักสากล”

ความเห็นด้านกฎหมายจาก iLaw บอกว่าการ “ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางกับผู้ชุมนุมอย่างกว้างขวาง ทันทีที่เริ่มเดินขบวนไปทางตำรวจ โดยผู้ชุมนุมยังไม่ได้ก่อความรุนแรงก่อน เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ” หากประเมินตามข้อวินิจฉัยของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ฉบับที่ ๓๗

“การชุมนุมบริเวณแยกดินแดง กลุ่มผู้ชุมนุมเพียงแต่พยายามรื้อถอนสิ่งกีดขวางของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแม้จะมีปฏิบัติการตอบโต้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยการจุดประทัดและการยิงลูกแก้วด้วยหนังสติ๊กใส่ตำรวจ แต่ก็ไม่ใช่การใช้ ความรุนแรง”


ข้อเท็จจริงอันสำคัญซึ่งไอลอว์ระบุ การขว้างปาและต่อสู้โดยผู้ชุมนุม “เกิดขึ้นภายหลังตำรวจเริ่มใช้กำลังเข้าใส่ผู้ชุมนุมแล้ว” นอกจากนั้นมีหลักเกณฑ์การควบคุมผู้ชุมนุมด้วยกำลังที่องค์การสหประชาชาติ (OHCHR) วางไว้จำเพาะถึง การใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตา

“รัฐต้องยิงใส่กลุ่มบุคคลที่ก่อความรุนแรงจากระยะไกล” ทั้งที่ “การกระทำของผู้ชุมนุมบริเวณแยกดินแดงยังไม่นับว่าเป็นความรุนแรงตามหลักสากล” ตำรวจยิงสุ่มสี่สุ่มห้าทำให้ ผู้ไม่เกี่ยวข้องแต่บังเอิญเดินทางผ่าน รวมทั้งเจ้าของร้านค้าบริเวณนั้น ได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ดีปรากฏว่ามีเสียงตำหนิติติงจากคนที่คล้ายจะอยู่ในฝ่ายต้านเผด็จการ กล่าวหากลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ ‘Free Youth’ และ ‘ReDem’ ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดชุมนุมคราวนี้ ว่าผลักดันการชุมนุมทั้งที่ไม่ควรทำ แรกๆ บางคนพูดถึงเรื่อง ไปวัง

แม้นว่า หน้างาน กลุ่มเยาวชนเปลี่ยนแปลงเป้าหมายจากวังไปสำนักนายกฯ แทน ตำรวจก็ไปดักรอตีที่แยกดินแดงพร้อมอาวุธ ปราบครบมือแล้วอยู่ดี เสียงบ่นของ Nattharavut Kunishe Muangsuk สะท้อนความแปลกแยกภายในกระบวนการแจ่มแจ้งขึ้น


พวกเขาแค่ประกาศชุมนุม แค่เคลื่อนขบวน ไม่ได้ไปฆ่าใครตาย พวกเขาไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ในมือที่พอสู้กับกระบองและกระสุนยางหรอก คนโดนยิงก็พวกเขา แต่ทำไมไปด่าเหยื่อซ้ำ” ถึงขนาดหาว่า พาคนไปตาย ก็มี หรือเบาะๆ ก็แบบ จอมยุทธศาสตร์

ว่า “การชุมนุมแบบ Redem นี้ ยากจะปฏิเสธว่า คงไม่อาจนำมาซึ่งชัยชนะได้ จะว่าไปแล้ว การชุมนุมแบบที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า (ถ้าไม่เลิกเสียก่อน) ก็ไม่อาจจะประสบความสำเร็จเช่นกัน” เยาวชนเขาประกาศแล้ว วันที่ ๑๐ สิงหา เอาอีก

Free Youth หรือ REDEM นี่ถึงตอนนี้เหมือนหัวขบวนที่ทำหน้าที่คอยเป่านกหวีดให้บรรดามวลชนที่ไม่พอใจรัฐได้ออกไปชุมนุม ที่ไหน เมื่อไหร่ ยุทธศาสตร์มีเท่านี้” ในภาวะการณ์ที่นักต่อสู้ ชั้นนำ คิดแต่จะให้แลนไสล้ด์ได้อย่างไรมากกว่า

“อย่าดูแคลนมวลชนเลย” Nattharavut วอน “มวลชนบางกลุ่มเขาไม่ได้คิดซับซ้อน ออกไปสู้ออกไปเจ็บ กลับมารักษาตัว แล้วออกไปใหม่ และเขารู้ดีว่านี่มันเกมยาว ไม่ได้จะเอาชนะง่ายๆ อย่าเพิ่งบอกว่าเขาใจร้อน...เปิดใจกว้างๆ ทำความเข้าใจ

หนทางการต่อสู้ยังอีกยาวไกล อย่าเพิ่งบั่นทอนแนวร่วมกันเองเลย ยกเว้นว่าไม่ใช่ อันนั้นตามสบาย ผมไม่ได้หมายถึงคุณ” คนใดคนหนึ่ง และพึงสังวรณ์ “คนด่าไม่ได้ไป คนไปไม่ได้ด่า” นั่นละสัจธรรม

(https://www.facebook.com/nattharavutm/posts/10159556864658582, https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10165737661525551 และ https://facebook.com/100001454030105/posts/4343996965658728/?d=n)